ณ ร้านกาแฟกลางกรุงเยเรวาน เมืองหลวงของประเทศอาร์เมเนีย ขณะที่ Polina Loseva เว็บดีไซน์เนอร์อายุ 29 ปี จากมอสโก กำลังนั่งทำงานอยู่กับแล็ปท็อปของเธอ ทันใดนั้น ผู้สื่อข่าวจาก The New York Times ก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ
ร้านกาแฟในเยเรวาน, อาร์เมเนีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้อพยพชาวรัสเซียใช้พบปะกัน รวมถึงนั่งทำงานออนไลน์ด้วย (ภาพจาก The New York Times)
จัตุรัสกลางกรุงเยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย, ทางการระบุว่า ก่อนเกิดสงคราม มีชาวรัสเซียลงทะเบียนเป็นแรงงานอยู่เพียง 3,000-4,000 คนเท่านั้น (ภาพจาก The New York Times)
Ivan เป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทพัฒนาเกมในไซปรัส เขาและชาวรัสเซียอีกหลายคนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยไม่ให้ชื่อนามสกุลจริง เพราะกลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้นที่บ้านของพวกเขา (รัสเซีย)
1
Loseva และแฟนหนุ่มของเธอ Roman Zhigalov ซึ่งเป็นนักพัฒนาเว็บวัย 32 ปี ที่ทำงานให้กับบริษัทเดียวกันกับเธอ
Polina Loseva และแฟนหนุ่มของเธอ Roman Zhigalov ในอพาร์ทเมนท์ชั่วคราวที่ Tbilisi, ประเทศจอร์เจีย หลังจากพวกเขาเดินทางต่อจากเมืองเยอร์เวน ที่นี่เป็นจุดพักที่สองนับตั้งแต่การเดินทางออกมาจากมอสโก (ภาพจาก The New York Times)
Konstantin Chistokhin อายุ 33 ปี ขณะกำลังพำนักในที่พักที่เยเรวาน, อาร์เมเนีย เขากล่าวว่า “ผมอยากหนีออกมาจากรัสเซียนานแล้ว ที่นั่นไม่มีอนาคตและค่าแรงที่ต่ำ กระทั่งรัสเซียได้เริ่มต้นสงครามที่สร้างหายนะให้กับทั้งชาวยูเครนและรัสเซีย ผมจึงออกจากบ้านมาเมื่อห้าวันก่อน เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวที่นี่“ (ภาพจาก The New York Times)
Visa, Mastercard และ PayPal ทั้งหมดตัดความสัมพันธ์กับรัสเซีย เหลือเพียงแค่ Mir ซึ่งเป็นบริการของธนาคารรัสเซีย ที่สามารถใช้จ่ายในประเทศอาร์เมเนีย และอีกไม่กี่ประเทศเท่านั้น
ชาวรัสเซียหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำงานในภาคเทคโนโลยี ที่สามารถทำงานทางไกลได้ เดินทางออกจากประเทศตั้งแต่สงครามเริ่มต้น (ภาพจาก The New York Times)
อนุสาวรีย์มารดาแห่งอาร์เมเนีย ณ กรุงเยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย หนึ่งในอดีตชาติสมาชิกสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศปลายทางที่ดีสุดสำหรับผู้อพยพชาวรัสเซียหลายพันคน (ภาพจาก The New York Times)
พ่อแม่และปู่ย่าตายายของฉันดูแต่ TV และพวกเขาก็เชื่อ TV ทั้งหมด ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะพูดกับพวกเขา พอถึงจุดจุดหนึ่ง ฉันตระหนักดีว่าฉันรักพวกเขาเกินกว่าที่จะโต้เถียงด้วย ฉันเลยบอกพวกเขาไปว่า เราไม่พูดกันเรื่องนี้ดีกว่า