17 มี.ค. 2022 เวลา 07:40 • ปรัชญา
เวลาที่เกิดอารมณ์ท้อถอย มันก็จูงอารมณ์เหนื่อยล้าตามมาด้วย ช่วยกันมารุมเร้า กดทับจิตไปเรื่อยๆ เมื่อพยายามกระทำอะไร ก็สู้แรงทีโต้กลับมา ต้านทานไม่ไหว ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะฝืน เพราะจิตมันเหนื่อยล้าอ่อนแรงนั้นเอง พอจิตมันล้า ไม่มีแรง มันก็อยากพักผ่อน อยากอยู่นิ่งเฉยๆ เพราะเมื่ออารมณ์พวกนี้มันมามาก กายก็หมดเรี่ยวแรง จิตก็หมดเรี่ยวแรง ต้องหาวิธีพักกายพักจิต ให้จิตมีกำลังขี้น ไม่งั้นก็ต้องหาตัวช่วย ให้กำลังใจอะไรทำนองนี้ และเมื่อเกิดอารมณ์ท้อถอยอยู่กับเรานาน จิตหมดเรี่ยวแรง ได้อารมณ์ตัวขี้เกียจ มันจะตามมา เป็นขบวน มาช่วยกันย่ำยี จิตน้อยๆ เบื่อหน่ายท้อแท้ คิดอะไรไม่ออก สมองมึนงงไปหมด อะไรทำนองนั้น
1
เรื่องราวของอะไรนั้น เมื่อเราทำอะไรไปแล้ว ไม่ได้ดังใจ ไม่เป็นไปตามปรารถนานั้น จิตเรามันก็เกิดมีสะสม เป็นลักษณะของสีดำๆอยู่ภายในกาย(ไปสังเกตุเลือดในกายก็ได้ สีมันออกม่วงดำๆไปก็มี เลือดลมมันหมองคล้ำ หมดสง่าราศีทำนองนั้น ) เป็นตัวกรรมซึ่งเราไม่รู้ตัวหรอก ปล่อยไว้นานอารมณ์นี้มันก็หนัก เป็นทุกข์ขังอยู่ภายในกายในจิต นานวันไปใจก็หนัก อ่อนล้า เค้าเรียกว่าจิตมันอ่อนล้า เนื่องด้วยอารมณ์กรรมที่สะสมมา ถ้าเรายังแก้ไขไม่ได้ ผลที่ตามมาก็คือ เมื่อเจอะเจอ อารมณ์ของนอกมากระทบ มันก็หงุดหงิดรำคาญ โมโหง่าย ก็ทำให้เราหงุดหงิดอะไรง่ายเกิดขึ้น โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว
1
โฆษณา