Mikhail Gorbachev มิคาอิล กอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีที่โลกรัก แต่คนรัสเซียส่วนใหญ่เกลียด......
เคยมีการสำรวจความคิดเห็นพบว่าคนราว 10 กว่าเปอร์เซ็นในรัสเซียเท่านั้นที่ชื่นชอบ มิคาอิล กอร์บาชอฟ
ภาพจำที่คนรัสเซียทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จดจำเกี่ยวกับประธานาธิบดีผู้มีเอกลักษณ์เป็นแผนที่อยู่บนศรีษะท่านนี้ ก็คือ
เขาคือคนที่เป็นต้นเหตุทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลาย
2 มีนาคม 1931 มิคาอิล กอร์บาชอฟถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวชาวนายากจน โดยมีพ่อเป็นชาวรัสเซียและมีแม่เป็นชาวยูเครน
กอร์บาชอฟ เติบโตขึ้นมาด้วยการทำงานหนักในระบบนารวมตามแนวคิดของโจเซฟ สตาลิน
ด้านการศึกษา มิคาอิล กอร์บาชอฟ เริ่มต้นเรียนด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยโลโมโนซอฟ และเข้าสู่เส้นทางการเมืองด้วยการสมัครเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ตอนอายุ 21 ปี
ในวัย 35 มิคาอิล กอร์บาชอฟ เรียนจบเพิ่มเติมด้านการเกษตร และนั่นเองคือสิ่งที่ทำให้ต่อมาเขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตรแห่งสหภาพโซเวียตคนแรก
ตั้งแต่ปี 1972 - 1975 กอร์บาชอฟได้รับมอบหมายงานจากพรรคคอมมิวนิสต์ให้เดินสายพบปะผู้นำประเทศแถบตะวันตกหลายคน หนึ่งในนั้นคือนางมากาเรตต์ แทชเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กของอังกฤษ
มากาเรตต์ แทตเชอร์ เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบีบีซีไว้ว่า..
คุณกอร์บาชอฟเป็นคนที่คบหาได้ ฉันว่าฉันพร้อมทำงานกับเขานะ
มากาเรตต์ แทชเชอร์
ให้หลังไม่นานเมื่อ ลิโอนิค เบรตเนฟ ผู้นำสหภาพโซเวียตเสียชีวิตลง มีคนขึ้นมาแทนช่วงสั้น ๆ อีกสองคน คนหนึ่งไม่เป็นที่ยอมรับกับอีกคนที่อยู่ในสภาพป่วยหนัก
สุดท้ายแล้ว ทางเลือกผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จึงเหลือแค่สองคนคือเกรกอรี่ โรมานอฟและมิคาอิล กอร์บาชอฟ
โรมานอฟเป็นนักการเมืองสายเหยี่ยว ซึ่งแตกต่างจากกอร์บาชอฟที่เป็นนักปฏิรูปเต็มตัว
และเมื่อคอนสแตนติน คอนเชนโก ผู้นำชั่วคราวได้เสียชีวิตลง ในปี 1982 พรรคคอมมิวนิสต์จึงเลือกให้มิคาอิล กอร์บาชอฟ ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียตแทน
เมื่อกอร์บาชอฟขึ้นสู่อำนาจ เขานำแนวคิดด้านการปฏิรูปมาปฏิบัติทันที
สองนโยบายสำคัญที่ถูกผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสหภาพโซเวียตก็คือ..นโยบาย Glasnost และ Perestroika
สองนโยบายสำคัญอันมีความหมายในการปฏิบัติซึ่งเสรีภาพแห่งการเปิดเผยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง การยอมให้มีการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนและสื่อมวลชน ระบบตลาดเสรีที่เป็นธรรม รวมทั้งปรับปรุงระเบียบการครอบครองทรัพย์สินของชาวโซเวียต
นอกจากการเดินหน้าล้างมลทินเดิมของสหภาพโซเวียตด้วยการเปิดประเทศให้โลกรู้จัก
พร้อม ๆ กับการเปิดโลกภายนอกให้คนโซเวียตได้มองเห็น
การลดการถือครองอาวุธร้ายแรงผ่านข้อตกลงกับประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนแห่งสหรัฐอเมริกาก็เป็นเรื่องสำคัญที่กอร์บาชอฟพยายามทำ
กอร์บาชอฟพยายามลดการครอบงำพื้นที่อิทธิพลในเขตยุโรปตะวันออก มีการถอนทหารออกมาจากหลายประเทศ ทั้งโปแลนด์ ยูเครน ฮังการีและเบลารุส
รวมทั้งผลงานชิ้นโบว์แดงคือการเป็นตัวตั้งตัวตีในการรวมชาติเยอรมันฝั่งตะวันตกกับตะวันออกเข้าด้วยกัน..
เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดี
แต่แล้ว การเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นประชาธิปไตยของสหภาพโซเวียตกลับนำไปสู่การต่อต้านและการประท้วงเพื่อขอแยกตัวเป็นอิสระจากดินแดนสหภาพโซเวียตในแถบเอเชียกลางและยุโรปตะวันออก
สุดท้ายแล้ว มิคาอิล กอร์บาชอฟ ไม่สามารถรักษาความเป็นสหภาพโซเวียตไว้ได้จนถึงวันที่เขาใฝ่ฝัน
ปี 1991 มิคาอิล กอร์บาชอฟ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับการล่มสลายลงของสหภาพโซเวียต
นี่คืออดีตประธานาธิบดีผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
ผู้ที่วลาดิมีร์ ปูติน ไม่ได้ชื่นชอบสักเท่าไหร่
ครั้งหนึ่ง มิคาอิล กอร์บาชอฟ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่เขาเดินทางไปเยี่ยมชาวบ้านในเขตห่างไกลและยากจน
ชาวบ้านเกือบทุกคนต่างพูดกับเขาด้วยประโยคที่เหมือนกันว่า .
พอแล้วกับสงคราม
ชาวบ้านผู้ยากไร้
..
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
