22 มี.ค. 2022 เวลา 02:00 • การตลาด
เปิดโมเดลใหม่! KOI Express ยุค New Normal ไม่รับชำระด้วยเงินสด
นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสาขาที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า เมื่อห้างฯ ปิดชั่วคราวก็ต้องปิดตามไปด้วย แต่พอหลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งต้องอยู่ภายใต้ New Normal ทำให้แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มปรับมาขยายสาขานอกห้างมากขึ้น พร้อมทั้งปรับโมเดลร้านให้มีขนาดเล็กลง เพื่อป้องกันผลกระทบจากการปิดห้างฯ เพิ่มการเข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็วให้กับลูกค้า
ภาพจาก https://bit.ly/3MZJ5Ku
บริษัท โคอิ เตะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ร้านชานมไข่มุก KOI Thé ในประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งธุรกิจล่าสุดที่ปรับตัวเข้าสู่ New S-CURVE โดยได้เปิดตัวโมเดลร้านชานมไข่มุก KOI Express รูปแบบร้านมีขนาดเล็กลง ประเดิม 2 สาขาแรก ได้แก่ KOI Thé Express สาขาซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ และ KOI Thé Express สาขาราชพฤกษ์ 13
KOI Thé Express สาขาซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ เปิดให้บริการเมื้อวันที่ 11 ก.พ. 2565 เป็นสาขา Cashless Store ไม่รับชำระด้วยเงินสด ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านช่องทาง KOI Card / KOI App, Credit & Debit และ QR Code (Promtpay) ส่วน KOI Thé - Express สาขาราชพฤกษ์ 13 เปิดให้บริการวันที่ 15 มี.ค. 2565 ไม่รับชำระด้วยเงินสดเช่นกัน ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ได้แก่ GrabFood , LINEMAN , Robinhood และ ShopeeFood
ภาพจาก facebook.com/koithethailand
สำหรับโมเดลร้านแบบ KOI Thé Express ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้เปิดให้บริการมาแล้วในประเทศสิงคโปร์และเวียดนาม รูปแบบของร้านเน้นการเข้าถึงได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว มีเครื่องดื่มไม่เยอะเท่ากับร้าน KOI Thé ทั่วไป เนื่องจากร้านมีพื้นที่ขนาดเล็ก ที่นั่งน้อย จะเน้นเฉพาะเมนู Signature ของทางร้านและแต่ละประเทศเท่านั้น
ภาพจาก facebook.com/koithethailand
โมเดล KOI Thé Express ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการปรับตัวเข้าสู่ New S-CURVE หรือ นวัตกรรมและแนวคิดการดำเนินธุรกิจใหม่ในยุค New Normal โดยที่ผ่านมามีหลายๆ แบรนด์ธุรกิจได้ปรับตัวเข้าสู่ New S-CURVE มาแล้วมากมาย เช่น แฟรนไชส์ N&B Pancake เปลี่ยนร้านในห้างเปิดขายแฟรนไชส์รูปแบบ Food Truck สาขาแรกเกษตร-นวมินทร์
แบรนด์ใหญ่รุก Street Food “ฟู้ดแพชชั่น” เจ้าของบาร์บีคิวพาซ่า ขายแฟรนไชส์ “หมูทอดกอดคอ” รุกตลาด Street Food ทำเลตลาดทั่วไป รวมถึงปั้มน้ำมันพีทีทั่วประเทศ “เซ็น คอร์ปอเรชั่น” เดินหน้าขยายร้านแฟรนไชส์ขนาดเล็ก รุกทำเลนอกห้าง เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย
ทำความรู้จัก KOI Thé
ภาพจาก https://bit.ly/3qbpq0o
โคอิเตะเป็นแบรนด์ชาจากประเทศไต้หวัน ก่อตั้งโดย มิสหม่า (Ms. Khloe Ma) ชาวไต้หวันที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ และมีแนวคิดอยากแนะนำเครื่องดื่มชาที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบไต้หวันแท้ๆ ให้ประเทศต่างๆ ได้รู้จัก จึงต่อยอดจากธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นร้านชาชื่อดังของไต้หวันอยู่แล้ว คือ อู่สือหลาน (50 嵐) เริ่มต้นกิจการครั้งแรกเมื่อปี 1994 เพื่อเปิดธุรกิจชาของตัวเองภายใต้แบรนด์ KOI Thé พร้อมกับเปิดสาขาต้นแบบเป็นแห่งแรกในไต้หวัน เมื่อปี 2006 จนปัจจุบันมีสาขาอยู่ใน 12 ประเทศ อาทิ ไต้หวัน สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา ไทย มาเลเซีย และพม่า เป็นต้น
าพจาก https://bit.ly/3Ijhssn
สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่ 10 ที่โคอิ เตะ เลือกเข้ามาทำตลาด และเป็นหนึ่งประเทศที่มิสหม่ามองว่าเป็น Strategic Location ที่ต้องขยายเข้ามา เพราะเป็น Destination ของธุรกิจท่องเที่ยวในภูมิภาคที่คนทั่วโลกอยากเดินทางเข้ามา ประกอบกับแบรนด์อาหารดังๆ หลายแบรนด์ก็เลือกที่จะขยายสาขามาเปิดในประเทศไทย โดยปัจจุบัน KOI Thé มีสาขาในประเทศไทย 53 สาขา เปิดสาขาแรกที่ Central Plaza Bangna B1 fl. (ชั้น Tops Supermarket)
ทำเลที่ตั้งร้าน KOI Thé
ภาพจาก https://bit.ly/3thH7NV
KOI Thé เป็นอีกร้านชานมไข่มุกที่สร้างเอกลักษณ์แบรนด์ของตัวเองให้โดดเด่น แตกต่าง นอกจากสินค้าในร้านแล้ว อีกหนึ่งความแตกต่างที่โดดเด่น ก็คือ ทำเลของร้าน โคอิ เตะ ที่มักจะเห็นตามห้างที่มีชื่อเสียง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต่างจากร้านอื่นๆ แต่ขายราคาไม่แพง ทุกคนสามารถซื้อกินได้ มีทำเลที่เข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาต่อแถวยาวเหยียด อีกทั้งแต่ละคนถ่ายรูปและรีวิวชาแก้วโปรดลงสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย
จะเห็นได้ว่า KOI Thé (โค-อิ-เตะ) ได้ฉีกตัวเองออกจากสนามรบในยุค “ชานมไข่มุก” ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในเมืองไทย สร้างความโดดเด่น สร้างเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่าง ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันในยุคนี้ ที่สำคัญความแตกต่างของสินค้า ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าของสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
รายได้ KOI Thé
ภาพจาก https://bit.ly/3qbpq0o
จากการตรวจสอบผลการดำเนินธุรกิจบริษัท โคอิ เตะ (ประเทศไทย) จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีดังนี้
  • ปี 61 รายได้ 304 ล้านบาท กำไร 81 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 516 ล้านบาท กำไร 107 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 386 ล้านบาท กำไร 36 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า ในช่วงปี 2563 เป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย หลายๆ ธุรกิจต่างได้รับผลกระทบยอดขาย แต่สังเกตว่า KOI Thé ได้รับผลกระทบไม่มากนัก รายได้ลดลง กำไรลดลง แต่ไม่ขาดทุนเหมือนธุรกิจอื่นๆ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน ติดตามได้ที่ Add LINE id: @tfcacademy
อัพเดทและติดตามข่าวสารได้ที่
Line : @thaifranchise
Twitter : @thaismecenter
Twitter : @thaifranchise
ที่มา : https://bit.ly/3IslJtB
โฆษณา