Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Krungthai Asset Management
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
18 มี.ค. 2022 เวลา 08:00 • ไลฟ์สไตล์
KTAM ชวนคุณมาเริ่มต้นง่ายๆ ในการเป็นองค์กรที่ช่วยประหยัดพลังงานและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีไปพร้อมกัน
“เราเชื่อว่าทุกองค์กรต้องการประหยัดพลังงานและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีไปพร้อมกันได้”
หากพูดถึงการประหยัดไฟ เราเชื่อว่าทุกบริษัทมีจัดการกับเรื่องนี้กันอยู่แล้ว เพราะแน่นอนว่าการทำงานในยุคปัจจุบัน หรือเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่ง Digital ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยการประหยัดไฟ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ค่าไฟฟ้าภายในองค์กรลดลงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สิ่งแวดล้อมของเราดีขึ้นได้อีกด้วย และเมื่อเทรนด์ผ่านไปเรื่อยๆ การประหยัดพลังงานก็ยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้น
รวมทั้งแนวคิด วิธีการต่างๆ เกี่ยวกับการประหยัดไฟก็ถูกออกแบบมาให้เราได้นำมาปรับใช้กันได้ดีกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นองค์กรที่สนับสนุนการประหยัดพลังงาน จึงอยากมาแชร์ วิธีการประหยัดไฟในออฟฟิศที่หลายบริษัทอาจมองข้าม แบบอัพเดต สามารถนำไปใช้ได้ง่ายๆ และช่วยลดการใช้พลังงานได้ดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ วันหนึ่งอยู่ออฟฟิศอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน KTAM ชวนคุณ ลองมาดูกันซิว่า เราจะสามารถเริ่มต้นในการประหยัดพลังงานเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีได้อย่างไรบ้าง
1. รู้จักการใช้แสงจากธรรมชาติ
การออกแบบอาคารสำนักงาน หรือเลือกมุมในการทำงานถือว่ามีส่วนสำคัญ หากในออฟฟิศใครมีหน้าต่าง คุณก็สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากแสงแดดได้ เริ่มจากการลองจัดสรรพื้นที่โต๊ะทำงานให้อยู่ริมหน้าต่าง และอาศัยแสงจากธรรมชาติแทนการใช้แสงจากหลอดไฟ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดไฟไปได้แล้ว ยังช่วยรักษาสุขภาพตาของพนักงานออฟฟิศดีขึ้นได้อีกด้วย เพราะการใช้แสงจากธรรมชาติจะถนอมสายตามากกว่าแสงจากหลอดไฟนั่นเอง และในหลายสำนักงานทั้งในและต่างประเทศต่างก็มีการณรงค์การออกแบบเพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม โดยใช้พลังงานจากแสงจากธรรมชาติอีกด้วย
2. เลือกใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน
แม้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานจะมีราคาสูง แต่ก็ทำให้การจ่ายไฟภายในบริษัทลดน้อยลงได้ ซึ่งในระยะยาวย่อมเป็นผลดีอย่างแน่นอน เพราะนั่นหมายถึงว่า บริษัทจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าอื่นๆ ในแต่ละรอบิลอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บรรดาเหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อต่างๆ ก็มักจะมีการนำเสนอรูปแบบการประหยัดพลังงานมาเป็นส่วนเสริมในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้นด้วย เช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คอมพิวเตอร์จอแบนที่กินไฟน้อยกว่าจอนูน หลอดไฟฟลูออเรสเซนส์ที่ประหยัดไฟมากกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 75% เป็นต้น แม้นวัตกรรมใหม่ๆ เหล่านี้จะตามมาด้วยราคาสินค้าที่สูงขึ้น แต่หากมองที่ผลลัพธ์ในการประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนทีเดียว
3. ใช้ Laptop แทนคอม PC
หากเราพูดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในออฟฟิศ หลายคนก็คงจะนึกถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ PC ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ๆ กันใช่ไหม แต่ในปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ค แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตก็ตาม เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติในการทำงานได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น แถมประหยัดไฟกว่าคอมพิวเตอร์หลายเท่าอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากลักษณะการทำงานของเราต้องใช้อุปกรณ์ที่ทำงานหนัก เช่น ใช้งานเพื่อตัดต่อ หรือการบีบอัดไฟล์ที่ใหญ่ ก็จำเป็นที่ต้องใช้คอม PC อยู่ดี แต่สำหรับลักษณะงานออฟฟิศทั่วไป เช่น งานเอกสารเราก็สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดไฟที่เราได้ยกตัวอย่างไว้ข้างต้นก็จะดีที่สุด
4. ปิดอุปกรณ์ทุกอย่างเมื่อไม่ใช้งาน
นอกจากการปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว เราควรปิดสวิทซ์ไฟอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั้งหมดด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่า สวิทซ์ไฟเองก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นกัน
5. ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้งานมานาน
บริษัทควรมีนโยบายการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้มานานมากกว่า 3 ปี เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าเก่าๆ อาจไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควรแม้ว่าจะยังคงใช้พลังงานเท่าเดิมก็ตาม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า บริษัทกำลังขาดทุนจากการใช้พลังงานไฟฟ้านั่นเอง ดังนั้นเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าอุปกรณ์ไหนกินไฟ เราควรซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ก็จะดีกว่าครับ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
6. ลดการใช้เครื่องปริ้น
การใช้งานเครื่องถ่ายเอกสาร แน่นอนว่า องค์กรจะต้องเสียค่าไฟเสียเพิ่มขึ้นในทุกครั้งที่มีการใช้งาน จะดีกว่าไหม? ถ้าเราใช้ทางเลือกใหม่ๆ ในการส่งข้อมูล ปัจจุบันทางเลือกในการส่งข้อมูลมีมากขึ้น สะดวกมากขึ้น โดยอาศัยประโยชน์จากระบบ Digital เช่น การอัพโหลดข้อมูลขึ้นในระบบคราวด์ หรือการส่งข้อมูลผ่านอีเมล์ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสาร และลดการใช้กระดาษไปด้วยในตัวได้นะ
7. ถอดปลั๊กอุปกรณ์เมื่อไม่ใช้งาน
หลังจากที่เราปิดสวิทซ์อุปกรณ์ไฟฟ้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำ ก็คือ การถอดปลั๊กอุปกรณ์หลังใช้งาน เพราะเมื่อมีการเสียบปลั๊กก็ย่อมมีการจ่ายไฟอยู่เสมอ แม้จะเป็นการจ่ายไฟเพียงเล็กน้อยก็ตาม ลองคิดดูว่าช่วงเวลาเลิกงาน จนกระทั่งมาทำงานอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ใช้เวลาไปกี่ชั่วโมง และมีการจ่ายไฟโดยไม่จำเป็นนานเท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงควรถอดปลั๊กทุกครั้ง เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า
8. ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์
หากออฟฟิศไหนที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ระบบโซล่าเซลล์อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ในการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ดี เพราะการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว เพื่อใช้ไฟฟ้าฟรีจนกระทั่งแผงหมดอายุการใช้งานกว่า 20-25 ปีเลยทีเดียว ซึ่งระบบการทำงานของโซล่าเซลล์ คือ การนำเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และหากออฟฟิศไหนต้องการใช้ไฟฟ้าในตอนกลางคืนก็ยังมี Storage หรือ ตัวเก็บพลังงานสำรอง เพื่อใช้งานในภายหลังได้อีกด้วย
KTAM อยากชวนให้ทุกคนมาเริ่มต้นประหยัดพลังงานกันตั้งแต่วันนี้ เคล็ดลับเล็กๆ น้อย ทั้ง 8 ข้อ บางครั้งอาจเป็นสิ่งที่เราพนักงานทุกคนหลงลืมไป แต่หากเราร่วมมือร่วมใจ เริ่มต้นที่ตัวเราเอง ก็เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้องค์กรประหยัดพลังงาน เพื่อลดค่าไฟ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้สังคมของเราไปพร้อมกับโลกที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลาได้แล้ว
อ้างอิงบทความดีๆ จาก
www.energygreenplus.co.th
ประหยัดพลังงาน
พลังงาน
องค์กร
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย