23 มี.ค. 2022 เวลา 10:54 • ข่าวรอบโลก
ชะตากรรมของโบอิ้ง หลังโศกนาฎกรรม China Eastern Airlines
Downfall: The Case Against Boeing (2022) PG-13, 1h 29m
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่เสียชีวิตรวมไปถึงครอบครัวและญาติพี่น้อง ที่สูญเสียจากอุบัติเหตุเครื่องบิน China Eastern Airlines เที่ยวบินที่ MU5735 ตกบนภูเขาในเมืองอู๋โจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 132 คน เสียชีวิตทั้งหมด
1
การตกครั้งนี้เกิดขึ้นในลักษณะที่ไม่น่าจะเคยมีใครพบเห็นมาก่อน เพราะหลังขึ้นบินได้ตามปกติและบินมาได้กว่าครึ่งทาง ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วเสียง จู่ ๆ ก็ "ร่วง" ลงมาจากความสูงประมาณ 8.8 กม. ลงมาในแนวตั้งภายในเวลาเพียงไม่ถึงสองนาที ก่อนที่จะกู้คืนความสูงได้ระยะสั้น ๆ ที่ความสูงประมาณ 2 กม. สุดท้ายก็ดิ่งตกลงสู่พื้นดินในที่สุด
เส้นทางตกของเที่ยวบิน China Eastern Flight 5735 จากข้อมูลของ Flightradar24 (แหล่งข้อมูล: Bloomberg)
ขณะที่การสืบสวนถึงสาเหตุยังดำเนินต่อไป และคงจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพราะสภาพความเสียหายรุนแรงมาก ส่งผลให้เกิดความยากลำบากอย่างมากในการค้นหา "กล่องดำ" และชิ้นส่วนอื่น ๆ เพื่อประกอบขึ้นมาเป็นหลักฐานที่จะบ่งชี้ไปที่สาเหตุได้ ยังไม่ควรชี้นิ้วบอกว่า เหตุการณ์นี้เป็นความผิดของใคร
1
ล่าสุดมีข่าวว่าจีนพบกล่องดำที่เสียหายอย่างมาก
เราจะลองดูผลกระทบของเหตุการณ์นี้ต่ออนาคตของการบิน โดยเฉพาะในประเทศจีน และต่อบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตครับ
1
ก่อนหน้านี้ที่ประเทศจีนมีอุบัติเหตุเครื่องบินตกหลายครั้งในช่วงทศวรรษ 1990-2000 ทำให้รัฐบาลในช่วงนั้นเร่งปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยทางการบินอย่างขนานใหญ่
การตกครั้งนี้ของเที่ยวบิน MU5735 เป็นอุบัติเหตุใหญ่ในอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ของจีนครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อปี ค.ศ. 2010 ของสายการบินเหอหนาน ที่ครั้งนั้นมีผู้ประสบเหตุ 96 คนและเสียชีวิตไป 44 คน (เทียบกับครั้งนี้ 132 คนและไม่มีผู้รอดชีวิต)
ครั้งนี้ทางสายการบิน China Eastern จึงสั่งระงับการบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ซึ่งเป็นรุ่นที่เกิดเหตุ ทุกลำในประเทศ และหลายพันเที่ยวบินถูกยกเลิก เพื่อรอผลการทบทวนมาตรการความปลอดภัยทางการบินทั่วประเทศของรัฐบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์
1
ถึงไม่สั่งยกเลิกก็คงไม่มีใครอยากขึ้นบินในเวลานี้
คราวนี้มาดูทางบริษัทโบอิ้งบ้างครับ เครื่องบินรุ่น 737-800 เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินของบริษัทโบอิ้งในคลาสที่เรียกว่า 737-NG (NG ย่อมาจาก "Next Generation")
เครื่องบินในคลาสนี้เคยมีประเด็นด้านความปลอดภัยที่ถูกชี้โดยผู้กำกับดูแลของสหรัฐ แต่ไม่เคยมีกรณีที่เป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นถูกสั่งให้ระงับการบิน
โบอิ้งขายเครื่องบินคลาส 737-NG ได้มากกว่า 7,000 เครื่องแก่สายการบินทั่วโลก ประวัติความปลอดภัยในการใช้งานถือว่าดีมาก เพราะในช่วงเวลา 25 ปีที่ประจำการ พบว่ามีอุบัติเหตุร้ายแรงเพียงราวสิบครั้ง (ถือว่าไม่มาก)
แต่ที่สร้างชื่อในทางลบให้แก่บริษัทโบอิ้งอย่างมาก คือรุ่นถัดมา ชื่อ 737 Max ที่เกิดความบกพร่องเป็นเหตุให้เครื่องบินตก 2 ครั้งในปี ค.ศ. 2018 และ 2019 ในเวลาห่างกันเพียงครึ่งปี
สาเหตุการตกสองครั้งนั้นถูกสอบสวนและได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เกิดขึ้นจากข้อบกพร่องในการออกแบบระบบรักษาความเสถียรของเครื่องบินที่ติดตั้งใหม่ใน 737 Max (ไม่มีใน 737-800) ระบบนี้มีชื่อเรียกว่า MCAS (Maneuvering Characteristics Augmentation System) โดยซอฟท์แวร์ของระบบนี้จะทำงานอัตโนมัติเมื่อเซนเซอร์ของเครื่องบินบอกว่า เครื่องบินกำลังเชิดหัวขึ้นในมุมที่มากเกินไป ระบบก็จะบังคับให้ตัวเครื่องกดหัวลงโดยอิสระและอยู่เหนือความควบคุมของนักบิน
2
เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่ว่า ถ้าเครื่องเชิดหัวขึ้นจนมุมปะทะ (มุมที่กระแสอากาศมาปะทะกับปีกเครื่องบิน) มากจนกระแสอากาศที่ไหลผ่านปีก ไหลแบบปั่นป่วนไม่เป็นทิศทาง แทนที่จะไหลราบเรียบแบบปกติ อาจทำให้เครื่องบินสูญเสียแรงยกและร่วงตกลงมาได้
ปัญหาอยู่ที่ว่า ในครั้งนั้นบริษัทโบอิ้งตัดสินใจไม่บอกสายการบินผู้ซื้อในเรื่องระบบใหม่นี้ รวมทั้งนักบินก็ไม่มีโอกาสทราบถึงความเปลี่ยนแปลงนี้เลย!
