[หนุ่ม เทพนรินทร์] ติดมือถือสมาร์ทโฟนมากๆ มีโอกาสฆ่าตัวตายสูงนะ (ผมขอพูดเรื่องใกล้ตัวของคุณกันบ้าง) ทำไมบางประเทศ หรือ พ่อแม่บางคน ถึงจำกัดการเข้าถึงการเล่นมือถือสมาร์ทโฟนของลูก แสดงว่ามันมีข้อเสียเยอะมากใช่ไหม? ผมจึงเก

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

24 มี.ค. 2022 เวลา 03:47 • สุขภาพ

ติดมือถือสมาร์ทโฟนมากๆ มีโอกาสฆ่าตัวตายสูงนะ

(ผมขอพูดเรื่องใกล้ตัวของคุณกันบ้าง)

ทำไมบางประเทศ หรือ พ่อแม่บางคน ถึงจำกัดการเข้าถึงการเล่นมือถือสมาร์ทโฟนของลูก แสดงว่ามันมีข้อเสียเยอะมากใช่ไหม? ผมจึงเกิดสงสัยเรื่องนี้ พอได้อ่านจึงได้พบคำตอบ วันนี้เลยขอเล่าสรุปให้ฟัง เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญกับคุณมากๆครับ

คุณหรือคนใกล้ตัวของคุณมีอาการเหล่านี้กันบ้างหรือเปล่า ?

1.คล้ายคนสมองเสื่อม ทำอะไรผิดๆถูกๆ หลงๆลืมๆบ่อยขึ้น

(ไม่เกี่ยงวัย)

2.กังวลตลอดเวลาหากไม่มีมือถือติดตัว และแวะดูมันทุกครั้ง

3.ตาล้า ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดนู่นนี่

4.หงุดหงิด วอกแวก นอนไม่หลับ ความจำแย่

5.ชอบหมกตัว มีปัญหากับเพื่อน ที่ทำงาน ครอบครัว

หากคุณมีอาการเหล่านี้ คุณอาจจะเสี่ยงกับ "โรคติดมือถือสมาร์ทโฟน"

ผลเสียของโรคนี้คือ นอนไม่หลับ ความกระตือรือร้นลดน้อยลง สมาธิสั้น จะทำงานได้น้อยลง แอบเล่นมือถือระหว่างวัน เพราะใจไปจดจ่อกับมือถือ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างมาก

ส่วนมากโรคนี้เกิดขึ้นใน เด็กวัยรุ่น นักศึกษา นักเรียนมัธยม หรือ เด็กจบใหม่ ซึ่งโรคนี้จะเริ่มทำให้นาฬิกาชีวิตพัง นอน ตื่น ไม่เป็นเวลา เรียนก็ง่วงๆ ผลการเรียนแย่ลง ไม่ไปเรียน ทำให้ตัวเองรู้สึกไร้เป้าหมาย ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายก่อนตามมาด้วยสุขภาพใจที่แย่ลง

CDC พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายของเด็กมัธยมปี 2010-2015 ของโลก เพิ่มขึ้น 31% (เด็กผู้หญิงมากขึ้นถึง 65%) และยืนยันว่า ความรู้สึกไม่มีคุณค่าอยากฆ่าตัวตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับระยะเวลาการใช้มือถือสมาร์ทโฟน

หรือพูดสั้นๆคือ การใช้มือถือสมาร์ทโฟนมากเกินไปทำให้เกิดอัตราการฆ่าตัวตายสูงขึ้น

ใช้มือถือสมาร์ทโฟนวันละกี่ชั่วโมงดี ?

คนไทยใช้มือถือในปี 2021 เฉลี่ยวันละ 5 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นอันดับ 3 ของโลก (ใครเห็นโอกาสทางธุรกิจก็ยินดีด้วย)

ถ้าเราเอาสถิตินี้ไปเทียบกับผลการเรียนของนักเรียนในประเทศของเรา มันจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เด็กมีผลการเรียนแย่ลงอย่างมาก และหากใช้เกินวันละ 4 ชั่วโมง ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดมือถือสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก และเวลาที่เหมาะสมที่ไม่ส่งผลเสียคือ อย่าเกิน 1 ชั่วโมง

มาเช็คลิสต์ ระดับการติดมือถือสมาร์ทโฟนกัน

(ผลเช็คลิสจาก Marketing Communication Executives International)

[] เวลากินข้าวก็ดู

[] อยู่กับเพื่อนก็ดู

[] ประชุม,งานเลี้ยง คิดถึงโลก Social Media จัง ต้องแอบดู

[] รู้สึก ถ้า Social Media หายไปฉันต้องไม่ได้คุยกับใครแน่ๆเลย

[] ทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อเอาลง Social Media ตลอดเวลา

