4 ฤดูกาลของน้าหมี Teddy Sheringham กับ ทัพปีศาจแดง
“ Oh Teddy Teddy , Teddy Teddy Teddy Teddy Sheringham ” เป็นเนื้อร้องท่อนหนึ่งในเพลง Sing Up For The Champions ซึ่งแฟนผีหลายๆคนที่เคยฟังเพลงนี้ ก็น่าจะคุ้นกับเนื้อเพลงท่อนนี้ดี
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Teddy Sheringham กองหน้าขวัญใจสาวกปีศาจแดง และแฟนบอลทีมไก่เดือยทอง ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยนะครับ วันนี้เราจะพามาดูประวัติการค้าแข้งของน้าหมี Teddy Sheringham กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกัน
หลังจบฤดูกาล 1996/97 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะพึ่งคว้าโทรฟี่พรีเมียร์ลีกมาครองได้ แต่ต้องระส่ำหนักหลังจากนักเตะคีย์แมนของพวกเขา และเป็นนักเตะที่บุกเบิกให้นักเตะนอกเกาะอังกฤษกล้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีก อย่าง Eric "The King" Cantona ได้แขวนสตั้ดลง จำนวนการลงเล่น 182 นัด ทำ 82 ประตู 62 แอสซิสต์ให้แมนยู เป็นดาวซัลโวประจำทีมปีศาจแดง 2 ฤดูกาล และเป็น Top Assist ของพรีเมียร์ลีกอีก 2 ครั้ง แน่นอนว่าการแขวนสตั้ดของคิงกองโต้ เป็นปัญหาใหญ่ที่กองทัพปีศาจแดงต้องเจอ
Eric Cantona คีย์แมนในการคว้าแชมป์ Premier League 4 สมัยแรกของแมนยูไนเต็ด
Teddy Sheringham กองหน้าวัย 31 ปี ที่กำลังล่าตาข่ายอยู่กับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในขณะนั้น Sheringham ลงเล่นให้สเปอร์ไป 5 คือฤดูกาล 1992/93 ถึง 1996/97 เขาลงเล่นให้สเปอร์ในพรีเมียร์ลีกรวม 166 นัด ทำไป 76 ประตู 37 แอสซิสต์ โดยเป็นดาวซัลโวประจำทีมของสเปอร์ไปถึง 4 จาก 5 ฤดูกาล รวมถึงยังสามารถคว้ารองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกมาครองได้อีก 1 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่สำคัญที่สุดของทัพไก่เดือยทองก็ว่าได้
Teddy Sheringham Tottenham Hotspur
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงได้ตัดสินทุ่มเงิน 5 ล้านปอนด์ ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของแมนยูในขนาดนั้น ไปคว้าตัว Sheringham มาจากทัพไก่เดือยทอง พร้อมเซ็นสัญญา 4 ปี
ในฤดูกาล 1997/98 Sheringham สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในแมนยูได้ทันที โดยแม้ว่าในฤดูกาลนี้แมนยูจะสามารถคว้าได้เพียงโล่ แชร์ริตี้ ชิลด์ และมือเปล่ากับการคว้าแชมป์เมเจอร์ แต่สถิติส่วนตัวของSheringham ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เขาลงเล่นให้แมนยูรวมทุกรายการ 42 นัด ยิง 14 ประตู 13 แอสซิสต์ ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีมรองจาก Andy Cole ที่ทำไป 25 ประตูจากทุกรายการ การได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ทำให้พวกเขาได้สิทธิ์เข้าไปเล่น UEFA Champions League ฤดูกาลถัดมา ก่อนที่ฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดฤดูกาลหนึ่งจะถือกำเนิดขึ้น
ในฤดูกาล 1998/99 แมนยูได้ทำการซื้อกองหน้าชั้นยอดของพรีเมียร์ลีกอีกหนึ่งคนมาจาก Aston Villa กองหน้าคนนั้นคือ Dwight Yorke การประสานงานกันของคู่กองหน้า Yorke Cole หรือที่สาวกปีศาจรู้จักกันในนาม “คู่หูนิลกาฬ” ได้กระหน่ำประตูอย่างถล่มทลาย ความเข้าขากันของทั้งคู่ทำให้ Yorke เป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1998/99 ส่วน Cole เป็นรองดาวซัลโว