ในช่วงนั้นโบอิ้งกำลังแข่งกับคู่แข่งคือแอร์บัส เพราะเริ่มสูญเสียตลาดให้กับแอร์บัส หากมีการเปลี่ยนแปลงถึงระดับที่ต้องฝึกอบรมนักบินใหม่ จะทำให้เกิดต้นทุนในการอบรมนักบิน เป็นต้นทุนที่แพงมาก เพราะนอกจากการติดตั้งระบบเทรนนิ่งแล้ว นักบินยังต้องระงับการบินเพื่อมารับการฝึกอบรมด้วย
1
แต่โบอิ้งกลับบอกสายการบินว่า เครื่องบิน 737 Max ทางสายการบินซื้อไปแล้วใช้ได้เลย ไม่ต้องฝึกอบรมนักบิน เพราะไม่ต่างจากของเดิมเท่าไหร่ (“เห็นไหมว่าซื้อของโบอิ้งประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย”)
เมื่อเกิดเหตุเครื่องบินตก โดยที่เกี่ยวข้องกับระบบนี้ถึงสองครั้ง ทางโบอิ้งก็ยังยืนกรานว่าไม่เกี่ยวกับตัวเครื่องบิน แถมยังปกปิดข้อมูลอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลออกมาในที่สุด เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้วิเคราะห์ไว้ว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลง "วัฒนธรรมองค์กร" ของโบอิ้ง และมาตรฐานจริยธรรมของผู้บริหาร ที่ตกต่ำลง หลังการควบรวมกิจการกับบริษัท McDonnell Douglas ในปี ค.ศ. 1997
McDonnell Douglas ก็คือผู้ผลิตเครื่องบิน DC-10 และเครื่องบินขับไล่ F-15 ที่เป็นที่รู้จักกันดี
เรื่องราวของ 737 Max ถูกเล่าไว้อย่างละเอียดยิบในภาพยนตร์เรื่อง Downfall สารคดีที่ดูได้ทาง Netflix
ในสามปีที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์เครื่องโบอิ้งตกที่อินโดนีเซียและเอธิโอเปีย จีนเป็นประเทศใหญ่แห่งเดียวที่ยังไม่ใช้เครื่องบิน 737 Max อยู่
1
แต่... ล่าสุดถึงสัปดาห์ที่แล้ว มี 737 Max อีก 140 ลำที่โบอิ้งผลิตให้สำหรับจีนโดยเฉพาะ อยู่ระหว่างเดินทางมาที่จีนเพื่อเตรียมนำมาใช้แล้วในที่สุด แต่ยังติดอยู่ที่เกาะกวม และน่าจะอยู่ที่นั่นอีกนานจนกว่าเหตุการณ์เครื่องบินตกปริศนาครั้งนี้จะได้รับการคลี่คลาย ทางการจีนคงจะไม่ยอมให้นำเครื่องรุ่นนี้มาใช้บินได้โดยง่าย
1
เครื่องบินรุ่น 737-800 ของสายการบิน China Eastern Airline (จาก https://www.flightradar24.com/)
ระหว่างนี้ทางจีนก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะสถานการณโควิด-19 ทำให้ความต้องการในการบินพาณิชย์มีเหลือไม่มาก และอุบัติเหตุครั้งนี้ก็ยิ่งจะทำให้จำนวนผู้ใช้บริการลดลงอย่างแน่นอน จีนจึงไม่รีบ
ตรงข้ามกับโบอิ้ง เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับการบินโลก ขณะนี้มีเครื่องบินคลาส 737-800 จำนวนถึง 1,200 ลำประจำการอยู่ในจีน ขณะที่ทั่วโลกมีใช้อยู่ในขณะนี้ 4,200 ลำ มองในระดับโลกนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ของโบอิ้ง เพราะอีกระยะหนึ่งคนถึงจะกล้ากลับมานั่งเครื่องบินเหล่านี้ ไม่แปลกที่คนจะมองว่า "737" เป็นครอบครัวที่ไม่น่าไว้ใจ
1
ทันทีหลังเครื่องบินตก หุ้นของบริษัทลดลงไปเกือบ 5%
ดังนั้นจึงเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของโบอิ้ง ที่การสืบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องโบอิ้ง 737-800 ที่จีน จะต้องชี้สาเหตุออกมาให้ชัดให้ได้ ว่าเกิดจากความบกพร่องของการซ่อมบำรุง ของนักบิน หรือว่าของผู้ออกแบบและผลิต และทุกคนก็หวังว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายออกมาโดยเร็ว
1
รวมทั้งหวังว่าโบอิ้ง สายการบินที่เติบโตมาพร้อมกับประวัติศาสตร์การบินพาณิชย์ จะรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างสง่างาม อย่าให้เหมือนเหตุการณ์ครั้ง 737 Max
(ล่าสุดพบว่า นักบินของเครื่องบินลำที่ตก ไม่รับสายจากหอควบคุมการบินของจีน ที่ติดต่อไปหลายครั้งหลังจากพบว่ามีการลดระดับลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ยังคงเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้)
3
โฆษณา