โลกที่คุณเข้าถึงได้ด้วยความรัก
โลกที่คุณเข้าถึงได้ด้วยความรัก
1
คุณกำลังหลับตาลงแล้วนึกถึงใครสักคน
ลองหลับตาลงจริงๆ สักชั่วขณะ นึกถึงใครสักคนที่คุณรัก
ภาพของใครปรากฏขึ้นในความมืด?
ปรากฏการณ์เช่นนี้น่าสนใจ เป็นปริศนาและเป็นความจริงในเวลาเดียวกันว่า ใครคนนั้นคือคนที่คุณกำลังคิดถึงอยู่ แล้วถ้าบุคคลนั้นปรากฏกายขึ้นตรงหน้าคุณ ณ ตอนนี้ ร่างกายคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง ลองสำรวจเรือนร่างของคุณตั้งแต่กลางศีรษะ ขมับ หว่างคิ้ว ริมฝีปาก ลิ้น คอ ไล่เรื่อยลงไปจนถึงเท้าทั้งสอง แน่นอน รวมถึงอวัยวะภายในอย่างหัวใจด้วย มันเต้นสม่ำเสมอดังเดิมไหม หรือถี่รัวขึ้น หรือเต้นไม่เป็นจังหวะ
บุคคลนี้น่าจะมีความหมายกับคุณไม่น้อย
หากอธิบายกระบวนการเหล่านี้ด้วยคำอธิบายแบบวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสมอง ความทรงจำ หรือปฏิกิริยาของร่างกายย่อมอธิบายได้ แต่ขณะที่มันเกิดขึ้นเรามิได้ใคร่ครวญถึงเหตุผลหรือไล่เรียงตรรกะแต่อย่างใด
มันเกิดขึ้นราวเวทมนตร์
โดยทั่วไปแล้วเราเองก็ไม่ต้องการคำอธิบาย
ใช่, เราไม่ต้องการรู้ที่มาของความรัก แต่อยากรู้ที่ไปมากกว่า
2
ในห้วงรักดูเหมือนเหตุผลหลบลี้หนีหายไปไปชั่วขณะ โลกปรากฏตรงหน้าเราต่างจากเดิม ทุกอารมณ์เข้มข้นขึ้น สุขก็เข้มข้น เจ็บปวดก็เข้มข้น ดอกไม้สีสวยกว่าเมื่อวาน ไอศกรีมหวานยิ่งกว่าที่เคยหวาน สถานที่ปกติกลายร่างเป็นพื้นที่พิเศษ กระทั่งฝนพรำก็หาใช่อุปสรรค กลับกลายเป็นฉากตอนในความทรงจำที่สวยงาม แน่นอนว่ารสขมและความหม่นมืดก็หน่วงหนักกว่าในยามปกติเช่นกัน
รักพาเราไปสู่โลกอีกใบ สู่ตัวเราอีกคน
บ๊อบ ดีแลน กล่าวว่า “คุณไม่สามารถฉลาดและตกหลุมรักได้ในเวลาเดียวกัน”
ยามตกหลุมรัก สมองฝั่งเหตุผลเหมือนถูกพักไว้ ขณะหัวใจเถลิงอำนาจขึ้นมาบัญชาการชีวิต นำทางเราให้เป็นไปตามใจเรียกร้องอย่างยากฉุดรั้ง
โง่หรือเปล่า?
ยากจะตอบ
ผมกลับคิดว่าหากมีใครสักคนมีพลังอำนาจขนาดนำพาเราออกจากการโหมดเหตุผลที่ใช้มาตลอดในแทบทุกอณูของชีวิตย่อมเป็นช่วงเวลาวิจิตรมหัศจรรย์ เหมือนคนนั้นชวนเราลอดเข้าโพรงกระต่ายที่นำทางเราเข้าสู่ดินแดนไม่เคยรู้จัก ไม่บ่อยนักที่จะค้นพบทางเข้าสู่อาณาจักรแห่งนั้น
โง่ไหมที่จะก้าวเข้าไป?
ไม่แน่ใจ
เราคงเกิดมาพร้อมสมรรถภาพของการมีสติ ตริตรองด้วยหลักการ ใคร่ครวญด้วยเหตุผล ขณะเดียวกันเราก็มีความสามารถในการล่องลอยไปกับอารมณ์
จินตนาการ ความฝัน และดำผุดดำว่ายไปในมหาสมุทรแห่งรัก โดยถอดเสื้อผ้าแห่งเหตุผลไว้ที่ชายหาด
มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมสองคุณสมบัตินี้
ในยามใช้เหตุผล มนุษย์ฉลาดกว่ายามใช้อารมณ์ไหม?