แน่นอนว่าทำให้โอกาสการลงสนามของกองหน้าของน้าหมีนั้นลดลงอย่างชัดเจน Sheringham ลงเล่นได้ให้แมนยูรวมทุกรายการ 27 นัด ยิง 5 ประตู 2 แอสซิสต์ แต่ 2 จาก 5 ประตู ที่ Sheringham นั้นกลับเกิดขึ้นในแมตช์ชิงชนะเลิศ 2 รายการ คือ FA Cup กับ UCL หลังจากที่พึ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมา โดยต้องลุ้นแชมป์ถึงนัดสุดท้ายกับอาร์เซนอล ใน FA Cup นัดชิงชนะเลิศ Sheringham เป็นผู้ที่ทำประตู 1-0 ให้แมนยูออกนำทัพสาลิกาดง นิวคาสเซิล ก่อนที่ Paul Scholes จะยิงอีก 1 ประตู ช่วยให้แมนยูชนะนิวคาสเซิ่ลไป 2-0 คว้าแชมป์ FA Cup มาครองได้สำเร็จ
Sheringham ยิง 1 ประตูใส่นิวคาสเซิ่ล ในนัดชิง FA Cup 1998/99
ก่อนอีกไม่ถึงสัปดาห์ถัดมา เหตุการณ์สุดคลาสสิคของทัพปีศาจแดงก็ได้ถือกำเนิดขึ้น แมนยูต้องโคจรมาเจอกับโคตรทีมแห่งเยอรมันอย่างบาเยิร์น มิวนิค ใน UEFA Champions League นัดชิงชนะเลิศ เสือใต้ออกนำ 1-0 ไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 6 และในนาทีที่ 67 Teddy Sheringham ก็ถูกส่งลงสู่สนาม แทน Jesper Blomqvist และเขาทำประตูตีเสมอให้แมนยูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 1
Teddy Sheringham ทำประตูใส่บาเยิร์น ในนัดชิง UCL 1998/99
ก่อนที่ Ole Gunnar Solskjaer อีกหนึ่งตัวสำรองในวันนั้น จะเป็นผู้ทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 ทำให้แมนยูพลิกชนะบาเยิร์น 2-1 คว้าแชมป์ UEFA Champions League 1998/99 มาครอบครองอย่างเหนือความคาดหมาย Alex Ferguson กุนซือปีศาจแดงในตอนนั้นถึงกับให้สัมภาษณ์ว่า "Football , Bloody Hell"
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างสถิติเป็นทีมจากพรีเมียร์ลีก ทีมแรกและทีมเดียวในตอนนี้ ที่สามารถคว้า Treble Champ มาครองได้สำเร็จ
นัดชิง UEFA Champions League 1998/99
Teddy Sheringham กับแชมป์ UCL
ในฤดูกาล 1999/2000 เป็นอีกฤดูกาลที่โอกาสลงตัวจริงของ Sheringham มีจำกัด เหมือนเช่นเคย เขาลงเล่นให้ปีศาจแดงรวมทุกรายการ 41 นัด ยิง 6 ประตู ทำ 6 แอสซิสต์ โดยเกินครึ่งนั้นเป็นการลงสนามจากการเป็นตัวสำรอง ในฤดูกาลนี้กองทัพปีศาจแดงสามารถคว้าแชมป์ Intercontinental Cup หรือแชมป์สโมสรโลกในปัจจุบันมาครองได้ และพวกเขายังสามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้สำเร็จ โดยสามารถคว้าแชมป์ก่อนจบฤดูกาลได้หลายนัด
Teddy Sheringham กับแชมป์พรีเมียร์ลีก
ในฤดูกาล 2000/01 คู่หูนิลกาฬนั้นถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานทั้งคู่ ทำให้ Sheringham กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงได้อีกครั้ง และในฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่เขามีสถิติการทำประตูที่ดีที่สุดกับทัพผีแดง หรืออาจเรียกว่าเป็นฤดูกาลดีที่สุดในการค้าแข้งที่พรีเมียร์ลีกก็ว่าได้
น้าหมีลงเล่นให้แมนยูรวมทุกรายการ 43 นัด ยิง 21 ประตู ทำ 4 แอสซิสต์ รวมถึงยังสามารถทำแฮตทริกแรกกับแมนยู ในแมตช์ถล่มเซาท์แฮมตั้น 5-0 (ตลอดอาชีพ Sheringham ทำแฮตทริกในพรีเมียร์ลีกได้ 4 ครั้ง สเปอร์ 2 ครั้ง แมนยู 1 ครั้ง ปอร์ทสมัธ 1 ครั้ง)
จำนวน 21 ประตูทำให้ Sheringham เป็นดาวซัลโวประจำทีมของแมนยู รวมถึงเขายังได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี PFA หรือ PFA Player Of The Year โดยเป็นครั้งแรกในอาชีพที่เขาได้รางวัล PFA Player Of The Year และนอกจากนี้ น้าหมียังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ รางวัล Sir Matt Busby Player Of The Year ได้อีกด้วย
Teddy Sheringham เป็นกำลังหลักที่พาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกสำเร็จ ซึ่งทัพปีศาจแดง เป็นทีมแรกและทีมเดียวในตอนนี้ ที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ 3 สมัยติดต่อกัน (ก่อนที่จะทำสำเร็จอีกครั้งในฤดูกาล 2006/07 - 2008/09)
