ในการวิเคราะห์ข้อมูลทาง Machine Learning อาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากทั้งเรื่องการคำนวณและการเขียนโปรแกรม (coding) ทำให้ business user ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาดหรือนักบัญชีไม่สะดวกที่จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลแบบนี้ได้ แต่ในปัจจุบันเริ่มมีซอฟต์แวร์ที่เป็นลักษณะ No-Code หรือ Low-Code Machine Learning ที่สามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมเลยก็สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ ทำให้ business user สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่สนใจเองได้ในลักษณะของ self-service ซึ่งข้อดี คือ business user จะเป็นคนที่เข้าใจในข้อมูลและธุรกิจที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่มาก ดังนั้นจึงทำให้สามารถวิเคราะห์ได้หลากหลายมุมมองมากขึ้นกว่าเดิม
ในบทความนี้ผู้เขียน (คุณ Kwan Suppaiboonsuk) ได้เปรียบเทียบเครื่องมือทั้งหมด 26 แบบและสรุปออกมาเป็น quadrant (ดังแสดงในรูป) ซึ่งแกนนอนคือเรื่องของความง่ายในการใช้งาน (Tool Simplicity) และแกนตั้งความสามารถในการสร้าง process ในการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลแบบต่างๆ (Coverage of ML Process) จากกราฟจะแบ่งได้เป็น 4 ส่วน คือ
1. Power Tools เป็นกลุ่มเครื่องมือที่สามารถจัดการแก้ไขข้อมูลและสร้างแบบจำลองที่ customize ได้ ซึ่งเหมาะกับผู้มีความรู้ระดับหนึ่ง เช่น Data Scientist หรือ Data Engineering ตัวอย่างในกลุ่มนี้เช่น RapidMiner (www.rapidminer.com)
2. Accessibility Promotors เป็นกลุ่มเครื่องมือที่ใช้งานไม่ยาก โดยอาจจะมี template หรือออกแบบเพื่อแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ทำให้คนทั่วไปสามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบ ML ได้ ตัวอย่างในกลุ่มนี้เช่น Obviously AI (https://www.obviously.ai/)