19 มี.ค. 2022 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
Babylovett แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก ที่คนซื้อต้องแย่งชิง เพราะขายหมดใน 10 นาที
Babylovett แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก ที่วงการของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะฮอตฮิตจนต้องให้คนรอบตัวมาช่วยกันกดสั่งซื้อสินค้า
4
ที่น่าสนใจก็คือ Babylovett ขายสินค้าในราคาหลักร้อย แต่ถูกนำไปรีเซลในราคาหลักพัน
นอกจากนั้น ยังมีหลายคนที่พลาดโอกาส เพราะสินค้าขายหมดภายใน 10 นาทีเท่านั้น
1
ซึ่งสถิติที่ร้านเคยขายได้สูงสุดต่อครั้ง คือ ขายได้หลายหมื่นชิ้น ภายในระยะเวลาไม่กี่นาที
1
วันนี้ลงทุนเกิร์ลมีโอกาสพูดคุยกับคุณลภัสนันท์ และคุณธัญลักษณ์ ดิลกอัศวโรจน์ เจ้าของแบรนด์ Babylovett ถึงเรื่องไอเดียการสร้างธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก ให้กลายเป็นแบรนด์ขวัญใจพ่อแม่
1
แล้วเรื่องราวของ Babylovett น่าสนใจอย่างไร ?
Babylovett คือ แบรนด์เสื้อผ้าเด็กฝีมือคนไทย ที่นิยามได้ว่าทั้งสวยและต้องใช้ได้จริง ด้วยคุณภาพระดับสากลในราคาที่จับต้องได้
1
ก่อตั้งโดย 2 พี่น้องจากตระกูลดิลกอัศวโรจน์ นั่นก็คือคุณเก๋-ลภัสนันท์ และคุณใหม่-ธัญลักษณ์
ซึ่งสาเหตุที่แบรนด์ Babylovett สามารถการันตีคุณภาพระดับสากล ก็เพราะก่อนที่แบรนด์นี้จะเกิดขึ้น ทั้งคู่มีประสบการณ์ในวงการเสื้อผ้าเด็ก มานานกว่า 30 ปี จากธุรกิจครอบครัว ที่รับจ้างผลิตเสื้อผ้าเด็กแบรนด์ดัง ๆ ส่งออกไปยังต่างประเทศ ทั้งในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Babylovett จึงเริ่มจาก “การต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน” นั่นเอง
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ดีไซน์ของ Babylovett แตกต่างจากเสื้อผ้าเด็กในท้องตลาดอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีลวดลายและดีเทลที่ประณีตซับซ้อน
และคนที่อยู่เบื้องหลังดีไซน์เหล่านี้ ก็คือคุณใหม่ ที่เรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์โดยตรง จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และเรียนต่อปริญญาโทที่สถาบัน Domus Academy สาขา Master of Fashion ที่ประเทศอิตาลี
3
โดยเรื่องราวของแบรนด์ Babylovett เริ่มต้นขึ้นหลังจากคุณใหม่เรียนจบ และอยากกลับมาต่อยอดธุรกิจที่บ้าน พร้อมกับเป้าหมายที่จะทำเสื้อผ้าเด็กคุณภาพระดับสากล ขายให้กับคนไทย
3
ดังนั้น 2 พี่น้องจึงนำเอาประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรม และความรู้ด้านแฟชั่น มารวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อตัวเป็นแบรนด์ Babylovett
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทั้ง 2 คนจะมีความรู้เรื่องธุรกิจเสื้อผ้าเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ Babylovett ก็ไม่ได้เริ่มต้นอย่างสวยงามตั้งแต่วันแรก
จนกระทั่ง Babylovett ได้โปรโมตฟังก์ชัน “Two-Way Zipper” ที่สามารถเปิดซิปได้ 2 ทาง ทั้งรูดขึ้นด้านบนและรูดลงด้านล่าง จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
1
โดยไอเดียนี้ ได้คิดค้นมาจาก Pain Point ของชุดเด็กแรกเกิด ที่มักจะเป็นปัญหาของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ในการเปลี่ยนผ้าอ้อมแต่ละครั้ง
เนื่องจากชุดเด็กเล็กทั่วไป มักจะใช้กระดุมสำหรับเปิด-ปิดช่วงล่าง ดังนั้นนอกจากพ่อแม่จะต้องสู้รบกับการดิ้นของลูกแล้ว ยังต้องต่อกรกับกระดุมที่เรียงต่อกันถึง 12 เม็ดอีกด้วย
1
การนำ Two-Way Zipper เข้ามาใช้ จึงทำให้ปัญหานั้นหมดไป เพราะช่วยให้สวมใส่ง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่รูดซิปลงเวลาจะสวมชุด และรูดซิปขึ้นเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมเฉพาะด้านล่าง ตอบโจทย์พ่อแม่มือใหม่ได้เป็นอย่างดี
1
และผลตอบรับก็ดีตามคาด ต่อมาแบรนด์จึงได้ขยายไซซ์ ตามคำเรียกร้องของลูกค้า จนมีสินค้าของเด็กวัยแรกเกิดไปจนถึง 7 ขวบ
1
ถึงตรงนี้คงมีหลายคนสงสัยว่า แล้วทำไมแบรนด์อื่นยังใช้กระดุมกันอยู่
ซึ่งสาเหตุที่หลายแบรนด์เลือกใช้ “กระดุม” นั้น ก็เพราะการเย็บซิปเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และละเอียดอ่อน หากเย็บผิดพลาดเพียงนิดเดียว ก็สามารถทำให้เด็กเกิดอาการระคายเคืองได้
1
ดังนั้น Babylovett จึงถือว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ในไทยที่คิดค้น Two-Way Zipper ขึ้นมา และที่พิเศษก็คือซิปที่เลือกใช้ คือแบรนด์ YKK ที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกอีกด้วย
3
นอกจากนั้นทางแบรนด์ยังมีการทดสอบความปลอดภัยทุกครั้ง
ซึ่ง “ความปลอดภัย” นี้ ก็เป็นเรื่องที่คุณเก๋และคุณใหม่ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากเด็กมีผิวที่บอบบางมาก หากมีข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็สามารถทำร้ายผิวของเด็กได้
ดังนั้นทุกขั้นตอนการผลิต, วัสดุและอะไหล่ทุกชิ้นที่ติดบนเสื้อผ้า จะต้องผ่านการทดสอบทุกครั้ง โดยใช้มาตรฐานเดียวกันกับสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ
เช่น ตรวจวัดปริมาณสารเคมี, แรงดึงของกระดุม และแพตเทิร์นของผ้า เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก
แต่นอกเหนือจากความปลอดภัยแล้ว Babylovett มีเคล็ดลับอะไร ที่ทำให้มีแฟนคลับที่เหนียวแน่น จนขายสินค้าหมดทุกชิ้นภายใน 10 นาที หลังเปิดให้จอง
สิ่งที่เห็นได้ชัดเป็นอันดับต้น ๆ คือเรื่อง “ดีไซน์” ที่โดดเด่น
เนื่องจาก Babylovett มีทีมดีไซเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการรังสรรค์เสื้อผ้าเด็กมานาน รวมทั้งบางคอลเลกชันยังร่วมออกแบบกับศิลปินชื่อดัง เช่น Teaspoon Studio
นอกจากนั้นยังสร้างสรรค์เสื้อผ้าให้เป็นเหมือน “ประสบการณ์”
