EP2 เม้าหนังสือที่หลุดจากการดองเค็ม .. และเป็นประสบการณ์จริง ที่เขาได้เจอ และควรค่าแก่การอ่าน "หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ" หรือภาษาอังกษ “THE GIRL WITH SEVEN NAMES”
จริงๆ เป็นเล่มที่ 2 ที่อ่านเรื่องราวของเกาหลีเหนือผ่านบทสัมภาษณ์ ผ่านคำบอกเล่าของผู้หลี้ภัย เล่มแรกที่อ่านชื่อ “ใต้เงาเกาหลีเหนือ” เป็นเรื่องราวคำบอกเล่าของชนชั้นแรงงาน ที่ได้ขอเป็นผู้หลี้ภัยในเกาหลีใต้ แต่รอบนี้ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า ฮยอนซอ ลี ที่มีฐานะพอสมควรในประเทศเกาหลีเหนือ ที่มีความอยากรู้อยากเห็น อยากเห็นโลกกว้าง อยากเห็นโลกอีกฝั่งของแม่น้ำยาลู เลยได้แอบหนีข้ามไปยังประเทศจีนเพื่อไปหาญาติ ที่เธอตั้งใจว่าจะไปแค่สองสามวันก็จะกลับ และเธอก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายร้ายแรง แต่ไม่สามารถห้ามความอยากรู้อยากห็นของตัวเองได้
แต่เมื่อเธอได้ไปสัมผัสอีกฝั่งของแม่น้ำ หรือ ประเทศที่เธอเคยได้แต่ดูในทีวี เธอก็ได้เห็นถึงความแตกต่าง ต่อมา เธอได้รับโทรศัพท์จากแม่ “ห้ามกลับเด็ดขาด” นั้นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่เธอไม่สามารถข้ามแม่น้ำกลับไปยังสถานที่ที่เธอเรียกว่าบ้าน หรือประเทศของเธอได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของผู้เขียน ที่ได้แบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ภาค หรือ 3 ส่วน ที่ทำให้รู้สึกว่าอ่านง่ายขึ้น และเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าในสิ่งที่เธอพบเจอ ทั้งที่เป็นชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว ของรัฐ ความรู้สึกของตัวเธอเอง และการเดินทางกว่าที่เธอจะได้เป็นผู้หลี้ภัยในเกาหลีใต้
แม้ว่าครอบครัวของเธอจะเป็นครอบครัวที่มีฐานะ ก็ยังคงต้องพบเจอกับความอดยาก และต้องทำอาชีพผิดกฎหมาย (ลักลอบขายของจากจีน) ไม่มีข้อยกเว้นจากสายลับ ใคร/สถานที่ไหนที่ถูกพิพากษาว่าเป็น แหล่งบ่มเพาะ “ลัทธิทุนนิยม” พวกเขาเหล่านั้นจะต้องขึ้นศาล และถูกประหารชีวิตทันที และทุกที่มีสายลับ พวกเขาถูกปลูกฝังอุดมการณ์ทุกสิ่งอย่างที่รัฐอยากให้ทำและอยากให้เป็นตั้งแต่เกิด และเข้มข้นขึ้นเมื่อได้เข้าโรงเรียน ภาตใต้การปกครองของท่านผู้นำอันยิ่งใหญ่ ชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศเราดีที่สุด
ความทุกข์ยากของประชาชนในเกาหลีเหนือนั้น แม้แต่ทหารยังได้รับผลกระทบจากระบบปันส่วนของรัฐ (ในเล่มใต้เงาเกาหลีเหนือก็ได้มีการบอกเล่า) และโดยเฉพาะช่วงที่เกาหลีเหนือประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ที่คนชนชั้นแรงงานได้รับผลกระทบมากที่สุด (ไม่มีจะกิน จากระบบปันส่วนของรัฐ) แต่จากที่ ฮยอนซอ ได้บอกเล่านั้น ครอบครัวเธอได้รับผลกระทบ แต่ไม่มาก เพราะครอบครัวเธอมีฐานะ มีอาหารที่กักตุนไว้ และเมื่อปี 1992 รัฐได้ออกโครงการกินข้าววันละ 2 มื้อ กันเถอะ??? (เอาจริง ก็ไม่เคยรู้เลยนะว่า ใครที่กำหนดว่าเราจะต้องกินข้าววันละ 3 มื้อ) แต่เราคิดว่าวันละ 2 มื้อ แต่ถ้าอาหารเพียงพอต่อร่างกายก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่นี้ นอกจากลดมื้อแล้ว อาหารยังไม่พออีกจ้า (กินแม้แต่น้ำต้มเปลือกข้าวโพดอ่ะ!!!)
ทั้งสองเล่ม บอกเล่าเหมือนกัน (ใต้เงาเกาหลีเหนือและหญิงใจเด็ด 7ชื่อ) เรื่องของค่ายกักกัน ที่มีความรุนแรง ถูกใช้งานอย่างหนัก ,การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องต้องห้ามและผิดกฏหมาย ที่บ่งบอกถึงการประท้วงและการแปรพักตร์อีกรูปแบบหนึ่ง และยิ่งการประหาร ถูกมัดปาก และมีก้อนหินยัดปาก แต่ผู้พิากษายังถามว่า “มีอะไรที่อยากจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย? (การยัดก้อนหินเพื่อไม่ให้สาปแช่งรัฐบาลจนลมหายใจสุดท้าย) แม้สุดท้ายของช่วงชีวิตคนเหล่านี้ยังถูกไม่ให้มีปากมีเสียงในจะแสดงความคิดเห็นออกมา และถูกพรากไปจากเขาโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้
การทำเรื่องผิดกฏหมายที่ร้ายแรงที่สุด คือ การทำสิ่งใดๆ ก็ตามที่ไม่หวังดีต่อท่านผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ดูแล ทำความสะอาดภาพถ่ายท่านผู้นำ การไม่เคารพท่านผู้นำ พยายามเข้าสู่ลัทธิทุนนิยม หากมีการพิพากษาอาจจะมีโทษร้ายแรง ส่งเข้าสถานกักกัน หรือ ประหารชีวิต หรือแม้กระทั่งวิธีการเดินทางข้ามฝั่งแม่น้ำเพื่อขอหลี้ภัยที่เกาหลีใต้ และจริงๆ ยังคงมีอีกหลากหลายเรื่องที่ทั้งสองเล่มได้บอกเล่าตรงกัน
สุดท้ายแล้ว ถึงแม้ปัจจุบันเราจะอยู่ในปี 2022 แล้วก็ตาม และประเทศเกาหลีเหนือได้มีการเปิดประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมภายในประเทศแล้วก็ตาม .. แต่เราคิดว่า สังคมของเกาหลีเหนือก็ยังคงเป็นแบบเดิม ที่เอื้อต่อกลุ่มตระกูลคิม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชนเช่นเดิม ส่วนประชาชนรากหญ้าก็ยังคงถูกปิดหูปิดตาเช่นเดิม
หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ “THE GIRL WITH SEVEN NAMES”
ฮยอนซอ ลี และ เดวิด จอห์นส์ : ผู้เขียน
คำเมือง : ผู้แปล
จำนวน 451 หน้า
ราคา 395 บาท (ตามปก)
สำนักพิมพ์สันสฤต
อ่านจบ 21 มีนาคม 2565
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
