“กลีบดอกไม้สีแดงบนหน้าผาก” ที่จริงแล้วมาจาก (เลือด?😱)
การแต้มหน้าผากแบบนี้ และวาดเป็นรูปดอกไม้บนหน้าผากจะเรียกว่า “จินเตี่ยน” ค่ะ ถือเป็นแฟชั่นสมัยยุคราชวงศ์ถังเลย (300 ปีมาแล้ว😱) แฟชั่นนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากเจ้าหญิง shouyang ค่ะ พระองค์อยู่ในยุคราชวงศ์เหนือใต้ค่ะ
📌ในขณะที่เจ้าหญิงกำลังนอนหลับอยู่ใต้ต้นเหมย อยู่ ๆ กลีบของดอกไม้ก็ลอยมาติดอยู่บนหน้าผาก เหล่านางในเมื่อเห็นแบบนั้นจึงได้เริ่มลอกเลียนแบบใช้ชาด หรือ สีต่าง ๆ มาวาดรูปเป็นดอกไม้ลงบนหน้าผาก
เครดิตอยู่ในภาพ
ตั้งแต่นั้นมาเลยเป็นจุดเริ่มต้นวาดกลีบดอกไม้ไว้บนหน้าผากนั่นเองค่ะ
🔍แล้วทำไมดอกไม้ต้องเป็นสีแดง ไม่เป็นสีชมพูของดอกเหมย??
อย่างที่พวกเรารู้กันนะคะ คนจีนเชื่อว่า “สีแดง” มีความหมายว่าความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ความแจ่มใสสดใส ความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณดอกไม้ที่แต้มบนหน้าผากจึงต้องเป็นสีแดงนั่นเองค่ะ
🔍เห็นผู้ชายก็แต้มจุดสีแดงบนหน้าผากแต่ไม่เป็นดอกไม้ แต้มไว้ทำไม??
ขอบคุณภาพ WeTV
สำหรับผู้ชายแล้ว คนจีนสมัยก่อนมีความเชื่อว่าอาจารย์จะต้องแต้มจุดสีแดงบนหน้าผากลูกศิษย์เพื่อช่วยเปิดดวงตาที่สาม(เรียนรู้ได้แจ่มชัด ชัดเจน แจ่มแจ้ง) อารมณ์ประมาณว่ามันคือเครื่องรางที่จะช่วยทำให้เรียนเก่งขึ้นค่ะ
📍เกร็ดความรู้ อินเดียก็มีการจุดกลางหน้าผากเหมือนกันนะ
(แอดมินเคยเขียนไว้แล้วค่า ถ้าใครสนใจก็เข้าไปอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยน๊า)
ถ้าใครชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งไทยและต่างประเทศแบบนี้ “กดติดตาม” เอาไว้เลยน๊า
มีอัพเดตบ่อย ๆ อย่างแน่นอนค่ะ👍🏻
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : The Empress of China / http://chinesexpert.blogspot.com/2016/01/blog-post.html
- 28
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
