ผู้ที่จะก่อสงครามให้ลามออกไปตัวจริงไม่ใช่ยูเครนและรัสเซีย เพราะไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ต้องบอกว่าต้องจับตาอย่างใกล้ชิดมากกว่านายกจะยุบสภาเสียอีก นั่นก็เพราะก่อให้เกิดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อคนไทยและคนทั้งโลก โดยเฉพาะเรื่องของราคาสินค้าจำเป็น แต่ที่จะแย่กว่านั้นคือหลายๆธุรกิจอาจจะต้องปิดกิจการไป เพราะไม่มีวัตถุดิบและสู้ต้นทุนไม่ไหว คนจะตกงานไปอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้
การที่รัสเซียรบกับยูเครน มองยังไงก็ไม่น่าจะมีวัตถุประสงค์ในการขยายผลเป็นสงครามโลกหรือสงครามภูมิภาค ถึงแม้ว่ารัสเซียจะส่งออกอาวุธเป็นจำนวนมหาศาลถึง 18.6% ของโลกก็ตามที (ที่มา: สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI), 2564)
แต่ผลประโยชน์ของรัสเซียจากการขายพลังงานและวัตุดิบการเกษตรรวมถึงเกษตรแปรรูป เป็นสิ่งที่ทำให้ได้รับประโยชน์มากกว่า เพราะรายได้จะกระจายไปยังประชาชนจำนวนมากกว่าการขายอาวุธที่มีเพียงไม่กี่กลุ่มที่ได้ผลประโยชน์
ที่มา https://www.salika.co/2022/03/16/us-world-biggest-arms-exporter/
การที่สงครามขยายตัวไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีกับรัสเซียเลย ทั้งยังทำให้มิตรประเทศลดจำนวนลงด้วย
แต่จากข่าวคราวที่หลายประเทศในยุโรปรวมทั้งอินเดียที่เป็นประเทศที่มีประชากรอันดับ 2 ของโลก ไม่ร่วมวงแซงชั่นตามที่อเมริกาขอร้อง ที่หนักกว่านั้นคือซาอุดิอาระเบียผู้ผลิตน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก มีข้อตกลงการซื้อขายน้ำมันโดยผ่านเงินหยวนโดยไม่ใช้ดอลล่าร์สหรัฐ ยิ่งเป็นการจุดชนวนความไม่พอใจให้กับพี่เบิ้มของโลก
นอกจากนี้แล้วหนี้สาธารณะของอเมริกายังพุ่งทะลุ 30 ล้านล้านดอลลาร์ ลองเอา 33.4 คูณเข้าไปก็จะเป็นเงินประมาณ 1,002,000,000,000,000 บาท เป็นสัดส่วนต่อ GPD เกือบ 130% ซึ่ง GPD ของ อเมริกามีสัดส่วนสูงถึง 24.8% ของโลกหรือเกือบ ¼ เลยที่เดียว (Worldometers.info, 2022) มองไม่ออกว่าพี่เบิ้มจะหาเงินจากที่ไหนมาใช้หนี้ได้
Source: Visual Capitalist
ด้วยการสังเกตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตในประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับพี่เบิ้ม ไม่เกิดรัฐประหารก็เกิดสงครามการเมือง หรือแม้แต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรื่องนี้ไม่ขอยืนยันว่ามาจากที่เบิ้มเป็นคนทำนะครับ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น
สังหรณ์ใจลึกๆว่าประเทศซาอุดิอาระเบียอาจพบกับการเรียกร้องประชาธิปไตย ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศ เพราะน่าจะเจอพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกแบบบังเอิญสุดๆ
ครั้งนี้อเมริกาเสียรังวัดไปมากจากการที่เคยสั่งหลายประเทศซ้ายหันขวาหันได้ ครั้งนี้ประเทศส่วนมากไม่เอาด้วย เพราะประชาชนของเขาเสียประโยชน์ ทั้งเรื่องของการใช้เงินหยวนมาซื้อน้ำมันจากซาอุดิอารเบีย เป็นอะไรที่ยอมไม่ได้เลยเพราะเป็นฐานอำนาจในการควบคุมโลกด้วยเงินดอลล่าร์
Source: Opus Kinetic
อีกเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เลยคือ อเมริกาส่งออกอาวุธไปขายเกือบครึ่งโลก มากกว่ารัสเซียที่เป็นอันดับ 2 ถึง 2 เท่ากว่าหรือ 38.6% เป็นรายได้ที่ต้องนำมาหล่อเลี้ยงประเทศของเขาเป็นหลักด้วย เพราะนอกจากจะทำกำไรได้แบบเต็มที่แล้ว ยังสามารถควบคุมประเทศที่ซื้ออาวุธได้อีกหลายทาง
หากจะปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปตามกลไกการตลาดหรือตลาดเสรี (ที่เคยมีแต่เพียงคำพูดหวานๆ) พี่เบิ้มไม่ปลื้มแน่นอน ทั้งอำนาจและรายได้ลดลงอย่างชัดเจน
หาไม่แล้วการสร้างให้เกิดความขัดแย้งนอกแผ่นดินตนเอง ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะมีอาวุธที่รอจำหน่ายอยู่จำนวนมาก หลายๆประเทศก็มีหน่วยงานของพี่เบิ้มไปฝังตัวอยู่ ข้อมูลต่างๆที่จะมาทำให้เกิดความโกลาหลก็น่าน่าจะไม่เกินความสามารถที่จะทำได้
เชื่อว่าสงครามยังไงก็ลุกลามออกไปอีก เพียงแต่จะเป็นสงครามในรูปแบบไหนก็เท่านั้น จะใช้อาวุธจะใช้วัคซีนหรือใช้สงครามทางการค้า เรื่องนี้ต้องรอติดตามตอนต่อไป เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ เพราะสงครามคือเรื่องของผู้ที่เสียผลประโยชน์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ได้ด้วยเลห์ก็ต้องเอาด้วยกล
ที่มา thainews.prd.go.th
แต่ก็แอบหวังว่าสินค้าเกษตรของไทยประเทศทั่วโลกจะต้องสั่งซื้อมากขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มก็ตามแต่ก็ขายได้แพงขึ้นอยู่ดี ไม่แน่ว่าสงครามที่จะเกิดขึ้นอาจจะเปลี่ยนประเทศไทยและภูมิภาคนี้กลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งร่ำรวยก็ได้
อ้างอิง
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
