ตอนที่ 1 : ร่างกายทำงานยังไง?
ก่อนที่เราจะเข้าใจว่าทำไมต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย
(ทั้งอย่างไร้สาระ และมีคุณค่า)
เราก็ต้องเริ่มจาก เข้าใจองค์ประกอบของร่างกายของคน ก่อน
ร่างกายประกอบไปด้วยส่วนที่มาประกอบกัน 5 ส่วน
ซึ่งจริงๆแล้ว 5 ส่วนนี้ไม่มีอะไรที่เป็นจริงเลย
ไม่สามารถหาตัวตนที่แท้จริงของมันได้
ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์
ถ้าเราแยกส่วนประกอบออก เราก็จะเจอเครื่องยนต์
ถ้าเราแยกส่วนประกอบเครื่องยนต์ออก เราก็จะเจอน็อต
ถ้าเราแยกน๊อตออก ก็จะกลายเป็นเศษเหล็ก
ถ้าเราเอาเศษเหล็กมาหลอมละลาย ส่องเข้าไปในกล้อง
เราก็จะเห็น ส่วนประกอบที่เป็นแร่ธาตุ คาร์บอน
ถ้าเราเอาคาร์บอน มาส่องเข้าไปอีกเราก็จะเห็นอะตอม
ถ้าเราเอาอะตอม มาส่องเข้าไปอีกเราก็จะเห็นโปรตอนนิวตรอน
ถ้าเราเอาโปรตอนนิวตรอน มาชนกันจนแตก เราก็จะเจอหน่วยที่เล็กที่สุดในโลก
"ควาร์ก Quark"
แล้วถ้าเราส่องเข้าไปอีก ก็ไม่รู้จะมีอะไรในนั้น
ประเด็นคือเราจับต้องตัวตนที่แท้จริงไม่ได้ซะที
สรุปแล้ว สิ่งที่หาตัวตนไม่ได้ มาประกอบกันเรื่อยๆ จนกลายเป็นรถยนต์ 1 คัน
มันก็เหมือนร่างกายเราแหละ สุดท้ายแล้วไม่มีอะไรเลย
เป็นแค่ส่วนประกอบของควาร์ก แค่นั้นเอง
แต่ในตัวเรามีสิ่งอื่น ที่นอกเหนือจากสิ่งที่จับต้องได้ด้วย
ซึ่งรวมแล้วก็มีอยู่ 5 อย่าง
ร่างกายประกอบด้วย
- 1.รูป คือสิ่งที่จับต้องได้ทั้งหมด สสาร พลังงาน วัตถุ
- 2.สัญญา คือความรู้ รู้ว่าอะไรเรียกว่าอะไร สี ขนาด ชื่อเรียกสิ่งของหรือวัตถุนั้น
- 3.วิญญาณ คือการรับรู้ ด้วยสัมผัสทั้ง 5 หู ตา จมูก ปาก ผิว หรือสัมผัสทางใจ
- 4.เวทนา คือความรู้สึกด้านดี หรือไม่ดี หรือเฉยๆ
- 5.สังขาร คือความรู้สึก ที่ปรุงแต่งต่อ อยากได้อยากมี ไม่อยากให้เกิด ชอบใจไม่ชอบใจ โกรธ โลภ อิจฉา เมตตา หรือเอาง่ายๆก็คือ ความคิดทั้งแง่บวกและแง่ลบนั่นเอง
ยกตัวอย่างการมองเห็นของคน
ร่างกายนี้มีลูกกลมๆที่ส่วนหัวของร่างกาย จับต้องได้
อันนี้คือ รูป
ไอลูก กลมๆนี้ เรารู้ว่ามันเรียกว่า "ลูกตา"
อันนี้คือ สัญญา
เราใช้ลูกตาในการรับรู้ มีประสาทสัมผัสจากการเห็น เห็นเป็นภาพ
อันนี้คือ วิญญาณ
เมื่อเรามองเห็นกระดาษสีเทาๆที่มีตัวเลข เราก็รู้ว่านั่นคือเงิน
อันนี้คือ สัญญา (อีกแล้ว)
เมื่อเราเห็นเงิน เราก็จะเกิดความรู้สึกดีต่อมัน
อันนี้คือ เวทนา
สุดท้ายเมื่อเรารู้สึกดีต่อมันเราก็อยากที่จะมีมัน เราก็จะหาทางทำให้ได้มันมาอยากมี อยากครอบครอง มีตัณหา
อันนี้คือ สังขาร
ทีนี้ เวทนา สัญญา สังขาร
3 ตัวนี้มักจะทำงานร่วมกันตลอด
แล้วก็จะเป็นตัวที่ตัดสินให้คนทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว
เพราะ รูปและวิญญาณ อาจจะเกิดขึ้นในคนสองคนเหมือนกัน
(มีแบงค์เทาๆตกอยู่ตรงหน้า ใช้ประสาทสัมผัสเห็นเหมือนกันทั้งคู่)
แต่.. แต่ละคนจะมีเวทนาไม่เหมือนกัน (รู้สึกไม่เหมือนกัน)
คนแรกเห็นแบงค์เทาตกอยู่ = รู้สึกโชคดี ชอบใจ
ก็อาจจะเกิดสังขาร แบบ อยากได้ อยากมี อยากครอบครอง
คนสองเห็นแบงค์เทาตกอยู่ = รู้สึกเฉยๆ
ก็อาจจะเกิดสังขาร แบบ เมตตา อยากเอาไปคืนเจ้าของ
เพราะฉะนั้น เวทนานี่แหละจะเป็นตัวชี้นำ สังขาร
ให้จิตใจปรุงแต่งไปในทางดีหรือทางชั่ว
ก็จะเกิดเป็นความคิดที่ดีหรือชั่ว
พอคิดแล้วก็จะพูดในสิ่งที่ดีหรือชั่ว
แล้วก็สุดท้ายก็กระทำสิ่งที่ดีหรือชั่วออกมานั่นเอง
ไอการกระทำตรงนี้แหละที่เรียกว่า "กรรม"
มโนกรรม = คิดดี/ไม่ดี
คนแรก : คิดว่าจะเก็บกลับบ้าน
คนสอง : คิดว่าจะเก็บไปคืน
วจีกรรม = พูดดี/ไม่ดี
คนแรก : บอกว่าเป็นของตัวเองทำตกไว้
คนสอง : บอกว่าไม่ใช่ของตัวเอง จะเอาไปคืน
กายกรรม = การกระทำดี/ไม่ดี
คนแรก : ขโมย เก็บกลับบ้าน
คนสอง : เอาไปคืนเจ้าของสำเร็จ
ร่างกายคนก็จะประมาณนี้แหละ
ประกอบด้วยควาร์ก ล้านล้านล้านล้าน หน่วย
ผสมผสานกับ สิ่งที่จับต้องไม่ได้อีก 4 อย่าง
บูม!! ออกมาเป็น
"ก้อนเนื้อ เดินได้ พูดได้ คิดได้ ทำได้"
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
