6 เทคนิค
หนุ่มสาวออฟฟิศพิชิตความเครียด
หลายคนเคยแอบขมวดคิ้วไม่มีความสุขกับงาน มารู้ตัวอีกทีก็เอามือทึ้งหัวตัวเองตอนไหนก็ไม่รู้!! สารพันปัญหาที่ก่อให้เกิดความเครียดในออฟฟิศ 6 เทคนิคแบบ Do & Don’t นี้ น่าจะพอเป็นแรงบันดาลใจให้มีสุขภาพจิตที่ดีควบคู่ไปกับการทำงาน
DO!
เมาท์มอยช่วยได้นะ
บางทีการคิดงานนานๆ ก็ทำให้ตันได้นะ สมองตื้อจนพาไปสู่ความกดดันได้แบบไม่รู้ตัว สิ่งที่ควรต้องทำเลยก็คือวางเมาส์แล้วออกไปนั่งเมาท์มอยกับเพื่อนๆ บางทีอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระหมูหมากาไก่ ไม่แน่แค่บางประโยคของเพื่อนอาจจุดประกายให้เราปิ๊งไอเดียเด็ดๆ แบบคาดไม่ถึง หรือใครที่ท้อใจอยู่แค่ได้ระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาบ้างก็น่าจะช่วยให้สบายใจขึ้น
เพื่อนมีไว้ให้พึ่ง
ขอความช่วยเหลือเลย! หากเราไม่ถนัดในบางจ็อบ การไหว้วานเพื่อนให้มาช่วยคิดช่วยทำบ้าง ก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เสียหน้า หรือคุณค่าในตัวเองน้อยลง อย่าลืมว่าคนเราไม่ได้เกิดมาเก่งหรือทำเองได้ทุกเรื่อง หากงานติดขัด หรือหาทางออกไม่เจอ การจมอยู่กับสิ่งที่ทำ บางครั้งอาจจะยิ่งทำให้หงุดหงิด สุขภาพจิตย่ำแย่ไปด้วย ป.ล. แต่ก็ใช่ว่าจะเรียกเพื่อนทั้งวัน อารมณ์ประมาณว่าเพื่อนมีไว้ให้ใช้ อย่างนั้นก็ไม่ไหวนะ จะไม่มีใครคบเอา!!
หาอะไรหวานๆ กินกัน..
เคยสังเกตไหมเวลาเจออะไรเครียดๆ หากได้ทานอะไรหวานๆ อย่างการบรรจงตักฮันนี้โทสต์ชุ่มๆ ที่เสิร์ฟพร้อมวิปท้อปปิ้งด้วยผลไม้ฉ่ำๆ สักคำ คงเป็นอะไรที่ฟินจนลืมงานค้าง ที่แก้ยังไงก็ไม่ผ่านสักที กรมสุขภาพจิตยังเคยแชร์ข้อมูลด้วยนะ ว่าการทานน้ำตาลนั้นช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอนโดรฟินทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นมาเป็นกอง แต่ก็อย่าลืมว่าสุดท้ายแล้วหวานมากไปก็ไม่ดี ใช่ว่าบ่ายมาเอะอะก็บ่นเครียด เอะอะก็จะชวนเพื่อนไปฮันนี่โทสต์อย่างเดียว
DON’T!
อย่าโหมงานจนเกินร่าง
อย่าโหมงานหนักไป กลับไปบาลานซ์ชีวิตส่วนตัวเพื่อไม่ให้ชีวิตทุกด้านไร้ quality งานหนักไปจนดึกดื่นเจ้านายบางคนอาจจะรัก แต่บอสบางคนที่ชอบให้เวิร์คสมาร์ทอาจไม่เลิฟก็ได้ แต่ที่ส่งผลเสียที่สุดก็คือทำให้เราเครียดและสุขภาพแย่ แต่ยังมีพีคกว่านั้นอีกก็คืออาจทำให้ครอบครัวแตกแยก หรือโดนแฟนบอกเลิกได้นะ (อันนี้ไม่ได้ขู่ ใครไม่เชื่อไปลองหาฟัง reference ในเพลงขอโทษของพี่ปู-พงษ์สิทธิ์ได้นะ)
อย่าหวังมากเพราะมันจะเจ็บ!!!!
สิ่งที่มักทำให้เราทุกข์คือความคาดหวัง ความสุขที่ดีที่สุดก็คือการตกหลุมรักกับสิ่งที่ทำ อยากให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามที่สุด เป็นงานที่เราภูมิใจ ไม่ใช่การทำงานที่คาดหวังไปถึงรายได้ ผลประโยชน์ การนับหน้าถือตา หรือแม้แต่คำชื่นชมจากเจ้านาย เพราะเมื่อทุ่มเทมากเท่าไหร่ แต่ท้ายที่สุดหากไม่เป็นไปอย่างใจหวัง ความผิดหวังนั่นแหละที่จะทำให้ใจเราเป็นทุกข์เสียเอง
อย่าดูถูกตัวเอง
“ใครดูถูกเราก็ไม่เท่าเราดูถูกตัวเอง” เป็นประโยคที่ฟังแล้วเห็นภาพ การให้กำลังใจ และเชื่อมั่นในตัวเองเป็นพลังบวกที่ดีที่สุด ในสังคมการทำงานเป็นธรรมดาที่อาจจะมีการแข่งขันกันบ้าง สิ่งที่ตามมาคือคำวิจารณ์ การเปรียบเทียบ หากเรายังด้อยฝีมืออยู่จริง ก็แค่พัฒนาตัวเอง ไม่ใช่กดดัน ดูถูกตัวเอง หรือมัวแต่เอาตัวไปเปรียบเทียบกับใคร
- 17
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
