รีวิวหลังดู All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้
ซีรี่ส์ซอมบี้สะท้อนสังคม และซอมบี้ที่ไม่ใช่แค่ซอมบี้!
เนื้อหาไม่มีสปอย! แต่เอาเข้าจริงคงมีแต่ผมนี้แหละมั้งที่เพิ่งได้ดู//ฮ่า ๆ
All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้ ออกฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 และเป็น Netflix Original Series ที่ติดอันดับ Netflix top 10 มาแรงมากในตอนนั้นอีกด้วย แต่เพราะกระแสมันแรงมากผมเลยไม่ได้สนใจจะหยิบมาดูเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบดูภาพยนต์ที่เป็นกระแส ไม่ก็ต้องรอกระแสหมดก่อนถึงจะดู//เพื่อ!!
ตอนแรกที่ดูคิดว่ามันเป็นซีรี่ส์จากฝั่งญี่ปุ่น เพราะดู ๆไปแล้วมันได้กลิ่นของภาพยนต์ซอมบี้เรื่องหนึ่งที่เคยดูมาก่อนหน้านี้ เรื่อง I AM A HERO คือมันคล้ายกันมากในความรู้สึก เลยเผลอคิดไปว่าภาพยนต์ All of Us Are Dead เป็นภาพยนต์ญี่ปุ่นเหมือนกัน มารู้ตัวอีกทีก็ดูไปแล้วหกตอนว่ามันเป็นซีรี่ส์ของเกาหลี//ฮ่า
มัธยมซอมบี้ เป็นเรื่องราวของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายฮโยซัน ที่ต้องหนีจากเพื่อนที่กลายเป็นซอมบี้หลังจากมีนักเรียนติดเชื้อไวรัสจากหนูทดลองในห้องวิทยาศาสตร์ ทำให้มีการแพร่เชื้อในโรงเรียนไปจนถึงนอกโรงเรียน โดยเชื่อไวรัสที่ว่านี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการทดลองของ ครูอีบยองชาน ครูวิทยาศาตร์ของโรงเรียนฮโยซันนั้นเอง
All of Us Are Dead แม้จะเป็นซีรี่ส์ซอมบี้ที่เล่าตามแบบฉบับของซอมบี้ทั่ว ๆไป แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆมันคือปมปัญหาและความเห็นแก่ตัวของตัวละครภายในเรื่อง เรื่องของคนใหญ่คนโต เรื่องของรัฐบาล ความเห็นแก่ตัวต่าง ๆที่ได้สร้างขึ้นภายในเรื่องมันทำให้เราอินกับมันมากขึ้นและเข้มข้นมากขึ้น
เรื่องส่วนใหญ่นั้นเกิดภายในโรงเรียนมัธยม เราก็จะได้เห็นแค่ตัวละครเด็กมัธยมที่คอยหนีตายและคิดหาทางเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ ที่ปกติแล้วมักจะเห็นแต่ตัวละครหลักเป็นชายวัยกลางคน หรือนักแสดงที่ดูมีอายุหน่อยในการดำเนินเรื่อง พอได้มาเห็นเด็กมัธยมปลายเป็นตัวหลักมันก็ทำให้ได้อารมณ์ไปอีกแบบเหมือนกันนะ
ด้วยความล่าช้าของรัฐบาล และตำรวจทหารที่ไม่ยอมรับฟังเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับเหล่านักเรียน
ทำให้พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง มีการเสียดสี และสะท้อนปัญหาสังคม และปัญหาของเด็กมัธยมได้ดีมาก เพราะแม้เรื่องของซอมบี้จะเป็นเรื่องไกลตัว แต่เรื่องของรัฐบาล ตำรวจหทารนั้นเราเองก็เห็นกันอยู่บ่อย ๆจุดนี้เลยทำให้เรายิ่งต้องคอยเอาใจช่วยเหล่านักเรียนกันแบบสุด ๆ
ความน่าสนใจของมัธยมซอมบี้คือมันตรงไปตรงมา ไม่สลับซับซ้อน มันจึงทำให้เราดูเข้าใจและง่ายต่อเราเมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจ การเอาใจช่วยเหล่าตัวละครในเรื่อง จนบางทีเราก็ลืมไปว่าพวกเขาเป็นแค่เด็กมัธยมกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
และอีกความน่าสนใจคือเราไม่ค่อยจะได้เห็นภาพยนต์หรือซีรี่ส์ซอมบี้ที่มีบรรยากาศของการหนีตายมานานแล้ว หลังจากมีภาพยนต์ Train to busan ที่จำกัดพื้นที่แค่ในรถไฟหนึ่งขบวนเท่านั้น มันจึงทำให้เราลุ้นหนักไปกว่าเดิม เหมือนกำลังดูภาพยนต์ฆาตกรที่ไล่ล่าเด็กมัธยมในพื้นที่ปิดตาย
