15 มี.ค. 2022 เวลา 12:59 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย : บันทึกบทที่ 4
ฉันรู้แค่ว่า รู้สึกดีที่ได้ทักทาย และเฝ้ารอการมาเยือนของคุณ และหลาย ๆ ครั้งสิ่งที่สื่อออกมาตรงกันจนน่าตกใจ ว่าทำไมคุณคิดเหมือนกัน พูดสิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่ในหัวออกมา ซึ่งเหมือนกับว่าคุณอ่านความคิดของฉันได้เหรอ
1
แม้ในวันที่ไม่สบายก็ยังเป็นเรื่องเดียวกัน
นานวันเข้าโทรจิตยิ่งแรง สื่อถึงกันเหมือนอยู่ตรงหน้า
ฉันเริ่มงงและสงสัย
คิดว่าวันนี้คุณจะคุยกับฉันเรื่องอะไร แล้วพอคุณมาหาฉันที่หน้าร้าน สิ่งที่คุณพูดออกมา ก็ใช่ เหมือนเรื่องที่ฉันคิดไว้
ฉันไม่รู้ว่าคุณจะรู้สึกเหมือนกันไหม หรือเคยสังเกตเห็นหรือเปล่า ว่าเราคิด และพูดเรื่องเดียวกัน
สำหรับฉัน มันคือเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิต ที่มีใครคนหนึ่งพูดสิ่งที่อยู่ในความคิดของเราออกมา
เฟอร์อ่านบันทึกของคุณยายแล้วสะดุดใจกับเรื่องโทรจิต เพราะเธอเองก็เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ จึงคิดว่าต้องรีบลงมือเขียนเท่าที่พอจะจำได้ แต่มันก็ผ่านมานานมากแล้ว เธอเองก็เลยต้องนั่งงงอยู่ตรงหน้าสมุดบันทึกของคุณยาย
เธอทำหน้ามุ่ยอยู่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค เคาะนิ้วลงไปรัว ๆ บนหน้าสมุดบันทึกของคุณยาย พลางทำท่าครุ่นคิด
ยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปประสานกันที่ท้ายทอย เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ กลอกตาคู่สวยมองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน แล้วเหมือนจะคิดอะไรออก
เธอดีดตัวกลับมานั่งหลังตรง กางนิ้วมือออก ทำท่าเคาะคีย์เปียโนคล้ายกับจะร่ายเวทมนตร์ แล้วเริ่มรัวนิ้วลงไปบนแป้นพิมพ์📝📝
เรื่องราวของคนสองคนที่มีจิตวิญญาณดวงเดียวกันนั้น
มีคนเคยเล่าให้ฉันฟังว่า แม้เขาสองคนจะอยู่กันคนละฟากฟ้า มหาสมุทร แต่ในความรู้สึกนั้น ยังคงสื่อถึงกันได้เสมอ เหมือนมีโทรจิต (Telepathy)
คือทั้งสองคนจะคิดเรื่องเดียวกัน ทำบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน หรือแม้แต่เจ็บไข้ไม่สบายในเหตุเดียวกัน
1
แต่จะว่าไปเรื่องโทรจิตนี้นะ เท่าที่ฉันเคยรู้มา ถึงจะไม่ใช่คู่แฝด ก็สามารถสื่อได้เหมือนกันนะ
 
ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีบ้างแหละที่คิดอะไรอยู่ในหัว แล้วอีกฝ่ายพูดคำนั้นออกมา โดยเฉพาะในคู่รัก หรือคนในครอบครัว
หรืออาจจะเพราะพวกเรามักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือคนที่ทำได้ระดับนี้ จิตต้องบริสุทธิ์ เช่นคนที่ฝึกจิต รักษาศีลปฏิบัติธรรมมาจนได้วิชชา รู้เห็นเรื่องราวต่าง ๆ แค่เพียงหลับตานึก หรือแค่คิดถึง อีกฝ่ายก็รู้ได้แล้ว
1
จุ๊ ๆ ฉันไม่น่าเล่าเรื่องนี้เลย เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ๆ ฉันเองก็เคยทำได้บ่อย ๆ กับป๊า แต่นั่นคือตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก แล้วคุณแม่เป็นคนเล่าให้ฉันฟัง ส่วนตอนนี้เหรอ ใช้มือถือโทรหากันตลอด
ฉันเอง ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก และ เอ่อ ถ้าใครสนใจ ลองนึกถึงพระอาจารย์ หลวงตา หลวงปู่ ที่เคารพนับถือ แล้วลองส่งกระแสจิตถึงท่านดูนะคะ
แต่ว่าฉันก็เขียนลงไปแล้ว ถือว่าเทพอักษรเป็นผู้เขียนก็แล้วกัน
อาจมีผู้รู้มาให้คำตอบฉันในวันหลัง หรือจุดประกายให้คนที่มาอ่าน เกิดความสนใจ แล้วออกเดินทางค้นหาคำตอบ เหมือนที่ฉันกำลังตามหาคำตอบให้ตัวเองจากบันทึกของคุณยายก็เป็นได้
บนโลกนี้ยังมีอีกมากมายเรื่องราวที่รอการค้นพบ ในอนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้ จริงไหม เหมือนบันทึกบทต่อไปของคุณยายที่ฉันกำลังอ่านอยู่ตอนนี้
📝✍️🫂
1
"คุณเป็นคนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา มีดวงตาสีฟ้า ผมสีทอง ผิวขาวซีด ตัวสูงใหญ่
มาที่เมืองไทยเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อเจรจาในเรื่องธุรกิจ
พอมีเวลาว่างหลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุมงานแล้ว มักจะออกมาเดินเล่น เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ เลือกดูของขวัญของฝากที่เพื่อน ๆ ฝากให้หาซื้อ
และนั่นเองที่ทำให้เราได้มาเจอกัน
ฉันเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นอาหมวยที่ตาโต และผิวก็ไม่ขาวแบบสาวหมวยทั่วไป
ฉันเป็นสาวหมวยที่มีผิวสีน้ำผึ้ง ไม่ถึงกับคล้ำ แต่ก็ไม่ขาว แปลกจากพี่น้องทุกคน
นั่นไง คุณกำลังเดินมานั่นแล้ว หัวใจของฉันแทบหลุดออกมาจากอก มันเต้นเสียงดังโครมคราม ถ้ามีใครอยู่ใกล้ ๆ ก็คงได้ยิน
ตอนนี้มือฉันเริ่มสั่น เหงื่อเริ่มซึมออกมา และที่ใบหน้าของฉันเริ่มมีสีแดงระเรื่อ ร้อนผะผ่าว
"ฉันรอคุณมานานเท่าไหร่แล้ว คุณรู้ไหม"
ห้วงหนึ่งของความคิด คำถามนี้ผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของมโนจิต
 
ฉันยืนยิ้มอยู่หน้าร้าน รอให้คุณเดินเข้ามาหา วินาทีนั้น ความรู้สึกเหมือนกำลังได้ยินเสียงลั่นกลองรบ เสียงจากหัวใจฉันนั่นเอง ทั้งดีใจและอยากร้องไห้
และก็อยากมองคุณอยู่อย่างนี้ไปนาน ๆ
ทุกอย่างรอบตัวฉันเหมือนมันหายไปหมด
มีแค่คุณคนเดียว ที่นี่ ตรงนี้ มีแค่คุณคนเดียว
ฉันต้องตื่นจากภาพฝัน เมื่อคุณเดินมาหยุดที่หน้าร้านแล้วกล่าวคำทักทาย
"สวัสดี คุณสบายดีไหมครับ"
"สะ สะ สะ สบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วคุณ เอ่อ สบายดีไหมคะ"
ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง พูดอะไรออกไปก็ไม่รู้ ปากสั่นไปหมด
"คุณหาอะไรคะ วันนี้"
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่คิดว่าต้องมาที่ร้านคุณ แล้วน่าจะเจอ"
"คะ ค่ะ เชิญเลือกดูได้เลยค่ะ"
"วันนี้ผมลองไปชิมอาหารไทยตามที่คุณแนะนำแล้วนะครับ"
"ค๊ะ คุณ เอ่อ"
ฉันอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน ทั้งดีใจและมหัศจรรย์ใจ ทั้ง ๆ ที่ฉันก็หวังให้คุณพูดเรื่องนี้แหละ พอคุณพูดออกมา ยิ่งทำให้ฉันยิ้มเต็มหัวใจ ความสุขนี้ ฉันอยากแบ่งให้คุณจัง แต่ก็ได้แค่เก็บไว้ในใจ
"อร่อยมาก ผมบอกเขาว่า ขอไม่เผ็ด"
"คุณชอบไหมคะ"
"ชอบมาก ผมคิดว่าจะไปกินอีก"
"ฉันดีใจที่คุณชอบอาหารไทย"
"ขอบคุณที่แนะนำร้านอาหารอร่อยให้ผมครับ"
"ยินดีค่ะ"
📝📝📝 โปรดติดตามตอนต่อไป
*** โทรจิต*** เป็นการส่งข้อมูลข่าวสารจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งโดยไม่ใช้ช่องทางทางประสาทสัมผัสหรือไม่มีปฏิกิริยาทางกายเลย
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา