21 มี.ค. 2022 เวลา 09:53 • ข่าวรอบโลก
รัสเซียกำลังสูญเสีย ‘แรงงานทักษะสูง’
หลายหมื่นคน หลังทางการเริ่ม
ควบคุมอินเทอร์เน็ตและสื่อ
--- บทความต่อไปนี้ใช้เวลาในการอ่านประมาณ 12-15 นาที ---
ขอแนะนำให้ Bookmark ไว้ หากยังไม่สะดวกอ่านอย่างต่อเนื่อง
เพื่ออรรถรสสูงสุดในการอ่านบทความ
บทสัมภาษณ์จาก The New York Times
เรียบเรียงในฉบับภาษาไทยโดย 31130 News
ภาพจาก The New York Times
ตั้งแต่รัสเซียเริ่มต้นการรุกรานยูเครน แรงงานภาคเทคโนโลยีและไอทีส่วนใหญ่อพยพไปยังประเทศอาร์เมเนีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเสรีภาพทางด้านอินเทอร์เน็ต และที่สำคัญ การทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่ไม่สามารถดำเนินการได้ที่รัสเซีย จากมาตรการคว่ำบาตรที่นานาประเทศใช้
ณ ร้านกาแฟกลางกรุงเยเรวาน เมืองหลวงของประเทศอาร์เมเนีย ขณะที่ Polina Loseva เว็บดีไซน์เนอร์อายุ 29 ปี จากมอสโก กำลังนั่งทำงานอยู่กับแล็ปท็อปของเธอ ทันใดนั้น ผู้สื่อข่าวจาก The New York Times ก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ
ร้านกาแฟในเยเรวาน, อาร์เมเนีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้อพยพชาวรัสเซียใช้พบปะกัน รวมถึงนั่งทำงานออนไลน์ด้วย (ภาพจาก The New York Times)
“สงครามเป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ฉันรู้เลยว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ทุกวันนี้ที่รัสเซีย พวกเขาจับคนเห็นต่างที่พิมพ์คำที่ไม่ได้มีพิษภัยอะไรเลยบนเฟสบุ๊ค มันปลอดภัยกว่าที่จะออกมาจากที่นั่น” เธอกล่าว
แรงงานที่อพยพออกมาจากรัสเซียหลายหมื่นคนนั้น เป็นแรงงานที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในภาคเทคโนโลยี
รวมไปถึงฟรีแลนซ์ด้วย
Bulat Mustafin อายุ 24 ปี และ Viktoria Poymenova แฟนสาว อายุ 22 ปี ทั้งคู่มาจากเมือง Mineralnye Vody ในรัสเซีย พวกเขาวางแผนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศจอร์เจียเพื่อหาเช่าอพาร์ทเมนท์ (ภาพจาก The New York Times)
ก่อนเกิดสงคราม มีแรงงานรัสเซียเพียง 3,000-4,000 คนเท่านั้นที่ลงทะเบียนเป็นแรงงานในประเทศอาร์เมเนีย
สองสัปดาห์หลังจากการรุกราน อย่างน้อยกว่าสามพันคนอพยพเข้ามายัง
อาร์เมเนียในทุกทุกวัน และอีกหลายพันมีเป้าหมายไปยังประเทศอื่น ในขณะเดียวกันมีผู้คนนับหมื่นในรัสเซียกำลังสนใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน
‘เมื่อเดือนก่อน รัสเซียยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างอิสระ, มีอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีการเซ็นเซอร์ รวมไปถึงเสรีภาพสื่อ, อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่รุ่งเรือง และงานศิลปะระดับโลก ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว’