โดยในแต่ละคอลเลกชัน Babylovett จะใส่เรื่องราวเข้าไปในลวดลาย เพื่อให้เด็กได้เพลิดเพลินกับชุดที่ตัวเองเลือกใส่ รวมทั้งนำลวดลายนั้น ๆ มาสร้างเป็นนิทานบน YouTube เพื่อให้ครอบครัวได้มีกิจกรรมร่วมกันในการเสริมสร้างจินตนาการ
1
ดังนั้นชุดของ Babylovett จึงไม่ใช่แค่พ่อแม่เท่านั้น ที่รู้สึกภูมิใจเวลาเห็นลูกตัวเองสวมใส่ แต่เด็กที่สวมใส่เอง ก็รู้สึกสนุกและมั่นใจที่จะแต่งตัวไปด้วย
การเล่าเรื่องราวของ Babylovett จึงเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญ เพราะหากมีดีแค่ดีไซน์เพียงอย่างเดียว ก็คงไม่สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับพ่อแม่ได้มากขนาดนี้
และที่สำคัญความสวยงามจะต้องมาควบคู่กับ “คุณภาพ” และ “ความปลอดภัย” อย่างที่เกริ่นไปแล้วข้างต้น ว่าทุกอย่างจะต้องผ่านการทดสอบ และได้มาตรฐานเดียวกันกับการส่งออก
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่าเสื้อผ้า Babylovett น่าจะมีราคาหลักพัน แต่จริง ๆ แล้วเสื้อผ้าของแบรนด์นี้มีราคาแค่ “หลักร้อย” เท่านั้น
1
เนื่องจากผู้ก่อตั้งทั้งคู่มีความตั้งใจ ที่จะสร้างเสื้อผ้าเด็กคุณภาพระดับสากล แต่อยู่ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้
ที่น่าสนใจก็คือ แม้ Babylovett จะขายในราคาไม่แพงก็ตาม แต่ลูกค้าหลาย ๆ คน ก็มักจะนำสินค้าไปขายรีเซลในราคาสูง
โดยสถิติรีเซลที่แพงที่สุด พุ่งไปถึงตัวละ 5,000 บาทเลยทีเดียว จากราคาเดิมที่ 450 บาท
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เสื้อผ้าของ Babylovett ถูกนำมาขายรีเซล ก็เป็นเพราะ สินค้าเป็นที่ต้องการในตลาด และไม่ใช่ทุกคนจะสามารถครอบครองได้
เนื่องจากเสื้อผ้าเกือบทุกคอลเลกชันของ Babylovett มักจะถูกขายหมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที ทำให้การซื้อเสื้อผ้าแต่ละคอลเลกชันเหมือนสมรภูมิรบ ที่ต้องแย่งกันกดสินค้าให้ทัน
2
โดย Babylovett จะปล่อยสินค้าออกมาเป็นคอลเลกชัน ซึ่งส่วนมากหลังจากวางขายแล้วก็จะไม่ผลิตซ้ำ ไม่ต่างจากแบรนด์แฟชั่นผู้ใหญ่ดัง ๆ เลย ทำให้เมื่อออกสินค้าใหม่แต่ละครั้ง จึงมีลูกค้าที่ตั้งตารอกดจองสินค้าในทุกรอบ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีลูกค้ามากมายที่นำเสื้อผ้าของ Babylovett ไปรีเซลในราคาหลักพันก็ตาม แต่คุณเก๋และคุณใหม่ก็ยังยืนยันว่า จะขายราคาเท่านี้เหมือนเดิม ตามความตั้งใจของแบรนด์ตั้งแต่ต้น
1
ซึ่งเรื่องราวความสำเร็จทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นมาภายในระยะเวลาแค่ 3 ปีเท่านั้น
แต่ก็เป็นระยะเวลา 3 ปี ที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ในการสร้างแบรนด์ Babylovett
1
ที่ไม่ใช่เพียงต้องการสร้างความแตกต่างที่ดีไซน์ แต่ต้องการมอบสินค้าคุณภาพดีระดับสากลจริง ๆ
Reference:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Babylovett คุณลภัสนันท์ ดิลกอัศวโรจน์ ผู้ดำรงตำแหน่งไดเรกเตอร์ และคุณธัญลักษณ์ ดิลกอัศวโรจน์ ผู้ดำรงตำแหน่ง ครีเอทิฟ ไดเรกเตอร์
2
โฆษณา