Blockdit Logo (Mobile)
สาระหามาเล่า by AEG
•
27 มี.ค. 2022 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
เรื่องราวการเดินทางของดาบ "คาตานะ" ที่หายไปจากญี่ปุ่นก่อนถูกพบโดยบังเอิญที่ออสเตรเลีย
ในช่วงศตวรรษที่ 14 ของประเทศญี่ปุ่น Etchu Norishige (โนริชิเงะ) เป็นช่างตีดาบที่ยิ่งใหญที่สุดในญี่ปุ่น และมีโรงตีเหล็กอยู่ที่เนอิซึ่งเป็นจังหวัดโทยามะในปัจจุบัน
โนริชิเงะมักจะจัดหาคาตานะที่ดีและมีคุณภาพให้กับนักรบในสมัยคามาคุระของญี่ปุ่นอยู่เสมอ ในฐานะที่โนริชิเงะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาบ ผลงานดาบที่ดีและมีชื่อเสียงที่สุดของโนริชิเงะก็ได้ตกเป็นของชิมาสึ โนริโอกิ ขุนนางซามูไรคนที่ 27 ของตระกูลชิมาสึซึ่งเป็นผู้ปกครองอาณาจักรซัทสึมะ(ปัจจุบันชื่อคาโงชิมะ) เมื่อ 200 ปีที่แล้ว
ในขณะที่จังหวัดคาโงชิมะอยู่ห่างจากจังหวัดโทยามะไปเกือบครึ่งของประเทศ #คาตานะ ของโนริชิเงะก็มีชื่อเสียงและเดินทางไกลมากๆ การเดินทางของดาบยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะดาบเล่มนี้ได้หายไปและไม่มีใครพบเห็นอีกเลย
ปัจจุบันมีรายงานว่าคาตานะถูกค้นพบในประเทศออสเตรเลีย และเจ้าของดาบคนปัจจุบันคือ Ian Brooks เป็นชาวเมลเบิร์นและนักสะสมดาบ
เขาได้เล่าว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เขาได้พบกับดาบเล่มนี้จากการประมูลทางอินเทอร์เน็ต เขาสามารถบอกได้ทันทีเลยว่าเป็น "คาตานะ" ซึ่งเป็นดาบที่มีคุณภาพสูง เขาจึงเข้าร่วมการประมูลและสามารถชนะการประมูลในราคาประมาณ 5,300 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 3,810 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 120,000 บาท)
หลังจากได้รับดาบ เขาก็เริ่มตรวจสอบว่ามีความสำคัญพิเศษหรือไม่จากความยาวของดาบและการแกะสลักการ์ดแฮนด์ ก่อนเขาจะพบว่า ดาบเล่มนี้ไม่ได้สลักลายเซ็นของช่างตีดาบลงไป เพราะโดยปกติแล้วคาตานะทุกเล่มจะมีการสลักลายเซ็นของช่างตีดาบลงไปที่บริเวณด้ามดาบ
แต่ก็ได้พบว่ามีข้อความที่เขียนเอาไว้บนกระดาษที่พันไว้รอบฝักดาบเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับชื่อศาลเจ้าคาโงชิมะ เพราะเมื่อ 200 ปีที่แล้วขุนนางชิมาสุ ได้มอบคาตานะนี้ให้กับศาลเจ้าคาโงชิมะ และคาตานะที่ถูกตีมาด้วยโนริชิเงะจะได้ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติในญี่ปุ่นทันที
ซึ่งเรื่องราวของดาบนี้ออกจากญี่ปุ่นได้ยังไงไม่มีใครทราบแต่ก็มีการรายงานเผยว่า ดาบเล่มนี้ได้ถูกกองกำลังฝ่ายพันธมิตรยึดครองไปในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองและก็ไม่มีใครได้พบอีกเลย
ทาง Brooks ก็ได้เผยว่าเขาได้ติดต่อศาลเจ้าคาโงชิมะ และทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าดาบที่เขาซื้อในการประมูลนั้นเป็นสมบัติของชาติที่หายไปจริงๆ เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆที่จะกีดกันมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
และเขายังได้กล่าวอีกว่า “ผมอยากจะเก็บดาบไว้ในขณะที่ผมยังมีชีวิตอยู่และผมได้จัดเตรียมไว้แล้วหากวันหนึ่งผมตาย ดาบเล่มนี้จะไปกลับอยู่ที่ศาลเจ้าคาโงชิมะอย่างแน่นอน”
เราไม่เคยคาดหวังว่าดาบเล่มนี้จะกลับมา หากกลับมาผมก็หวังว่าเราจะสามารถรักษามันไว้ได้นานอีกครั้ง
โยอิจิ อิโนะอุเอะ - นักบวชที่ศาลเจ้าคาโงชิมะ
ดาบคาตานะในตำนานญี่ปุ่น
โฆษณา