ผู้อพยพกล่าวถึงประเทศรัสเซียก่อนการรุกรานยูเครน
1
จัตุรัสกลางกรุงเยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย, ทางการระบุว่า ก่อนเกิดสงคราม มีชาวรัสเซียลงทะเบียนเป็นแรงงานอยู่เพียง 3,000-4,000 คนเท่านั้น (ภาพจาก The New York Times)
ชาวรัสเซียที่อพยพเข้ามาในอาร์เมเนียภายหลังจากเกิดสงคราม ต่างรู้สึกผิดที่ทิ้งครอบครัว เพื่อน และบ้านเกิด
ตลอดจนความหวาดกลัวในการแสดงออกอย่างเสรีที่รัสเซีย
และความโศกเศร้าที่ได้เห็นประเทศที่พวกเขารัก ทำในสิ่งที่พวกเขาเกลียด
คนส่วนใหญ่ที่มีจุดยืนต่อต้านสงคราม
เป็นเพราะว่าพวกเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกรัสเซีย
Ivan กล่าว
Ivan เป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทพัฒนาเกมในไซปรัส เขาและชาวรัสเซียอีกหลายคนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยไม่ให้ชื่อนามสกุลจริง เพราะกลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้นที่บ้านของพวกเขา (รัสเซีย)
1
Loseva และแฟนหนุ่มของเธอ Roman Zhigalov ซึ่งเป็นนักพัฒนาเว็บวัย 32 ปี ที่ทำงานให้กับบริษัทเดียวกันกับเธอ
ทั้งคู่นั่งพิงกันในร้านกาแฟที่เต็มไปด้วยผู้คน และให้สัมภาษณ์กับสื่อ
เมื่อเดือนก่อน ฉันไม่เคยอยากที่จะย้ายไปประเทศไหนเลย แต่ตอนนี้ ฉันไม่อยากกลับไปอีกแล้ว รัสเซียไม่ใช่สถานที่ที่ฉันต้องการจะใช้ชีวิตอีกต่อไป
เธอกล่าว
Polina Loseva และแฟนหนุ่มของเธอ Roman Zhigalov ในอพาร์ทเมนท์ชั่วคราวที่ Tbilisi, ประเทศจอร์เจีย หลังจากพวกเขาเดินทางต่อจากเมืองเยอร์เวน ที่นี่เป็นจุดพักที่สองนับตั้งแต่การเดินทางออกมาจากมอสโก (ภาพจาก The New York Times)
ที่โต๊ะอื่น ๆ ในร้านกาแฟ มีชาวรัสเซียหลายคนใช้บริการอยู่ บ้างกำลังทำงานบนแล็ปท็อป บ้างกำลังประชุมทางไกลผ่าน Zoom บ้างกำลังค้นหาสถานที่ที่พวกเขาจะสามารถเช่าอยู่ได้
แต่ผลจากค่าเงินรูเบิลที่ร่วงอย่างหนักกว่าร้อยละ 40 และค่าที่พักอาศัยที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในอาร์เมเนียซึ่งคิดราคาเป็นสกุลดอลลาร์ ทำให้เงินที่พวกเขามีอยู่ จากที่สามารถพักในอพาร์ทเมนท์ที่หรูหราในมอสโก กลับสามารถเข้าพักได้แค่โรงแรมที่มีเตียงสองชั้นและห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่นเท่านั้น
ชาวรัสเซียหลายคนที่เดินทางมาอาร์เมเนียทำงานให้กับธุรกิจไอที และภาคส่วนอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตที่มีเสรีภาพ
รวมถึงการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
รัฐมนตรีกระทรวงการเศรษฐกิจอาร์เมเนีย Vahan Kerobyan กล่าว
ไม่เพียงแต่แรงงานในภาคไอทีเท่านั้น จากกฎหมายที่บัญญัติใหม่ในรัสเซีย กำหนดความผิดสำหรับการใช้คำว่า 'สงคราม' ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยูเครน นั่นทำให้นักข่าว บล็อกเกอร์ รวมถึงนักเคลื่อนไหวหลายคนหลบหนีออกมาจากรัสเซีย ด้วยความกลัวที่จะถูกจับกุมภายใต้กฎหมายปิดหูปิดตาดังกล่าว