Teddy Sheringham กับแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะหลังจากจบฤดูกาล 2000/01 สัญญาลงที่เซ็นกัน 4 ปี ของ Teddy Sheringham กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นหมดลง และ Sheringham เลือกที่จะปฏิเสธการต่อสัญญาฉบับใหม่กับทัพปีศาจแดง
4 ฤดูกาล กับแมนยูไนเต็ด Teddy Sheringham ลงเล่นทุกรายการไปทั้งหมด 156 นัด ทำ 43 ประตู 29 แอสซิสต์
หลังจากที่หมดสัญญากับทัพผีแดง Sheringham เลือกที่จะกลับไปสเปอร์ โดยเขาเล่นให้กับสเปอร์ 2 ฤดูกาล Sheringham ในวัย 35 ปี ยังคงสำคัญกับทัพไก่เดือยทอง ลงเล่นให้สเปอร์ในพรีเมียร์ลีกรวม 70 นัด ยิง 22 ประตู เป็นดาวซัลโวประจำทีมสเปอร์ในลีกฤดูกาล 2001/02 และเป็นดาวซัลประจำทีมสเปอร์ในฤดูกาล 2002/03
รวมการค้าแข้ง 2 ครั้ง ทั้งหมด 7 ฤดูกาลกับทีมไก่เดือยทอง Teddy Sheringham สามารถยิงในพรีเมียร์ลีกให้กับสเปอร์มากถึง 97 ประตู เป็นนักเตะที่ทำประตูให้สเปอร์ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกในขณะนั้น (ก่อนที่จะโดน Harry Kane ทำลายสถิติ)
ก่อนที่จะหมดสัญญา 2 ปี กับสเปอร์และย้ายไป ปอร์ธสมัธ แต่อยู่ได้เพียงฤดูกาลเดียว
ก่อนที่ในฤดูกาล 2004/05 จะย้ายไปอยู่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่อยู่ใน League Championship ณ ขณะนั้น น้าหมีในวัย 38 เป็นกำลังสำคัญในการพาทีมขุนค้อนขึ้นสู่ลีกสูงสุด พรีเมียร์ลีก
Sheringham ยิงใน Championship ให้เวสต์แฮมได้มากถึง 21 ประตู โดยเป็นรองดาวซัลโวลีก และเป็นดาวซัลโวประจำทีมขุนค้อน Sheringham อยู่กับเวสต์แฮมอีก 2 ฤดูกาล จนถึงปี 2007
และ Sherinham ปิดฉากอาชีพการค้าแข้งกับโคลเชสเตอร์ ทีมลีกรอง Championship ในฤดูกาล 2007/08 ด้วยวัย 42 ปี
และในปี 2009 Teddy Sheringham ก็ได้ถูกเชิญเข้าสู่หอเกียรติยศของฟุตบอลอังกฤษ English Football Hall of Fame
สถิติรวมใน Premier League Teddy Sheringham ลงเล่นให้ 5 สโมสร รวม 14 ฤดูกาล ลงเล่น 418 นัด ทำ 146 ประตู 76 แอสซิสต์ Teddy Sheringham ทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 12 ของพรีเมียร์ลีก และ ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ของพรีเมียร์ลีก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 3 สมัย ได้รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก 1 ครั้ง และนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกอีก 1 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นตำนานคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีกก็ว่าได้
สถิติในการล่าตาข่ายของเขาที่แมนยูไนเต็ดจะไม่เยอะเท่าในตอนที่อยู่กับสเปอร์ แต่เขาก็มีส่วนร่วมกับประตูของทีมมากเหมือนเดิม รวมถึงมีส่วนร่วมกับประตูที่สำคัญของทีมในนัดชิงถึง 2 รายการ
แม้ว่าน้าหมีจะได้เล่นให้กับกองทัพปีศาจแดงแค่ 4 ฤดูกาล แต่สิ่งที่เขาให้แมน ยูไนเต็ดนั้นก็ได้ทำให้เหล่าสาวกเร้ด อาร์มี่ จะจดจำกองหน้ารายนี้ได้เป็นอย่างดีแน่นอน
สำหรับแอดมินก็ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงาน Meet and Greet กองหน้าขวัญใจสาวก Red Army Teddy Sheringham ที่ Supersport สาขา Central World มาครับ
Selfie กับ กองหน้าที่ยิงประตูให้แมนยูไนเต็ดในนัดชิง FA Cup และ UCL
นี่คือลายเซ็นที่แอดมินได้ไปขอ Teddy Sheringham เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมาครับ
อ้างอิง
Photo Credit เครดิตรูปภาพ
Facebook Official Page Manchester United https://www.facebook.com/manchesterunited
Facebook Official Page Tottenham Hotspur https://www.facebook.com/TottenhamHotspur
Official Website Premier League
Officia; Website FA
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