คุณคิดว่าไง
3
ผมออกจะเห็นด้วยถ้าบ๊อบ ดีแลนจะบอกว่า “คุณไม่สามารถใช้เหตุผลและตกหลุมรักได้ในเวลาเดียวกัน” ส่วนความฉลาดนั้นพูดยาก เพราะบางคนที่ใช้ความฉลาดฉุดตัวเองออกจากหลุมรักก็ยังตอบตัวเองยากว่า ‘ฉลาด’ จริงหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ไม่เคยมีใครหยุดยั้งตัวเองได้ไม่ให้ตกหลุมรัก
รู้ตัวก็ตกลงไปแล้ว
แน่นอน หากรักนั้นกระทบกระเทือนคนอื่น แย่งชิงคนรักของใคร เหตุผลควรยกมาพิจารณา แต่หากเป็นการใช้เหตุผลเพื่อยั้งตัวเองไว้เพราะกลัวผิดหวังเสียใจ หรือบอกตัวเองว่ารู้เท่าทัน อันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับผมแล้ว เราไม่ได้ฉลาดหรือโง่เวลามีรัก มันเพียงเกิดขึ้นโดยไม่อาจต้านทาน
ไม่มีใครต้านทานความรักในใจตัวเองได้ มันเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง หากต้านทานก็ต้องทำหลังเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
ใช่, เราต้านทานรักด้วยเหตุผล
ในห้วงรัก เราอาจดูไม่ฉลาดนัก แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เรารู้สึกเข้มข้นกับชีวิต ไม่ว่าเจ็บปวดหรือสุขสม บางคนจึงรู้สึกคุ้มค่าที่ได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้ เรายิ้มได้เต็มยิ้ม หัวเราะเต็มเสียง และร้องไห้จากหัวใจ รักเท่านั้นที่สร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น
ในแง่นี้ ความรักจึงทำให้เราได้สัมผัสชีวิตอย่างเต็มที่ ลิ้มรสเต็มรสชาติ
เป็นรสชาติที่เข้าไม่ถึงในยามใช้เหตุผลอธิบายทุกสิ่งอย่าง
รักไม่ต้องการคำอธิบาย เราเข้าถึงและเข้าใจได้โดยไม่ต้องแจกแจง มันเต็มรสอยู่ในใจไม่ว่าหวานขม ไม่ว่าดอกไม้บาน มีดกรีดลงในหัวใจ หรือรู้สึกว่างโหวงราวส่วนหนึ่งของตัวเราหายไปแบบไม่มีวันหวนกลับ
ในห้วงเวลานั้นเราไม่ฉลาดนัก แต่กำลังใช้ชีวิตและดื่มด่ำรสชาติแบบหนึ่งของมัน เพื่อได้ลิ้มรสเข้มข้นเช่นนี้ มนุษย์คนหนึ่งอาจต้องปล่อยมือจากเหตุผลที่พยายามบอกเตือนตัวเองให้หลีกเลี่ยงความรักอันโง่เขลา ทิ้งร่างและหัวใจลงไปในมหาสมุทรที่ไม่เห็นจุดสิ้นสุด แล้วปล่อยให้ทุกสิ่งดำเนินไป
ใช่, เรากำลังสัมผัสความรักโดยไร้คำอธิบาย
นี่มิใช่ความกล้าหาญประการหนึ่งหรอกหรือ
โดยมากแล้วประสบการณ์ของการทิ้งตัวนี้จะกลายเป็นความทรงจำหลากสีสันทั้งสวยงามและหม่นเศร้าที่เราไม่มีวันลืม
4
เมื่อใครสักคนรู้สึกว่าตนกำลังจะจมมหาสมุทรแห่งรัก เมื่อนั้นเองชูชีพที่มีชื่อว่าเหตุผลจะถูกโยนลงไปเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ ในยามผุดพ้นขึ้นเหนือผิวน้ำที่เคยดำดิ่งลงไป เขามองลงไปยังที่ซึ่งตนจากมา อธิบายทุกสิ่งได้เป็นฉากๆ เข้าใจเหตุการณ์เรียงตรรกะได้หนึ่ง-สอง-สาม-สี่ แน่นอน เขาดูมีสติและปัญญาแล้วในขณะนี้
แต่ถ้าลองให้เขาหลับตาลงแล้วนึกถึงใครสักคน
ภาพเหตุการณ์ขณะจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรแห่งรักกับใครคนนั้นจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง
มันไม่เคยหายไปไหน
สำหรับผมแล้ว อาจไม่ใช่เรื่องฉลาดหรือโง่ที่ใครคนหนึ่งจะตกหลุมรัก แต่เป็นจริงที่ว่าเราปล่อยวางเหตุผลไปแทบทั้งหมดในยามตกหลุมรัก เพื่อสัมผัสรักเต็มรส
เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มา-ซึ่งเป็นสิ่งที่ชีวิตอันเต็มไปด้วยเหตุผลมิอาจมอบแก่เรา-ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะประเมินกันว่าคุ้มค่าหรือไม่
สำหรับผมแล้ว—คุ้ม
ผมคิดว่าเรามิได้เกิดมาเพื่อถนอมตัวให้ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย แต่เราเกิดมาเพื่อได้ผิดหวังในสิ่งที่หัวใจนำทางเราไปบนเส้นทางที่ยินดีละวางเหตุผลไว้ชั่วขณะ เพื่อเข้าถึงโลกอีกใบที่แตกต่างจากโลกที่สัมผัสด้วยหัวสมอง
เป็นโลกที่สัมผัสด้วยใจ
ซึ่งจะว่าไปเราไม่มีสิทธิเลือกหรอก
เมื่อรู้ตัวว่ารัก เราก็ถอดเสื้อผ้าแห่งเหตุผลออกและจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรเรียบร้อยแล้ว ที่เลือกได้คือ จะดำดิ่งลงในรักหรือพลุ่งพรวดขึ้นเหนือผิวน้ำ สถานการณ์และเวลามักมอบคำตอบให้เราในวันเวลาที่เหมาะสม
เมื่อเหตุผลทำงาน เราขึ้นมาอยู่เหนือน้ำแล้ว
- 217
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