ชาวรัสเซียกลุ่มใหม่ที่พึ่งเดินทางมาถึงอาร์เมเนีย ระบุว่า
พวกเขามีสัญญาจ้างที่จะจ่ายพวกเขาอย่างน้อยหลายเดือน
บริษัทไอทีสหรัฐรวมถึงหลายประเทศให้พวกเขาย้ายไปยัง
อาร์เมเนียก่อนแล้ว โดยจะยังคงจ่ายค่าตอบแทนให้เช่นเดิม
แต่ยังมีอีกหลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ความคับขันทางการเงิน
และประสบความยากลำบากในการหาเงินจ่ายค่าเช่าห้อง
Konstantin Chistokhin อายุ 33 ปี ขณะกำลังพำนักในที่พักที่เยเรวาน, อาร์เมเนีย เขากล่าวว่า “ผมอยากหนีออกมาจากรัสเซียนานแล้ว ที่นั่นไม่มีอนาคตและค่าแรงที่ต่ำ กระทั่งรัสเซียได้เริ่มต้นสงครามที่สร้างหายนะให้กับทั้งชาวยูเครนและรัสเซีย ผมจึงออกจากบ้านมาเมื่อห้าวันก่อน เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวที่นี่“ (ภาพจาก The New York Times)
Visa, Mastercard และ PayPal ทั้งหมดตัดความสัมพันธ์กับรัสเซีย เหลือเพียงแค่ Mir ซึ่งเป็นบริการของธนาคารรัสเซีย ที่สามารถใช้จ่ายในประเทศอาร์เมเนีย และอีกไม่กี่ประเทศเท่านั้น
Mira อายุ 26 ปี ผู้ซึ่งทำงานให้กับองค์กรเพื่อการช่วยเหลือ (aid agency) เธอบอกว่าในคืนก่อนที่เธอและแฟนหนุ่มจะเดินทางออกจากมอสโก พวกเขาพยายามหาตู้ ATM ที่สามารถถอนเงินดอลลาร์ออกมาได้กว่าสามชั่วโมง ในทุก ๆ ตู้ จะมีเจ้าหน้าที่พร้อมกับบอดี้การ์ดแทรกแถวไปกดเงินครั้งละ 5,000 ดอลลาร์ จนกระทั่งเงินหมดตู้
“เราไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เพราะมันอันตรายเกินไป” เธอกล่าว
ชาวรัสเซียที่เหลือหลายหมื่นคน อพยพไปยังประเทศจอร์เจียและตุรกี
แต่ประเทศอาร์เมเนีย คือหนึ่งในอดีตชาติสมาชิกสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
ไม่มีชาวรัสเซียคนไหนให้สัมภาษณ์เลยว่าพวกเขาได้เผชิญกับความเกลียดชังที่อาร์เมเนีย ที่นี่พวกเขาสามารถพำนักอยู่โดยไม่ต้องใช้วีซ่าหรือแม้กระทั่งหนังสือเดินทางเป็นเวลาถึงหกเดือน
และที่นี่ยังใช้ภาษารัสเซียอย่างแพร่หลายอีกด้วย
หลายคนต้องทนความเจ็บปวดในใจขณะที่พำนักในต่างแดน ด้วยความรู้สึกที่ว่าคนทั่วโลกกำลังมองว่าชาวรัสเซียทั้งหมดเท่ากับประธานาธิบดีปูตินของเขา
ชาวรัสเซียหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำงานในภาคเทคโนโลยี ที่สามารถทำงานทางไกลได้ เดินทางออกจากประเทศตั้งแต่สงครามเริ่มต้น (ภาพจาก The New York Times)
ฉันต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เหลือ ไม่ใช่รัสเซีย แต่ตอนนี้เราไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งกับโลกที่เหลือได้เพราะความรู้สึกที่ว่าการเป็นชาวรัสเซียนั้นเป็นสิ่งเลวร้าย
Zhigalov นักพัฒนาเว็บกล่าว
Maria บรรณาธิการหนังสือท่องเที่ยววัย 30 ปี ผู้ซึ่งมาถึงอาร์เมเนียเมื่อสัปดาห์ก่อน กำลังกังวลในเรื่องความเกลียดชังต่อชาวรัสเซีย
พวกอเมริกันเขาคิดยังไงกับชาวรัสเซียบ้าง พวกเขาเกลียดเรารึเปล่า
เธอถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
Maria ยังบอกด้วยว่าเธอเคยเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2018
ฉันรู้สึกกลัวมาก ๆ” เธอกล่าวเสริมในเรื่องที่เธอตัดสินใจอพยพออกมาพร้อมกับสามีของเธอ ผู้ซึ่งเป็นผู้จัดการศูนย์ฝึกกีฬา “ถ้าจะให้ฉันใช้ชีวิตที่นั่นโดยเพิกเฉยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันขอตอบว่าไม่ ฉันไม่ต้องการมีชีวิตแบบนั้น
Maria กล่าว
เช่นเดียวกับชายชาวรัสเซียคนอื่น ๆ ที่หนีออกมา สามีของเธอ Evgeny กล่าวว่าเขากลัวที่จะถูกเกณฑ์ทหารและบังคับให้ไปร่วมรบที่ยูเครน
ทั้งคู่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาเที่ยวบินออกจากมอสโก หลังจากที่สายการบินเกือบทั้งหมดยุติการให้บริการในรัสเซีย ในท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถหาเที่ยวบินมายังเยเรวาน แม้ว่าพวกเขาจะต้องจ่ายเกือบหมดตัวสำหรับค่าตั๋วก็ตาม
จากการสัมภาษณ์ชาวรัสเซียหลายคน เกือบทั้งหมดระบุว่าพวกเขาหนีออกมา เพราะว่ามาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติที่รุนแรง ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถที่จะทำงานให้กับบริษัทจากต่างประเทศ รวมไปถึงลูกค้าชาวต่างชาติได้อีกต่อไป และพวกเขาก็กลัวที่มันจะสายเกินไปหากไม่ออกมาจากรัสเซียในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจปิดพรมแดน
อนุสาวรีย์มารดาแห่งอาร์เมเนีย ณ กรุงเยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย หนึ่งในอดีตชาติสมาชิกสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศปลายทางที่ดีสุดสำหรับผู้อพยพชาวรัสเซียหลายพันคน (ภาพจาก The New York Times)
หลายคนที่หนีออกมา เป็นถึงผู้ประกอบการที่ต้องทำงานร่วมกับบริษัทและลูกค้าต่างชาติ พวกเขาระบุว่าบริษัทและลูกค้าเหล่านั้นยุติการทำงานร่วมกับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะทำงานอยู่นอกรัสเซียก็ตาม
เขาบอกกับเราว่า
ขอโทษด้วยนะ เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันอีกในอนาคต
แต่ในตอนนี้เราไม่สามารถที่จะทำงานด้วยกันได้อีกต่อไป
Ivan นักพัฒนาเกม กล่าวถึงคำพูดที่หุ้นส่วนชาวยุโรปของเขาพูดกับเขา
ที่ร้านกาแฟแห่งอื่น Alex ผู้ซึ่งสักเป้าหมายในชีวิตไว้ที่แขนของเขา อายุ 35 ปี กล่าวว่า เขาใช้เวลาสี่ชั่วโมงที่สนามบินมอสโก
นั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อรอเที่ยวบินของเขาที่ดีเลย์ออกไป
Alex ผู้ซึ่งไม่ประสงค์ที่จะระบุว่าเขาทำงานอะไร เขาบอกว่า
เขาร้องไห้ทันทีเมื่อได้ยินข้อความเสียงจากเพื่อนชาวยูเครนที่ถูกเรียกให้ไปสู้รบ
