25 มี.ค. 2022 เวลา 11:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
การส่งกำลังทหารเข้าไปรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ได้จุดชนวนให้เกิดการคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากนานาประเทศที่ฉีกพวกเขาออกจากโครงสร้างทางการเงินของโลก และทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียตกต่ำลงอย่างสุดขีด
หากย้อนกลับไปในปี 2020 รัสเซียเคยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก ตามข้อมูลของธนาคารโลก แต่ภายในสิ้นปีนี้พวกเขาอาจจะร่วงลงมาอยู่ที่อันดับไม่เกิน 15 เมื่อพิจารณาตามอัตราแลกเปลี่ยนของเงินรูเบิลตอนสิ้นเดือนก.พ.
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยดูจะเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น เมื่อธนาคารกลางของรัสเซีย (CBR) เองก็คาดการณ์ถึงการหดตัวลง 8% ในปีนี้และมองไปถึงอัตราเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นถึง 20% ในขณะที่การประเมินจากภายนอกรัสเซียนั้นดูจะเลวร้ายยิ่งกว่า
สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IFF) คาดการณ์ว่ารัสเซียจะมีเศรษฐกิจที่หดตัวลงถึง 15% ในปี 2022 ตามมาด้วยการหดตัวอีก 3% ในปี 2023 ซึ่งโดยรวมแล้วจะหมายถึงสถานการณ์ในปัจจุบันกำลังจะกวาดล้างผลกำไรทางเศรษฐกิจที่คิดเป็นระยะเวลาประมาณ 15 ปี
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2013 ชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของ เอลวิรา นาบิอุลลินา ผู้ว่าการ CBR คือการควบคุมอัตราเงินเฟ้อจากระดับ 17% ในปี 2015 ลงเหลือเพียง 2% ในช่วงต้นปี 2018 ก่อนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 8 เดือนติดเพื่อคลายแรงกดดันของราคาหลังกระแส COVID-19
แต่ความสำเร็จเหล่านั้นกำลังจะถูกทำลายลงไปในเวลาไม่ถึงเดือน เมื่อการเติบโตของดัชนีราคาต่อปีพุ่งขึ้นเป็น 14.5% และน่าจะเกิน 20% ซึ่งเป็นห้าเท่าของเป้าหมาย ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อของครัวเรือนในปีหน้าก็ขยับขึ้นสูงกว่า 18% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี
การคว่ำบาตรยังกำลังบังคับให้ผู้จัดทำดัชนีตัดรัสเซียออกจากสารบบที่นักลงทุนใช้เพื่อสร้างช่องทางให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ โดยมี JPMorgan และ MSCI ที่ประกาศว่ากำลังถอดรัสเซียออกจากดัชนีพันธบัตรและหุ้นตามลำดับ
สถานะของรัสเซียก่อนหน้าการบุกเข้าไปในยูเครนได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน “กลุ่มระดับลงทุน” ที่เป็นที่ต้องการจาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ S&P Global, Moody’s และ Fitch ที่ทำให้พวกเขากู้ยืมเงินได้ในอัตราค่อนข้างถูกและการผิดนัดชำระหนี้ก็ดูเป็นเรื่องที่ห่างไกล
อย่างไรก็ตามภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลมอสโกประสบปัญหาการปรับลดอันดับเครดิตลงสูงสุดเท่าที่เคยมีมา จนทำให้ร่วงลงไปอยู่ที่ด้านล่างสุดของการให้คะแนนตอนนี้ พร้อมกับการถูกกาหัวว่ามีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในไม่ช้า
เช่นเดียวกับเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยต่อปีของเงินรูเบิลเคยอยู่ที่ 74 ต่อดอลลาร์ การซื้อขายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องที่เพียงพอ และจากส่วนต่างของราคาในการซื้อขายก็ถูกคาดหมายว่าจะเป็นสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญ
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อธนาคารกลางสูญเสียเงินทุนสำรองไปเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เงินรูเบิลดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่มากกว่า 120 ต่อดอลลาร์ในประเทศ และยังร่วงลงไปต่ำสุดที่ 160 ต่อดอลลาร์ในการซื้อขายนอกประเทศ
จากสภาพคล่องที่เริ่มหดหายไปและส่วนต่างของราคาอัตราแลกเปลี่ยนที่ถูกขยายกว้างขึ้น การกำหนดราคารูเบิลจึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกปล่อยไปตามยถากรรม ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนก็ยังไม่สามารถหาสมดุลได้ทั้งภายในและนอกประเทศ
References :
โฆษณา