25 มี.ค. 2022 เวลา 07:16 • การเมือง
(งานแปล: แปลแบบเอาความ ไม่มีความคิดเห็นของผู้แปล)
ผู้นำในเครมลินนั้นไม่รู้ว่าจริง ๆ ชาวรัสเซียคิดอย่างไร แต่ที่แน่ใจคือพวกเขากลัวสิ่งที่เลวร้ายสุด ๆ ที่จะเกิดขึ้น
มันไม่มีเสียงสะท้อนกลับระหว่างคนใบ้และเจ้านายของเขา ยกเว้นผลจากการทำโพลสำรวจความคิดเห็นจากผู้มีหน้าที่รับปิดชอบในการทำโพลและเขาจะทำหน้าที่ตามที่เจ้านายของเขาคาดหวังเมื่อ นั่นรวมถึงกลุ่มคนขี้โกงที่ได้ประโยชน์มากมายจากเงินดอลลาร์ที่มาจากท่อส่งก๊าซ ที่เขาเอามันไปซุกซ่อนไว้ “ ผลของโพลจะออกมาทำนองนี้ "การสนับสนุนสำหรับปูตินสูงถึง 69%” และนั่นจะเป็นหัวข้อในสื่อที่ควบคุมโดยรัฐสำหรับผู้ชม 69% ที่เชื่อตามที่กระบอกเสียงของรัฐบอก
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เงียบ มันพิสูจน์กฏที่ว่าเราไม่สามารถปิดปากทุกคนได้
เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565 นายพล Leonid Ivashov ทหารเกษียณอายุราชการอายุ 78 ปี ประธานสมัชชานายทหาร All-Russian ได้ตีพิมพ์จดหมายเปิดผนึกถึงวลาดิมีร์ปูตินและพลเมืองของสหพันธรัฐรัสเซียเนื้อหาของจดหมายบอกว่าเขาคัดค้านการทำสงครามกับยูเครนอย่างรุนแรง
เขาเริ่มจดหมายด้วยการตั้งคำถามว่ารัสเซียกำลังถูกคุกคามจากมหาอำนาจที่อยู่นอกอาณาเขตของตนเป็นความจริงหรือไม่ และได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วว่าภัยคุกคามและความท้าทายหลักนั้นมันอยู่ภายในพรมแดนของรัสเซียเอง
เขาบอกว่าประเทศของเราใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์แล้ว ส่วนประกอบสำคัญของสังคมทั้งหมด รวมถึงประชากรศาสตร์ กำลังเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราการเกิดที่ลดลงของประชากรกำลังทำลายสถิติโลก การเสื่อมสภาพของระบบในระบบที่ซับซ้อนของสังคมและการทำลายองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งสามารถนำไปสู่การล่มสลายของระบบทั้งหมด
“ ในความเห็นของเรานี่เป็นภัยคุกคามหลักต่อสหพันธรัฐรัสเซีย ภัยที่กัดกร่อนจากภายในที่เกิดจากรูปโครงสร้างสำคัญของรัฐ คุณภาพของระบบอำนาจและสภาพที่กำลังเป็นอยู่ของสังคม"
“สาเหตุของการก่อตัวนั้นมาจากภายใน: ความไม่สามารถคงอยู่ของรูปแบบของรัฐ, ความไร้ความสามารถอย่างสมบูรณ์ การขาดความเป็นมืออาชีพของระบบอำนาจและการบริหาร, ความเพิกเมยต่อปัญหาและความระส่ำระสายของสังคม สภาพของรัฐแบบนี้เมื่อเกิดขึ้นไม่มีประเทศใดสามารถอยู่ได้นาน”
"สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนและรอบยูเครนนั้นเป็นเรื่องปลอมที่สร้างขึ้นและถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองและสร้างพลังอำนาจในสหพันธรัฐรัสเซีย”
จากนั้นนายพล Leonid ได้เปลี่ยนมาพูดถึงยูเครนว่า ปัญหายูเครนนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเปลี่ยนความสนใจให้มุ่งไปที่ยูเครน ในความเป็นจริงตามกฎหมายแล้วที่นั่นมันเป็นรัฐอิสระ เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติยูเครนมีสิทธิที่จะได้รับการป้องกันทั้งสิทธิส่วนบุคคลและส่วนรวม ดังนั้นการทำสงครามกับยูเครนคือการบุกรุก
"เพื่อให้ยูเครนยังคงเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของรัสเซีย เราต้องแสดงให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจด้วยรัฐที่แบบอย่างที่ประสบความสำเร็จของรัสเซียทั้งนี้รวมถึงแบบอย่างระบบโครงสร้างอำนาจรัฐของเรา แต่รูปแบบการพัฒนา นโยบายต่างประเทศรวมถึงกลไกของความร่วมมือระหว่างประเทศของเรากลับเป็นไปในแนวทางขับไล่เพื่อนบ้านเกือบทั้งหมดและส่วนใหญ่ของโลกให้ออกห่างจากรัสเซีย
“ความพยายามที่จะบังคับประเทศต่างๆ ให้ 'รัก' รัสเซียและยอมรับการเป็นผู้นำของรัสเซียด้วยการยื่นคำขาดและการคุกคามด้วยการใช้กำลังนั้นไร้สติและอันตรายอย่างยิ่ง”
ท่านนายพลที่เกษียณอายุแล้วถามว่าการที่ชายหนุ่มหลายหมื่นคนของรัสเซียถูกสังหารในสงครามสามารถนั้นมันแก้ปัญหาวิกฤตด้านประชากรศาสตร์ได้หรือไม่ ยังดีที่เขาไม่ได้พูดถึงว่าแฟนสาวของทหารที่เสียชีวิตในสงครามพวกนี้จะยังมีชีวิตอยู่และเจริญพันธุ์ ไม่ได้พูดถึงพวกที่พยายามหลีกเลี่ยงการเป็นทหาร พวกที่ชอบดื่มวอดกาและเสพยาในบางครั้งที่ยังถูกส่งไปแนวหน้า รวมถึงยังไม่ได้พูดถึงประเด็นทางชาติพันธุ์
นอกจากปัญหาทหารที่ไม่เต็มใจรบ มีอะไรแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีการใช้ข้อมูลในการวางแผนที่ดีในการให้ทหารจำนวนมากไปรวมตัวกันที่ชายแดนยูเครนที่พวกเขาคือรากเหง้าของมรดกทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์รัสเซียยิ่งกว่าเรา
ท่านนายพลที่เกษียณอายุแล้วผู้นี้ยังทำนายถึงสภาพของสงครามจากสมมุติฐานต่าง ๆ และสรุปว่ารัสเซียจะเป็นฝ่ายสูญเสีย ด้วยการยืนยันการทำนายผลมีค่าแม่นยำที่หนึ่งร้อยสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเขาจึงถามตัวเองว่าทำไมผู้นำถึงยังวางแผนบุกรุกอยู่
"ในความเห็นของเรา ภาวะผู้นำของประเทศในขณะนี้เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถนำประเทศออกจากวิกฤตอย่างเป็นระบบได้ และอาจนำไปสู่การลุกฮือของประชาชนและเกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจอย่างรุนแรงในประเทศ ผู้นำที่รักษาอำนาจไว้ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มคนรอบข้างที่เป็นกลุ่มผลประโยชน์เพียงกลุ่มเล็ก ๆ ด้วยเจ้าหน้าที่ทุจริต สื่อ และกองกำลังรักษาความปลอดภัย ผู้นำที่ตัดสินใจกระตุ้นแนวทางการเมืองด้วยการทำลายล้างมลรัฐรัสเซียขั้นสุดท้ายและการกำจัดประชากรพื้นเมืองของประเทศ"
"และสงครามนี้จึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาเพื่อรักษาอำนาจที่ต่อต้านปัญหาของชาติชั่วขณะหนึ่งเป็นเพียงสงครามเพื่อรักษาความมั่งคั่งที่ถูกขโมยไปจากประชาชน เราไม่สามารถให้คำอธิบายเหตุผลอื่นใดในสงครามนี้ได้”
Leonid Ivashov ปิดท้ายการอุทธรณ์ด้วยคำร้องร่วมกันของสมัชชาเรียกร้องให้ปูตินลาออก และเรียกร้องให้พี่น้องของเขาในกองทัพไม่เชื่อฟังคำสั่งของปูตินในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดหากต้องทำสงครามนี้
คราวนี้มาไตร่ตรองคำพูดของเขากัน ผู้นำทหารของรัสเซียจำนวนมากเชื่อว่าไม่เพียงแต่ปูตินและเพื่อนๆ ของเขาเท่านั้นที่ขโมยทรัพย์สินของผู้คนและทำลายสถานะความเป็นมลรัฐด้วยความไร้ความสามารถ ความโง่เขลา และความโลภแต่พวกเขากำลังวางแผนที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อให้อยู่ในอำนาจ
สมเหตุสมผลแล้วว่าทำไมลูกค้าที่ร่ำรวยของฉันถึงซื้อหนังสือเดินทางเล่มที่สองกัน
อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษที่นี่
โฆษณา