28 มี.ค. 2022 เวลา 04:16 • การศึกษา
‘บิลล์ เกตส์’ ผู้ที่ไม่เคยหยุดอ่านหนังสือ
ใช้ทุกวันหยุดพักร้อนอ่านหนังสือไม่ต่ำกว่า 14 เล่ม
เฉลี่ยชั่วโมงละ 150 หน้า เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
นิตยสาร Forbes จัดอันดับมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์ ในยุคหนึ่ง ‘บิล เกตส์’ ผู้ก่อตั้ง ‘Microsoft’ มักติดอันดับต้นๆ ของมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก แม้ปัจจุบันอันดับเขาจะตกลงไปเนื่องจากมีบริษัทเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามวัฏจักรของโลกธุกิจ แต่เขาเขายังคงครองอันดับ 1 ใน 10 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกอยู่ดี
บางคนยกย่องว่าบิลคือเนิร์ดอัจฉริยะ แต่บางคนก็บอกว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโส ละโมบ หรือบ้างก็ให้ฉายาแบบแรงๆ ว่าเป็น “นักล่าแห่งระบบทุนนิยม” แม้กระทั่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ‘บารัค โอบามา’ ก็บอกว่าบิล เกตส์ มองโลกในแง่ดีแต่ใจร้อน
แม้ผู้คนจะมองบิลเป็นอย่างไร มันก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่ในความเป็นจริงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือคนที่ร่ำรวยประสบความสำเร็จได้เพราะเทคโนโลยี
‘เดวิส กุกเกนไฮม์’ ผู้กำกับสารคดีรางวัลออสการ์ เป็นหนึ่งในคนที่สนใจบิล เกตส์ เขาตั้งข้อสงสัยอยู่เสมอว่าสมองของชายผู้นี้ทำงานอย่างไร ทำไมเขาถึงใช้เทคโนโลยีอันซับซ้อนจนประสบความสำเร็จในธุรกิจได้
กุกเกนไฮม์ใช้เวลาอยู่ 2 ปี ในการตอบคำถามของตัวเอง เขาเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับบิล ตั้งแต่บุคลิกภาพ วิธีคิด มุมมองของบิลต่อผู้คนทั้งโลก ไปจนถึงชีวิตประจำวันง่ายๆ จนได้รู้ว่าอัจฉริยะอย่างบิล “อ่านหนังสือ 150 หน้าต่อชั่วโมง” ซึ่งในแต่ละปีเขาอ่านหนังสือไม่ต่ำกว่า 50 เล่มเลยทีเดียว
1
สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด บิล เกตส์ จะมีวิถีปฏิบัติส่วนตัวที่จะทำเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง คือเขาจะลาพักร้อนครั้งละ 1-2 สัปดาห์ เพื่อที่จะหอบข้าวของและกองหนังสือไม่ต่ำกว่า 14 เล่ม เพื่อไปใช้ชีวิตแบบปลีกวิเวกอยู่ในกระท่อมกลางป่าคนเดียว
12
หลังจากนั้นจะลงมืออ่านหนังสือ อ่านรายงาน เอกสารต่างๆ สิ่งที่เขาได้จากการปลีกวิเวกนี้ก็คือ แผนโปรเจกต์ที่เขาสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นการส่วนตัว
3
อย่างไรก็ตาม กุกเกนไฮม์ยังเก็บข้อมูลในตัวบิลเพิ่มเติมอีก แล้วเขาก็พบกับสิ่งหนึ่งที่ไม่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง นั่นก็คือ นิสัยไม่นิยมกินอาหารเช้าก่อนเริ่มวันใหม่ แต่เลือกที่จะทำงานตรงเวลาแบบไม่เคยขาดตกบกพร่อง กระนั้นก็ดี สิ่งที่บิลให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือ “เวลา” ที่เหมือนสายน้ำ มีแต่ไหลไปไม่มีย้อนกลับ เป็นของที่ใช้แล้วไม่สามารถซื้อเพิ่มได้
1
บิลจะให้เวลากับตัวเองในการไตร่ตรองเรื่องต่างๆ โดยเขาจะใช้วิธีเดินเล่น เพื่อรวบรวมและจัดระบบระเบียบความคิดของสมอง ซึ่งเขาบอกว่า เป็นวิธีสร้างขอบเขตเพื่อคัดเลือกและตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ
2
กุกเกนไฮม์เคยสัมภาษณ์กับบิล เกตส์ แบบตัวต่อตัวว่า “ความกลัวสำหรับคุณคืออะไร?”