จุดเด่นอีกอย่างของมัธยมซอมบี้ที่ชอบคือวิธีการเอาตัวรอดและความสามารถของเด็กมัธยมปลาย การหนีออกจากห้องหนึ่งไปห้องหนึ่งจนทั่วโรงเรียน การหาอุปกรณ์ที่เจอและการที่ตัวละครหยิบจับของที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาทำเป็นอาวุธและอุปกรณ์สำหรับป้องกันตัว
แม้การกระทำส่วนใหญ่ในเรื่องคือการหนีจากห้องหนึ่งไปห้องหนึ่ง พากันวิ่งเข้าออกห้องตลอดทั้งเรื่องจนดูเป็นวนลูปซ้ำ ๆที่ดูแล้วอาจจะเบื่อได้บ้างเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่กลุ่มนักเรียนมัธยมเข้าห้องไหนมันก็จะมีเรื่องในห้องเสมอ ถ้าเทียบห้องเรียนเป็นเพลงเราก็จะได้ฟังเพลงหลากหลายอารมณ์ในหนึ่งตอน
และที่สำคัญกว่านั้นใครจะตายใครจะรอดเป็นเรื่องที่เราคาดเดายากมาก บางคนฉลาดมากคือคิดว่ารอดแน่ ๆพอท้ายเรื่องกลับตายโง่ ๆ ก็มี บางตัวละครก็ไม่คิดว่าจะตายดันตายดื้อ ๆก็มี ไม่รู้เป็นความตั้งใจที่จะพยายามบอกเราเหล่าคนดูเป็นนัย ๆรึเปล่าว่าต่อให้เป็นคนดีแค่ไหน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นผู้รอด หรือเพราะมันเป็นเสน่ห์ของภาพยนต์/ซีรี่ส์แนวนี้ที่ชวนหงุดหงิดที่คนดีมักตายก่อนเสมอ
นอกจากเรื่องน่าปวดหัวของพวกผู้ใหญ่ รัฐบาลที่ทอดทิ้งพวกเขา และฝูงซอมบี้คลั่ง
กลุ่มนักเรียนมัธยมที่รอดชีวิตภายในโรงเรียนยังต้องเอาชีวิตรอดจากนักเรียนคนอื่นที่ต่างพากันเอาชีวิตรอดโดยไม่สนใจใครหน้าไหน และที่หนักสุดเลยคืออันธพาลตัวร้ายหลักในเรื่อง ไล่ตามฆ่าพระเอกของเราทั้งเรื่อง! เป็นตัวละครที่ผมตั้งคำถามกับมันมากที่สุดแล้ว //ฮ่า ๆ
หนึ่งในความพิเศษในเรื่องคือเรื่องของไวรัสซอมบี้
ที่ทำออกมาได้แปลกดี เพราะมันไม่ใช่เชื้อไวรัสซอมบี้อย่างเรื่องอื่นที่ผมเคยดู ที่แน่ ๆคือต้นกำเนิดและการทำงานของมันนั้นจะทำให้เราประหลาดใจไม่มากก็น้อยแหละ ถือว่ามันเป็นจุดดีและจุดอ่อนในเวลาเดียวกันของตัวซีรี่ส์ เพราะถ้าถามว่าผมติดใจอะไรในเรื่องไหมมันก็คงเป็นเรื่องนี้แหละ คือไวรัสมันถูกสร้างมาเพื่อกระตุ้นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด เหมือนความตั้งใจของตัวละครบางตัวในเรื่องที่พอมีความตั้งใจและเด็ดเดี่ยวมาก ๆที่จะทำอะไรบางสิ่งแล้วมันก็จะชนะทุกสิ่งอะไรทำนองนั้น ขอไม่สปอยละกันนะ
เพราะจุด ๆนี้คิดว่าเป็นจุดขายของซีรี่ส์
แม้บรรยากาศภายในซีรี่ส์จะกดดันทำให้เราลุ้นและเอาใจช่วยกลุ่มเด็กมัธยมที่พยายามหนีตาย มันก็มีช่วงพักเบรกเรื่องน่ากลัว ๆด้วยการใส่ซีนโรแมนติกนิด ๆหน่อย ๆเข้ามา ตัวละครหลักในเรื่องจะมีสองคู่ คือพระเอกนางเอกและพระรองกับนางรอง ส่วนตัวแล้วผมชอบคู่พระรองกับนางรองมากกว่านะ ทั้งนักแสดงและบทบาทมันมีเสน่ห์มากกว่าคู่หลักเยอะเลย แต่ไม่ใช่ว่าการแสดงของคนอื่นไม่ดีนะ ทุกคนเอาอยู่กับบทบาทของตัวเองและเล่นดีทุกคน แค่ชอบเคมีของคู่พระรองมากกว่า
รอซีซั่นสองกันต่อไป เพราะซีซั่นแรกเหมือนเป็นแค่การปูพื้นก่อนเท่านั้นสำหรับ All of Us Are Dead
เพราะทิ้งปมปัญหาไว้หลายอย่างบวกกับฉากจบที่ดูแล้วจะขาดใจเหมือนตั้งใจทำมาฆ่าคนดูโดยแท้
แต่คิดว่าจากกระแสและกลุ่มแฟนคลับยังไงก็ได้ไปต่ออย่างแน่นอน!
All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้
สามารถรับชมได้ทาง Netflix
มีทั้งหมด 1 ซีซั่น 12 ตอน
มีพากย์ไทยด้วยนะ!
และคะแนนที่ผมให้คือ 9.5/10 🌟🌟
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
