20 มี.ค. 2022 เวลา 11:41 • ไลฟ์สไตล์
‘ความโสด’ ที่ไม่ธรรมดา และไม่ได้มาเล่นๆ (ตอน 1)
"ทำไมยังโสด" คำถามนี้เราอาจจะเคยถามตัวเอง
ถามเพื่อน ถามคนรอบตัว แต่ที่หนักหนาที่สุด คือเมื่อเราถูกถามซะเอง
อาจจะดูเป็นคำถามที่ เหมือนจะตอบง่าย แต่ทำไมต้องคิดนาน
บางทีอาจมีอาการเจ็บแปล๊บทางช่องอกค่อนมาทางซ้าย (หรือทางขวาสำหรับบางคน) ร่วมด้วย
ความโสดไม่ใช่เรื่องพื้นๆ อีกต่อไป ไม่ใช่ปัญหาแค่เฉพาะตัวเรา (เมื่อถูกถาม)
หรือของแม่เรา ญาติเรา (เมื่อกี่ปีๆ ผ่านไป เราก็ฉายเดี่ยวทุกเทศกาล)
ความโสดของผู้คน กำลังจะกลายเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกในอีกไม่กี่ปีนับจากนี้
และขณะนี้เป็นปัญหาสำคัญในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศเราด้วย
เพราะเมื่อโสด อัตราการเกิดต่ำ ประชากรวัยทำงานถดถอย วัยชรามาแทนที่
ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคม ขยายวงออกไป และเราจะหยุดประเด็นนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้
มาวิเคราะห์ความโสดกันต่อดีกว่า
เรื่องความโสด ก็เหมือนเรื่องลึกลับอีกหลายๆ เรื่อง เหมือนคดีที่ยังปิดไม่ลง
เหมือนขอบเขตของจักรวาลที่จินตนาการไม่ถึง
งานวิจัยด้าน ความโสด ก็ยังมีอยู่น้อย ส่วนใหญ่มักเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์
การพัฒนาความสัมพันธ์ หรือคนที่มีคู่กันอยู่แล้วนั่นเอง
เพื่อที่จะให้เราได้พอมีเส้นทางเดินไปสู่ความสว่างท่ามกลางความมืดมน
มีงานวิจัยที่ได้เชื่อมโยงความโสด และ รูปแบบความผูกพัน (attachment style) ไว้
และได้นำเสนอแนวคิด 3 หนทางไปสู่ความโสดจากการวิจัยนี้
ก่อนไปค้นหาที่มาของความโสด มารู้จักคำ "รูปแบบความผูกพัน" กันก่อน
รูปแบบความผูกพันเป็นระบบประสาทที่มีมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจะขับเคลื่อนความต้องการ
ที่จะแสดงความเป็นเจ้าของและความแนบชิดสนิทสนม โดยถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะพบได้ในมนุษย์ทั่วไป และในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่
รูปแบบความผูกพัน มี 4 รูปแบบ
• รูปแบบมั่นคง (Secure Attachment Style) : มีความฉลาดทางอารมณ์ แสดงออกถึงความใกล้ชิด
สนิทสนมได้ หากต้องการรักษาระยะห่างก็สามารถทำได้อย่างดี อยู่คนเดียวก็เป็นสุข อยู่กับคนอื่นก็สนุกดี
มองความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวในแง่ดี แก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์ได้อย่างสันติ และเมื่อต้องจบ
ความสัมพันธ์ลง ก็สามารถยอมรับความเสียใจ เรียนรู้ และก้าวต่อไปได้
• รูปแบบวิตกกังวล-หมกมุ่น (Anxious-Preoccupied Attachment Style) :
ไม่แน่ใจและวิตกเมื่อมีความสัมพันธ์ ทั้งจากความเป็นจริงและที่จินตนาการขึ้น ซึ่งแสดงออกเป็นความหึงหวง
ความเป็นเจ้าของ บงการ มีอารมณ์แปรปรวน หรืออ่อนไหวมากเกินไป มองโลกในแง่ร้าย เรียกร้องการแสดงความรัก
เพื่อพิสูจน์คุณค่าในตัวเอง ชอบสร้างเรื่องเพื่อให้มีประเด็นในความสัมพันธ์ ไม่ชอบการอยู่คนเดียว
• รูปแบบหมางเมิน-หลีกเลี่ยง (Dismissive-Avoidant Attachment Style) : เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
หลีกเลี่ยงความสนิทสนมใกล้ชิดเพราะจะทำให้อ่อนแอ ต้องการอิสรภาพทางกายและอารมณ์ ความรักเป็น
เรื่องท้ายๆ ของลำดับความสำคัญในชีวิต ชอบที่จะโสดแต่ถึงแม้จะมีความสัมพันธ์ที่จริงจังได้ ก็จะยังเอาตัวเอง
เป็นที่ตั้งอยู่ดี อาจจะดูมีคนล้อมรอบเยอะ แต่ที่สนิทกันจริงๆ มีไม่กี่คน บางคนอาจเป็นพวกไม่แสดงอารมณ์แง่ลบ
ออกมาโดยตรง และ/หรืออาจเป็นพวกหลงตัวเองด้วยก็ได้ (ตามไปอ่านบางส่วนของบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองได้ที่
• รูปแบบหวาดกลัว-หลีกเลี่ยง (Fearful-Avoidant Attachment Style) : กล้าๆ กลัวๆ ที่จะมีความสัมพันธ์
มักอยู่กับความเชื่อมั่นและพึ่งพาคนอื่น กลัวการอยู่ในความรักทั้งทางกายและอารมณ์ รวมถึงสถานการณ์
ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิดสนิทแนบ มองโลกแง่ร้าย มีคนสนิทในชีวิตจำกัดเพราะผลักไสผู้อื่นออกไป
ตอนต่อไป เราจะมาดูกันว่า รูปแบบของความผูกพันเหล่านี้ มีผลต่อความรัก ความสัมพันธ์ได้อย่างไร
โฆษณา