23 มี.ค. 2022 เวลา 14:52
กรณีเป็นงาน turnkey ( รับตั้งแต่งานออกแบบ เขียนแบบ ไปจนก่อสร้างให้เสร็จ )
* เจ้าของบ้านควรมีความรู้ หรือ มีที่ปรึกษาให้แน่ใจว่าแบบบ้านที่ต้องการ กับแบบที่กำลังจะก่อสร้างไม่มีอะไรเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน
* เจ้าของบ้านควรมีความเข้าใจในงบประมาณที่ถูกประเมินว่าราคารวมหรือไม่รวมอะไร อะไรอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของบริษัทฯหรือผู้รับเหมา อะไรไม่อยู่
* เจ้าของบ้านควรเข้าใจในรายการวัสดุ อุปกรณ์ ( specification) ที่ต้องแนบในแบบว่าราคาที่ประเมินอิงกับรายการนี้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงภายหลังก็ต้องมีการคิดเป็นราคางานเพิ่มหรือลดว่ากันไปตามสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
* เจ้าของบ้านควรเข้าใจว่าระยะเวลาก่อสร้างที่ถูกประเมิน หากมีเหตุเช่น การแก้ไขงาน เพิ่มหรือลดงาน อาจมีผลต่อระยะเวลาก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น
* เจ้าของบ้านควรหมั่นตรวจงาน และมีความรู้หรือมีที่ปรึกษาที่จะดูงานหน้างานออกว่า สิ่งที่ช่างหรือผู้รับเหมาพูดสมเหตุ สมผลจริงหรือไม่ เพราะ การรับงาน turnkey ทุกฝ่ายถือเป็นพวกเดียวกัน
* ศึกษาสัญญาให้ดี มีตัวอย่างวัสดุและรายการประกอบแบบไว้กับตัว 1 ชุดเพื่อใช้ตรวจสอบงาน
กรณีจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างเดียว ( มีแบบ มีรายการคำนวณต่างๆทั้งหมดแล้ว)
* ควรมีคนช่วยตรวจสอบงานหรือประสานงานกับช่าง กรณีไม่รู้เรื่องงานก่อสร้าง อาจให้สถาปนิกที่ออกแบบเข้ามาช่วยส่วนนี้ จะช่วยลดความยุ่งยากวุ่นวายทั้งหลายที่หน้างานได้
* ควรมีรายการ boq ( อาจให้สถาปนิกหรือคนออกแบบทำให้ ) ให้ผู้รับเหมากรอก จำนวนพื้นที่และราคา จะได้ใช้อ้างอิงเวลามีงานเพิ่มลด
* อื่นๆก็คล้ายกันกับ turnkey
ควรหักเงินประกันผลงานเอาไว้ เพื่อที่เมื่องานเกิดปัญหาหลังเสร็จงาน จะสามารถตามช่างมาซ่อมหรือแก้งานได้
การแก้ไขเพิ่มลดงานทุกครั้ง พยายามทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อคิดเป็นงานเพิ่มลด จะได้ไม่ทะเลาะกันภายหลัง
แต่ทั้งหลายทั้งปวง ก็ควรดูเงื่อนไขการเบิกจ่ายเงินให้ดี ให้เหมาะสมกับเนื้องานที่จะได้ตามงวด อย่าจ่ายเงินเกินเนื้องาน อาจเสี่ยงกับการถูกทิ้งงาน แต่ก็ไม่ควรดึงเงินงวด จนช่างขาดสภาพคล่อง เสี่ยงกับการถูกทิ้งงานเช่นกันค่ะ
โฆษณา