เขายังกล่าวต่อว่า
คนที่ยูเครนเขาแค่นั่งเฉย ๆ สูบบุหรี่ ดื่มเบียร์ เล่นดนตรี เพื่อที่จะต้องพบว่าในวันรุ่งขึ้นพวกเขาจะต้องออกไปจับปืนเพื่อปกป้องประเทศ คนพวกนี้เขาไม่เคยจับปืนมาก่อน มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ๆ
Sergey Naumeno อายุ 36 ปี และภรรยาเขาเขา Natalya Vinagradova อายุ 38 ปี กำลังนั่งทำงานที่ อพาร์ทเมนท์ชั่วคราวในเยเรวาน ผู้อพยพชาวรัสเซียหลายคนสามารถที่จะทำงานทางไกลจากที่ไหนก็ได้ (The New York Times)
ชาวรัสเซียหลายคน ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากช่องว่างระหว่างวัยระหว่างพวกเขากับพ่อแม่ ตลอดจนปู่ย่าตายาย
ผู้ซึ่งเกิดและเติบโตในสมัยการปกครองของสหภาพโซเวียต
พ่อแม่และปู่ย่าตายายของฉันดูแต่ TV และพวกเขาก็เชื่อ TV ทั้งหมด ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะพูดกับพวกเขา พอถึงจุดจุดหนึ่ง ฉันตระหนักดีว่าฉันรักพวกเขาเกินกว่าที่จะโต้เถียงด้วย ฉันเลยบอกพวกเขาไปว่า เราไม่พูดกันเรื่องนี้ดีกว่า
Mira กล่าว
ตอนนี้ฉันไม่มีแผ่นดินที่แน่นอนจะอยู่อีกแล้ว วันนี้พวกเราอยู่ที่นี่
แต่พรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า หรือเดือนหน้า
พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ไปอยู่ที่ไหนอีก
Mira กล่าวเพิ่มเติม
ที่สนามบินเยเรวานสัปดาห์ก่อน Viktoria Poymenova อายุ 22 ปี และแฟนหนุ่มของเธอ Bulat Mustafin อายุ 24 ปี พวกเขามาจากเมือง Mineralnye Vody ในรัสเซีย กำลังเข็นกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับสัมภาระหลายอย่าง รวมถึงกล่องสองกล่องที่บรรจุสุนัขกู้ภัยตัวเล็กชื่อ Mukha และแมวสามสีชื่อ Kisya
Mustafin วิศวกรผู้ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคสำหรับเครื่องฉายภาพยนตร์ในโรงหนัง ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถที่จะฉายภาพยนตร์ฮอลลีวูดได้เลยตั้งแต่ที่พวกเขายุติความสัมพันธ์กับรัสเซีย
Poymenova ทำงานเป็นครูสอนการเขียนเว็บไซต์
ให้กับโรงเรียนในไซปรัสแบบออนไลน์
ตอนนี้แผนของพวกเขาคือการหาอพาร์ทเมนท์ที่จ่ายไหวในประเทศจอร์เจีย
ถ้าพวกเราหาไม่ได้ พวกเราจะกลับมาทีนี่ และถ้าเราหาไม่ได้อีก พวกเราจะไปตุรกี ทีนี้ถ้าไม่ได้ พวกเราก็จะไปต่อที่เซอร์เบีย
พวกเราแค่ต้องการชีวิตที่สงบสุข แต่มันจะเป็นเรื่องยากทันทีเมื่อประเทศของคุณกำลังสร้างหายนะ
Poymenova กล่าว
Mustafin ที่สนามบินเยเรวาน กับ Mukha สุนัขกู้ภัยของเขา (ภาพจาก The New York Times)
จนถึงวันนี้ (21 มีนาคม 2022) ยังมีชาวรัสเซียอีกเป็นจำนวนมากเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อแสวงหาความมั่นคงทางชีวิต เศรษฐกิจ และความปลอดภัยที่ดีกว่า ตราบเท่าที่รัสเซียยังไม่ปิดพรมแดน
Foto:
- The New York Times
โฆษณา