17 มี.ค. 2022 เวลา 03:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ชาวสวิตเซอร์แลนด์มีคุณภาพชีวิตที่ดีมาก แต่ทำไมผู้ใหญ่ไม่สอนให้รู้จักอดออม
ภาพจำของคนส่วนใหญ่คือชาวสวิตซ์มีชีวิตที่ดี เข้าขั้นมีความสุขที่สุดในโลก จากองค์ประกอบของประเทศหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะระบบรัฐสวัสดิการ
แต่รู้ไหมในความเป็นจริง โลกที่สวยงามของชาวสวิตซ์อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
ปี 2020 สวิตเซอร์แลนด์ได้รับการจัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีภาพรวมดีที่สุดในโลก” โดยคิดจากปัจจัยหลักๆ เช่น
1
-ความน่าแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ อากาศดี และทัศนียภาพสวยงาม
-พลเมืองมีความเท่าเทียมทางเพศ เคารพกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมีการกระจายอำนาจอย่างทั่วถึง
-อิทธิพลทางวัฒนธรรมมีความทันสมัย
-โอกาสสร้างกิจการเปิดกว้าง มีการเข้าถึงทุน แรงงาน และความโปร่งใสในการทำธุรกิจ
ที่สำคัญคือคุณภาพชีวิต ค่าครองชีพ ระบบการศึกษา ความปลอดภัย และความมั่นคงทางการเมืองยืนหนึ่ง
1
อีกเหตุผลมาจากระบบรัฐสวัสดิการของสวิตซ์ได้ขึ้นชื่อว่ามีประสิทธิภาพมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราภาษีที่สูงลิ่ว
1
อย่างในปี 2017 รัฐบาลสวิตซ์ลงประชามติเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจากเดิม 8 เปอร์เซ็นต์เป็น 8.3% หักเงินประกันสังคมจากค่าจ้างงานเพิ่มจาก 10.25 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 10.55 เปอร์เซ็นต์
ส่วนอัตราภาษีบุคคลธรรมดาอยู่ที่ 0 - 48.7 เปอร์เซ็นต์
แต่รู้ไหมว่า ชาวสวิตซ์ไม่สอนลูกหลานให้ออมเงิน ไม่ใช่ว่าการออมสิ่งไม่สำคัญเสียทีเดียว แต่พงกเขาสอนให้รู้จักการใช้เงินแบบรู้คุณค่า
สำหรับคนไทยเมื่อเทียบกับชาวสวิตซ์ บริบทเรื่องการเงินในสังคมนั้นแตกต่างกันตามวัฒนธรรม แล้วชาวสวิตซ์สอนลูกหลานของพวกเขายังไง ?
อยากแรกเลยคือ ชาวสวิตซ์ไม่มีนิสัยการอวดรวย ถ้าใครอวดรวยจะถูกมองว่าขี้อวด หากจะใช้วัฒนธรรมการจับจ่ายใช้สอยแบบอเมริกันชน ก็ไม่สามารถใช้ได้กับประเทศนี้
1
เมื่อไม่มีการเอารถ บ้าน เครื่องประดับ หรือเงินในธนาคารมาเบ่งใส่กัน ดังนั้น เงินสำหรับชาวสวิตซ์จึงไม่ใช่วัตถุเพื่อการสะสม แต่เป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายเท่านั้น นี่อาจเป็นเหตุผลหลักที่ชาวสวิตซ์ส่วนใหญ่ไม่ปรารถนาที่จะแสวงหาความมั่งคั่ง
ประการที่สอง ชาวสวิตซ์นิยมจ่ายแพง เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพมีประโยชน์สูง เพราะซื้อครั้งเดียวใช้ได้เป็น 10 ปี ดีกว่าซื้อมาไม่นานแล้วเปลี่ยน วัฒนธรรมรูปแบบนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็น Perfectionist ก็ว่าได้
2
ประการที่สามคือการซัพพอร์ตตรงตามหน้าที่ของรัฐ โดยใช้ระบบรัฐสวัสดิการที่ทั้งโลกยอมรับ มีระบบจ่ายชดเชยการว่างงาน ระบบสาธารณสุขเข้าถึงประชากรทุกเพศทุกวัย ระบบการศึกษาก็เช่นกัน รัฐปฏิบัติต่อสถาบันเอกชนอย่างเท่าเทียมกัน
1
ชาวสวิตซ์จึงมีการออมเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินน้อยกว่าคนไทย ที่ต้องดูแลตัวเองเวลาเจ็บป่วย หรือเกิดเหตุไม่คาดคิด
1
ประการที่สี่ ภาษีมรดกของชาวสวิตซ์มีอัตราส่วนสูงที่สุดในโลกคือ 55 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าถ้ามีมรดก 1,000 ล้าน จะถูกหักภาษี 550 ล้าน
1
ผู้หลักผู้ใหญ่ชาวสวิสต์จึงนิยมสอนลูกหลานให้มีความพร้อมในการสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง แทนการรอรับมรดกจากครอบครัว
2
อย่างไรก็ดี บริบทของชาวสวิตซ์อาจใช้ไม่ได้กับบริบทกาเงินในสังคมไทย ที่มีภาวะแวดล้อมแตกต่างกัน
1
แต่สิ่งหนึ่งที่ใช้ได้กับทุกคนทั่วโลกคือ “เงินไม่ใช่ตัวกำหนดฐานะและความสำเร็จ” เหมือนอย่างที่วอเรน บัฟเฟตต์เคยพูดไว้ แต่เงินเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยเท่านั้น
2
ถ้าหากทุกคนทั้งโลกคิดกันแบบนี้ สงครามความขัดแย้งอาจไม่เกิดขึ้น..ก็เป็นได้
ไม่พลาดทุกคอนเทนท์ของเทคฮีไร
Line Official: https://lin.ee/cB2Muk0
ติดตามเทคฮีโร เพิ่มเติมได้ที่..
โฆษณา