มาแชร์ประสบการณ์สอบไอเอลกันค่ะ
เห็นช่วงนี้หลายประเทศเริ่มเปิดให้นักเรียนกลับไปเรียนแบบ face-to-face ได้แล้ว เพื่อน ๆ รอบตัวก็เริ่มกลับมาวางแผนสอบไอเอลเพื่อใช้ยื่นเรียนต่างประเทศกันมากขึ้น โดยส่วนตัวเราถึงจะสอบไอเอลไปนานแล้ว แต่ก็มีเพื่อนหลายคนทักมาถามหรือคุยเรื่องนี้อยู่ โพสต์นี้เลยอยากมาเขียนสรุปเพื่อแบ่งปันให้ใครที่กำลังเตรียมสอบได้อ่านดูค่ะ
เราผ่านการสอบไอเอลมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกเราสอบตอนอยู่มหาลัยปี 2 กะว่าสอบไว้เผื่อใช้ยื่นแลกเปลี่ยนหรือฝึกงานต่างประเทศ ซึ่งตอนนั้นเราได้ Band 6 ส่วนครั้งที่ 2 สอบเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อันนี้ตั้งใจสอบเพื่อไปยื่นเพื่อเรียนต่อป.โทค่ะ ซึ่งรอบนี้ได้ Band 7
ถามว่า 2 ครั้งที่สอบกระโดดขึ้นมา 1 Band เราเตรียมตัวต่างกันมากไหม บอกเลยว่าเตรียมตัวกันคนละแบบเลยค่ะ
อย่างตอนสอบครั้งแรก ตอนนั้นกลับมาจากเรียนภาษาที่มาเลย์คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐานทั่วไป ใช้เวลาเรียน 1 เดือน พอกลับมาจากคนที่ไม่เคยพูดภาษาอังกฤษนอกจากในห้องเรียนเลย ก็มีความมั่นใจมากขึ้น เลยลองสมัครสอบไอเอลดู ซึ่งตอนนั้นก็ซื้อหนังสือมาอ่านเอง ฝึกพูด ฝึกเขียนเอง เตรียมตัวก่อนสอบประมาณ 1 เดือน พอผลออกมาก็ค่อนข้างพอใจเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่เตรียมตัว และยังไม่เคยมีประสบการณ์สอบมาก่อน
พอมาสอบรอบ 2 รอบนี้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก คือ ต้องการใช้ผลสอบเพื่อใช้ต่อป.โท ซึ่งจริง ๆ เกณฑ์ของแต่มหาลัยแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน อย่างหลายมหาลัยดูคะแนน Overall ทำให้เราสามารถฝึกพาร์ทที่เราถนัดให้ได้คะแนนสูง ๆ เพื่อดึงคะแนนรวมขึ้น และพาร์ทไหนไม่ถนัดก็ประคองให้ไม่ฉุดคะแนนลงไปได้ ซึ่งส่วนตัวได้ Band 7 มาได้เพราะแบบนี้เลย
เราได้คะแนน Overall 7 ก็จริง แต่ถ้ามาดูรายพาร์ทจริง ๆ เราได้ Reading 7.5 / Listening 7.5 / Speaking 6 / Writing 6 ซึ่งถ้าเราสมัครมหาลัยที่เค้ากำหนดว่าทุกพาร์ทต้องได้เกิน 7 หรือ 6.5 เราที่ได้ overall 7 ก็ไม่ผ่านเกณฑ์เหมือนกัน
**เพราะฉะนั้นใครที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะสอบไปเพื่ออะไร ควรนั่งอ่านเกณฑ์เค้าให้ดี เวลาเตรียมสอบจะได้ฝึกฝนได้ถูกจุด***
สำหรับกาารเตรียมตัวสอบรอบ 2 ตอนนั้นเราทำงานจ.-ศ. ส่วนส.-อา. ก็มีลงเรียนคอร์สไอเอลของสถาบันที่ติวไอแอลโดยเฉพาะ ซึ่งข้อดีของการติวคือเราจะสามารถโฟกัสได้ตรงจุดกับสิ่งที่ข้อสอบต้องการ ช่วยย่นระยะเวลาในการเตรียมตัวสอบให้สั้นลง เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาเตรียมตัวมาก แต่อยากได้ Band สูง ๆ
แต่!! การลงคอร์สติวนั้นไม่เหมาะกับคนที่พื้นฐานไม่แข็งแรง เนื่องจากเวลาเค้าสอนส่วนใหญ่จะเป็นการนำมาใช้จริงผ่านทักษะต่าง ๆ ที่ใช้สอบโดยตรง จะไม่มีการมานั่งทวนเรื่องของ Tense หรือ Grammarใด ๆ ทั้งสิ้น (จากประสบการณ์ที่ไปเรียนมา) แต่เราสามารถจำ Keyword แล้วมาหาอ่านเพิ่มเติมเองได้ ยกตัวอย่างเช่นถ้าใครติวเพื่อต้องการ Band 6 ขึ้นไป อาจารย์ก็จะมีเน้นในเรื่องของ Paraphrase และ Complex sentence ในพาร์ท Writing ซึ่งในคลาสก็จะอธิบายคร่าว ๆ เราต้องไปหาอ่านหรือฝึกเพิ่มเติมเอาเอง
สำหรับเรา เรามองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเตรียมสอบไม่ใช่การติว แต่คือการฝึกทำข้อสอบจริง จับเวลาจริง โดยใช้หนังสือแบบฝึกหัดจาก Cambridge ที่เล่มสีดำ ๆ ราคาเล่มละพันกว่าบาท (ราคาแอบโหด) แต่ถ้าใครติวก็ลองถามที่ติวส่วนใหญ่น่าจะมีให้ยืม หรือลอง ๆ เสิร์ชหาตามอินเตอร์เน็ตก็ได้ เราแนะนำให้ลองทำข้อสอบจากเล่มล่าสุดไปเล่มเก่า (ตอนนี้น่าจะออกมาถึงเล่ม 16 แล้ว) เอาจริงอาจจะไม่ได้ทำจนครบทุกเล่ม เพราะเยอะด้วยแล้วบางทีเล่มเก่ามาก ๆ ก็อาจจะไม่ตรงกับแนวข้อสอบปัจจุบันแล้ว ส่วนตัวเรามองว่าสัก 5 เล่มย้อนหลังก็พอแล้ว เพราะ 1 เล่มจะมีข้อสอบ 4 ชุด ทำ 5 เล่มก็ปาไป 20 ชุดแล้ว
หลังจากที่เราทำข้อสอบเสร็จแต่ละชุด เราก็จะมานั่งดูแต่ละพาร์ทเลยว่าเราได้คะแนนเท่าไหร่ พลาดตรงจุดไหนบ้าง แล้วพอทำไปหลาย ๆ ชุด เราจะรู้เลยว่าบางจุดโดยเฉพาะ Listening อาจจะเกิดจากการเติม s ไม่เติม s หรือโดนข้อสอบหลอก ซึ่งถ้าเรามาสำรวจตัวเองทุกครั้งหลังทำข้อสอบ จะช่วยให้โอกาสที่จะผิดพลาดเรื่องเดิม ๆ น้อยลง และมีโอกาสได้คะแนนสูงขึ้น
ใครที่กำลังจะเตรียมตัวสอบไอเอลก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์บ้างน้า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