1
สิ่งที่บิล เกตส์ ตอบกลับมานั่นก็คือ “ผมไม่อยากให้สมองหยุดทำงาน”
1
และยังมีอีกคำถามที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องอื่น นั่นก็คือ บิลตอนยังหนุ่มยังแน่น กับ บิลตอนอายุ 60 กว่าๆ มีมุมมองต่อธุรกิจ หรือเรื่องราวของชีวิตเปลี่ยนแปลงหรือว่าเหมือนเดิมมากแค่ไหน
โดยเฉพาะเรื่องดราม่าในชีวิต เมื่อครั้งบริษัทในยุคพีคสุดๆ แต่ตกเป็นเป้าของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ จนถึงขั้นตั้งข้อหาผูกขาดทางการค้า และย้อนไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างบิลกับแม่ที่มีความดื้อดึง ต่อต้าน คู่ขนานไปกับความรักและเคารพ
คำตอบที่กุกเกนไฮม์ได้ก็คือ บิลกับแม่ต่างไม่ลงรอยกันมาตลอด แต่แม่คือคนที่หล่อหลอมเลี้ยงดูบิลมาด้วยความคิดด้านสังคมให้กับบิล นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกที่จะสร้างเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ยากไร้ในประเทศยากจน โดยเฉพาะห้องสุขาสะอาด ที่ช่วยลดปัญหาท้องร่วง ซึ่งบิลคิดว่าโลกยุคใหม่ไม่ควรมีใครมาตายเพราะโรคท้องร่วง
3
ซึ่งโครงการดังกล่าวคือโครงการที่เกิดขึ้นจริง โดยมูลนิธิเมลินดา เกตส์ ที่สร้างนวัตกรรมเพื่อกำจัดอุจจาระมหาศาลที่เมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล มาทำให้เกิดพลังงานสะอาดใช้หมุนเวียนได้ และความหวังสูงสุดคือกลายเป็นน้ำสะอาดที่สามารถดื่มได้ อ่านไม่ผิดเพราะบิลต้องการให้ดื่มได้จริงๆ
กลับมายังกระบวนการคิดของบิล ว่ากันว่าหนังสือมีความสำคัญต่อเขามากๆ ทั้งเป็นตัวช่วยในการสร้างสมาธิ และเป็นตัวช่วยในการใช้สมองสร้างไอเดียที่บรรเจิด
2
บิลถึงขั้นลงทุนสร้างห้องหนังสือในบ้านของเขาเอง เพื่อเอาไว้เก็บหนังสือหายากจำนวนมาก
ครั้งหนึ่งเขาเคยซื้อหนังสือมาด้วยเงิน 960 ล้านบาท ซึ่งหนังสือที่ว่าคือ ‘The Codex Leicester’ เป็นบันทึกด้วยลายมือของ ‘ลีโอนาร์โด ดาร์ วินชี’ ที่เขียนไว้ในช่วงปี 1506-1510
1
หนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 72 หน้า ดาร์วินชีเขียนแบบกลับด้าน สลับขวาไปซ้าย เพื่อป้องกันการถูกแอบอ่าน หรือถ้าอ่านก็จำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควรในการแปล
4
ถามว่าทำไมบิลถึงซื้อหนังสือเล่มดังกล่าวนะเหรอ? นั่นก็เพราะ คริสต์ศตวรรษที่ 16 ผู้คนยังดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อทางศาสนา แต่ดาร์วินชีฝ่าฝืนกฎของคริสตจักรเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ เขาแอบผ่าร่างมนุษย์มากกว่า 30 ร่าง เพื่อวาดภาพกล้ามเนื้อทุกส่วนได้อย่างถูกต้อง
3
ในยุคนั้นไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพราะต้องถูกประหารชีวิต เขาจึงเก็บมันเป็นความลับ ก่อนจะถูกนำมาเผยแพร่ในอีก 200 ปีให้หลัง ซึ่งวาดภาพภายในหนังสือเล่มนี้ ช่วยให้มนุษย์มีวิวัฒนาการทางการแพทย์
2
จนถึงปัจจุบัน บันทึกของดาร์วินชีที่อยู่ในมือบิลก็ยังคงมีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบิลถึงยอมควักกระเป๋าเพื่อซื้อหนังสือ 1 เล่มในราคาถึง 960 ล้านบาท
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวของเขารู้ไหมว่า เขาเลือกที่จะทำงานบ้านบางอย่างเอง เช่น การล้างจาน ตากผ้า เป็นต้น ทั้งๆ ที่มหาเศรษฐีระดับนี้มีบ้านเป็นคฤหาสถ์พันล้านก็ตาม
1
เหตุผลที่บิลเลือกที่จะทำงานบ้านบางอย่างเองก็เพราะว่ามันเป็นการฝึกสมาธิให้อยู่กับการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การล้างจานหรือเอาผ้าไปตากจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ถ้าทำอย่างถูกวิธี
2
อย่างไรก็ดี การจะประสบความสำเร็จได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนกับการเดินผ่านพรมแดงโปรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ทว่าองค์ประกอบของความสำเร็จ บางครั้งมันคือสิ่งเล็กๆ ที่เราสามารถทำได้ เหมือนอย่างที่บิล เกตส์ เลือกที่จะล้างจาน และตากผ้าเอง หรือบางครั้งความสำเร็จอาจเริ่มได้ที่การเก็บที่นอนหลังตื่นนอนก็ได้
5
แต่เหนือสิ่งอื่นใด แม้เราจะมีสองมือและสองขาเพื่อที่จะใช้ก้าวไปไขว่คว้าความสำเร็จ กรณีศึกษาของบิล เกตส์ บอกเราอย่างหนึ่งว่า เราควรให้ความสำคัญกับการใช้สมอง เพราะฉะนั้นถ้าใช้สมองมากไปก็ควรที่จะให้มันได้พักผ่อน ด้วยสิ่งง่ายๆ ที่เรียกว่า “สมาธิ”
2
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
Line : @reporterjourney
โฆษณา