Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Traderider@forex
•
ติดตาม
24 มี.ค. 2022 เวลา 16:05 • คริปโทเคอร์เรนซี
แลร์รี ฟิงค์ CEO ของบริษัทจัดการสินทรัพย์ BlackRock ออกมากล่าวในวันนี้ว่า สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจกลายเป็นตัวเร่งให้สกุลเงินดิจิทัลกลายเป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
ในจดหมายของเขาถึงผู้ถือหุ้นของธุรกิจจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลกได้กล่าวไว้ว่า สงครามจะผลักดันประเทศต่าง ๆ ให้ประเมินการพึ่งพาสกุลเงินอีกครั้ง และทางบริษัทก็กำลังศึกษาสกุลเงินดิจิทัลและเหรียญที่มีเสถียรภาพเนื่องจากความสนใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ฟิงค์ เชื่อว่าระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลระดับโลกที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน จะสามารถปรับปรุงการชำระเงินของธุรกรรมระหว่างประเทศ พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของการฟอกเงินและการทุจริตลงได้
ความเห็นดังกล่าวดูจะแตกต่างจากมุมมองของเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เมื่อ ฟิงค์ ยกประเด็นเรื่องข้อกังวลบางประการเกี่ยวกับความผันผวนและกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่า คริปโทเคอร์เรนซีเป็นเพียงเครื่องมือในการซื้อขายเก็งกำไรหรือไม่
จากข้อความในจดหมายที่เผยแพร่วันนี้ ประธานและ CEO ของบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่มีมูลค่าถึง $10 ล้านล้านกล่าวว่า วิกฤตระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ยุติพลังโลกาภิวัตน์ที่มีบทบาทมาตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา
เขาให้ความเห็นว่าการเข้าถึงตลาดทุนทั่วโลกเป็นเรื่องของ “สิทธิพิเศษ” ไม่ใช่เรื่องของสิทธิทั่วไป ซึ่งทาง BlackRock เองก็ได้ระงับการซื้อหลักทรัพย์ของรัสเซียในพอร์ตดัชนีที่ใช้งานอยู่ หลังจากการรุกรานยูเครนตามคำสั่งของรัฐบาลมอสโก
ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้พูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนนับไม่ถ้วน รวมถึงลูกค้าและพนักงานของบริษัท ซึ่งต่างต้องการทำความเข้าใจว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เงินทุนถูกส่งไปยังรัสเซีย ซึ่งพวกเขาเชื่อว่านี่คือคำจำกัดความในหน้าที่หลักของบริษัท
มูลค่าการลงทุนจากลูกค้าทั้งหมดของ BlackRock ในรัสเซียลดลงเหลือน้อยกว่า $1 พันล้านเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจาก $1.8 หมื่นล้านก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน จนนำไปสู่การคว่ำบาตรของกลุ่มชาติฝั่งตะวันตกและการปิดตัวของตลาดหุ้นรัสเซีย
ผลกระทบของความขัดแย้งต่อระบบซัพพลายเชนทั่วโลกที่เป็นปัญหามาตั้งแต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากวิกฤต COVID-19 คาดว่าจะมีส่วนทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งผลักดันให้ธนาคารกลางทั่วโลกกระชับนโยบายการเงินและยกเลิกมาตรการผ่อนปรน
ฟิงค์ กล่าวต่อไปว่า แม้งบดุลของบริษัทและผู้บริโภคจะแข็งแกร่งขึ้นหลังผ่านพ้นช่วงวิกฤตของโรคระบาด ซึ่งทำให้พวกเขารับมือกับปัญหายุ่งยากเหล่านี้ได้มากขึ้น แต่การปรับทิศทางครั้งใหญ่ของระบบซัพพลายเชนก็มักจะทำให้ปัญหาเงินเฟ้อเลวร้ายลงอีก
ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่พวกเขาไม่เคยเผชิญมานานหลายทศวรรษ โดยต้องเลือกระหว่างการใช้ชีวิตท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง หรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเพื่อควบคุมแรงกดดันด้านราคา
ในขณะที่การดีดตัวขึ้นของราคาพลังงานเนื่องจากการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลมอสโก ก็ทำให้บริษัทและประเทศต่าง ๆ ทำการประเมินระบบซัพพลายเชนอีกครั้ง และพยายามลดการพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซีย
References :
https://www.reuters.com/technology/blackrocks-fink-says-russia-ukraine-crisis-could-accelerate-digital-currencies-2022-03-24/
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย