Blockdit Logo (Mobile)
Environman
•
15 มี.ค. 2022 เวลา 09:58 • สิ่งแวดล้อม
ปอดโลกวิกฤตต่อเนื่อง ป่าแอมะซอนในบราซิลเผชิญการตัดไม้ทำลายป่าทุบสถิติในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ท่ามกลางความกังวลว่าผืนป่าแห่งนี้ กำลังใกล้ถึงจุดแตกหัก เปลี่ยนผันสู่ทุ่งหญ้าสะวันนาแทนป่าฝน ไม่สามารถหวนคืนได้
ป่าแอมะซอน เป็นป่าฝนที่กว้างใหญ่ที่สุด ขนานนามว่าปอดของโลก โดยมีความสำคัญต่อสุขภาพของโลก เป็นแหล่งที่ดูดซับก๊าซต่างๆ และแหล่งอาศัยของสัตว์และพืชป่านานาชนิด ซึ่งพื้นที่ป่าแอมะซอนในบราซิลครอบคลุมพื้นที่ราว 60% ของทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผืนป่าแห่งนี้กำลังเผชิญภัยคุกคามอยู่ในขั้นวิกฤตน่ากังวลอย่างมาก
ข้อมูลจากหน่วยงานอวกาศรัฐบาลบราซิล INPE ชี้ว่าการตัดไม้ทำลายป่าแอมะซอนในประเทศ ปี 2022 ได้สูงขึ้นทุบสถิติของเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกมาในปี 2015 โดยการตัดไม้ทำลายป่าเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในบราซิลอยู่ที่ 199 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเพิ่มจากเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วถึง 62%
ตลอดที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Jair Bolsonaro ของบราซิลถูกวิจารณ์ต่อความอ่อนแอในด้านการแก้ไขปัญหา และได้รับแรงกดดันจากนานาชาติในการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า โดยเมื่อปีที่ผ่านมา บราซิลได้สัญญาว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าในปี 2028 และได้ลงนามในข้อตกลงของโลกว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2030
อย่างไรก็ตาม หลังจากบราซิลประกาศข้อตกลงเหล่านี้ ข้อมูลจาก Inpe ก็ชี้ให้เห็นว่าการตัดไม้ทำลายป่าแอมะซอนของบราซิลในปี 2021 นั้นสูงที่สุดในรอบ 15 ปี และข้อมูลล่าสุดจากมกราคมนี้ทำให้เห็นว่าการทำลายยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ งานศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่าป่าแอมะซอนกำลังเข้าใกล้สู่จุดเปลี่ยนผัน ที่จะเปลี่ยนจากพื้นที่ที่ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ของป่าฝน กลายเป็นทุ่งหญ้าสะวันนา นักวิจัยได้เตือนว่า หากเวลานั้นมาถึงแล้ว มันจะสายเกินไปที่จะหยุดยั้งได้ โดยจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาลที่ยิ่งเร่งภาวะโลกร้อนยิ่งขึ้นอีก ซึ่งจุดแตกหักนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากมันไม่สามารถหวนกลับคืนสู่สภาพเดิมได้แล้ว
ถึงกระนั้น ข้อมูลก็ยังชี้ว่าจุดแตกหักนี้ยังไม่มาถึง และยังคงมีความหวัง ซึ่งงานศึกษานี้ได้สะท้อนถึงความสำคัญในมาตรการการยุติการตัดไม้ทำลายป่า และการเสื่อมโทรมของแอมะซอน เพื่อให้มีความมั่นคงต่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ที่มา:
โฆษณา