[] ขับรถ ก็ดู

[] แตะหน้าจอเล่นโดยไม่รู้ตัว บางทีแบบไม่รู้กาลเทศะด้วย

[] เวลาขึ้นลงยานพาหนะ เช่น ตอนขึ้น รถไฟ รถบัส ก็ดู

[] เข้าห้องน้ำก็ดู

[] หลับคามือ

[] ลืมทุกอย่างแม้แต่เป๋าเงิน แต่ไม่ลืมมือถือ

[] ไม่มีใครโทรหรือส่งข้อความมานะ แต่เหมือนมันสั่นๆตลอดเวลา

[] อะไรที่ไม่รู้จะหาข้อมูลในมือถือทันที

[] วันไหนที่ลืมเอามันไปด้วย จะเป็นกังวลทันที

[] ตื่นเช้ามาต้องเปิดมันเช็กข่าวและ Social Media ทันที

[] หากลืมสายชาร์จ จะซื้อใหม่ทันที ทำให้มีสำรองหลายเส้น

[] รู้สึกว่าสื่อความคิดผ่านทางแชท ได้ดีกว่าการโทรคุยกัน

ระดับหนึ่ง : 0 ข้อ = ไม่มีปัญหา

ระดับสอง : 1-5 ข้อ = เริ่มเสี่ยง

ระดับสาม : 6-10 ข้อ = ป่วยนิดๆ

ระดับสี่ : 11-15 ข้อ = ป่วยจริงๆ

ระดับห้า : 16 ข้อ+ = ป่วยขั้นรุนแรง

หากติดขึ้นมาจริงๆแล้วรักษาให้หายยากนะครับ ใครใช้เกิน 4 ชั่วโมง ผมแนะนำให้ลดลงนะ

เทคนิคลดเวลาการใช้มือถือสมาร์ทโฟน

ปิดการแจ้งเตือนทิ้ง ทุกครั้งที่แจ้งเตือนคุณจะเสียสมาธิทันที เลิกดูมันทุกๆ 10 นาที เปลี่ยนมาเช็คทุกๆ 1-2 ชั่วโมงก็ได้ หรือฝึกให้เป็นนิสัยว่าคุณจะไม่ดูมันเลยจนกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน

ไม่เอามันเข้าห้องนอน แสงสีฟ้าทำให้คุณนอนไม่หลับด้วย และ ก่อนนอนหากเรา Input อะไรไปสัก 1 ชั่วโมง สมองจะจดจำแต่เรื่องนั้น ทำให้สุขภาพการนอนของคุณแย่ลงได้แน่นอน

ใช้แอปที่บอกว่าคุณใช้งานมากเกินไป ใน Ios จะมี Screen Time บอกคุณตลอด ส่วน Android ให้ใช้แอป Ubhind หากใช้เกินที่คุณตั้งไว้ จะถูกล็อกห้ามใช้ ลองใช้ดู มันดีต่อการฝึกวินัยของคุณด้วยนะ

ไม่พกสายชาร์จหรือแบตสำรอง

หากจะอ้างว่าทำงาน แนะนำไปใช้พวกจอใหญ่ๆ macbook,ipad ดีกว่าครับ ตั้งสถานที่ทำงานเป็น Station ทำจริงจังไปเลย แต่การไปข้างนอกจุดประสงค์ของเราคือการมีคอนเนคชันกับคนข้างนอกไม่ใช่หรือ?

ส่วนมากคนที่พกสำรองไปเน้นเล่น Social หรือเกมซะมากกว่า ถ้ามันหมดก็หยุดเล่น ลบสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างชีวิตจะดีขึ้นครับ

เปลี่ยนโปร (จังหวะนี้ค่ายมือถือต้องเข้าแล้ว ฮ่าๆ)

เปลี่ยนมาใช้แพ็คเกจที่ใช้เน็ตได้น้อยลงเพื่อฝึกวินัยควบคุมการใช้งาน พวกโปรเน็ตไม่อั้นนั่นตัวพาป่วยได้เลย

ค่าเฉลี่ยของผมใช้มือถือสมาร์ทโฟนอยู่ที่ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง ติดต่อ, ทำงานอย่างเดียว ตอนเช้าจะเปิดมาเอาต์พุตลงฟีดตัวเอง เช้าอีกวันถึงเปิดดูและเอาต์พุต ผมต้องแบ่งเวลาทำงานหลายๆอย่าง หากผมมัวแต่ติดมือถือทั้งวันคงไม่ได้งานอะไรอย่างแน่นอน

ผมรู้ว่ามือถือมันมีข้อดีเยอะแยะ แต่ข้อเสียนั้นเยอะกว่ามาก ผมใช้มือถือในการรับข้อมูลข่าวสาร และ ทำงาน แต่หากอยากจะหาความรู้ผมจะอ่านหนังสือ มากกว่า

(เอาไว้มาเล่าต่อว่า อ่านหนังสือดีอย่างไรให้ฟังดีกว่า ในครั้งหน้า)

โรคติดมือถือสมาร์ทโฟนทำให้สุขภาพกายและใจของคุณแย่ลง นอกจากนี้แล้ว ทำไมต้องไปสนใจแต่คนอื่นตลอดเวลาล่ะครับ หันมาพัฒนาตัวเองกันดีกว่านะ

โชคดีครับ 🙂

เอาต์พุตของ หนุ่ม เทพนรินทร์ จากหนังสือ #ThePowerOfInput #numthepnarin

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน