28 มี.ค. 2022 เวลา 14:45 • หนังสือ
ประสบการณ์เที่ยว "ปาย" Ep.2
เช้านี้เรามาถึงเชียงใหม่ได้อย่างปลอดภัย และหลับสบายเต็มอิ่ม ต่อไปเราจะต้องไปขึ้นรถตู้ต่อเพื่อขึ้นไปบนปาย การซื้อตั๋วก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่รอบรถนี่สิรอนานมาก เอาหละระหว่างนี้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เถอะ เช้าๆแบบนี้กาแฟสักถ้วยก็คงจะดีไม่น้อย ออกเดินทางตามหาร้านกาแฟใกล้ๆ สักพักก็เจอร้านที่เปิดแล้วอะนะ (คนแถวนี้เค้าตื่นสายจัง) ก็สั่งกาแฟเสร็จเลยโทรหาหวานใจซะหน่อย คือเรานัดเจอกันที่นี่เพราะจะไปเที่ยวด้วยกันหน่ะ งุ้ย น่ารัก >< หลังจากนั้นไม่นานมาก เธอก็มาตามนัดพร้อมสัมภาระไม่ได้เยอะอะไรหรอก ก็กระเป๋าเป้ใบเดียวเท่านั้น เราเลยชวนกันไปหาข้าวกิน เชียงใหม่? กินอะไร? ครับ หนีไม่พ้น "ข้าวซอย" มีร้านนึงแถวๆคิวรถตู้ อื้ม รสชาติดี อร่อย นั่งกินไปคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ปึ้บๆปั๊บ ก็ได้เวลาขึ้นรถ เย้ แต่คงอีกนานเลยหละกว่าจะถึงที่หมาย
โดดขึ้นรถได้ ผมก็นึกว่าตัวเองอยู่ต่างประเทศซะนี่ เพราะว่าบนรถมีคนไทยอยู่3คน ที่เหลือผลไม้ล้วน มังคุด? ฝรั่ง! แต่ผมก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็ที่ท่องเที่ยวอะเนอะ ก็นั่งไป แล้วก็หันไปถามหวานใจของผมว่า"คุณกินยาแก้เมารถหรือยัง"เค้าก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินก็เลยหยิบขึ้นมากินซะเลย ไม่นานเธอก็สลบไสลไปเหมือนคนไม่เคยนอนมาก่อน ปล่อยผมเคว้งนั่งมองวิวข้างทางไปเรื่อย บอกเลยครับว่าโค้งตอนขึ้นเขาเยอะมาก แต่พี่คนขับเค้าก็ไม่ทำให้เราผิดหวังครับ พาเราทุกคนไปส่งได้อย่างปลอดภัย พอถึงปายคนแสนรู้อย่างเรา ก็ไม่รีรออะไร เดินไปหาที่เช่ารถก่อนเลย ใช่แล้ว เราต้องมียานพาหนะ ดูอยู่สองสามสี่ห้าร้าน ก็เลือกร้านที่ถูกที่สุดและมีรถที่ถูกใจนั่นแหละครับ มอเตอร์ไซค์ออโตเมติกสีเขียว โดนใจ ใช่เลย ระหว่างที่เช็ครถก็ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไฟติดทุกดวง เบรคดี คันเร่งไม่ค้าง ยางไม่หมด น้ำมันเต็มถัง แจ๋ว ว่าแล้วก็ตกลงเอาพี่เขียวไปซิ่งเลย
อย่างต่อไปที่เราต้องทำคือไปหาที่พักที่เราได้จองไว้ ขี่พี่เขียวคู่ใจกับหวานใจที่ผมมอบหน้าที่ให้เป็น "จาร์วิส" คอยดูแมพให้ ก็ไปถึงยังจุดหมาย ไม่ไกลจากปายมากครับที่พักของเรา จอดรถได้ไม่ถึง2นาที เสียงแม่บ้านที่ดูแลรีสอร์ทก็แล่นเข้าหูผมมาว่า"ใช่ที่จองไว้เมื่อวานมั้ยคะ?" เราก็ครับ "ขอโทษด้วยนะคะพี่ดูผิดวันไปค่ะตอนนี้ห้องที่จองไว้ยังไม่ว่าง" เรียบร้อยครับ ถือว่าเป็นคำทักทายที่ดี ทีนี้เราต้องด้นสดกันแล้วในการหาที่พัก แต่ความสามารถของคนสมองโตอย่างเราก็ทำได้ไม่ยาก และเราก็ไปถึงได้อย่างรวดเร็ว เพราะอะไรหรอที่เร็ว ก็แดดตอนบ่ายสองนี่สิ แม่เจ้า วุ้ว นึกว่ากรุงเทพจะร้อนพอแล้ว หึหึ ไม่ได้ครึ่ง พอมาถึงที่พักอีกที่ก็สวยงามตามท้องเรื่อง แถมดีไปยิ่งกว่านั้นคือที่นี่มีแค่เราห้องเดียวด้วย ไพรเวทสุดๆ พอได้ห้องเราก็เอาของไปเก็บและก็เตรียมตัว เที่ยว ใช่แล้ว เที่ยวเลย
ที่แรกที่เราจะไปพักผ่อนหย่อนใจ พักกายให้สบายจิต คือ โป่งน้ำร้อนไทรงาม เป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวสำหรับสายตัวเปื่อยอย่างชาวเรา ที่นี่เป็นอุทยานครับ
มีค่าเข้าเล็กน้อย ราคาสบายกระเป๋า ไม่ต้องห่วง
ธรรมชาติที่นี่ยังคงสมบูรณ์ สวยงาม สิ่งปลูกสร้างน้อย และไม่มีขยะ สะอาดจริงๆ อันนี้ไม่ได้อวย แต่คือดี แต่ต้องบอกก่อนว่าผมมาที่นี่เป็นครั้งที่2แล้ว บ่อน้ำร้อนมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างครับ แต่ก่อนนี้บ่อน้ำร้อนจะมี3ชั้น และชั้นที่ให้ความร้อนสุดๆคือชั้นบนสุด และพื้น ที่อยู่ใต้น้ำก็เป็นดินปกติ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เค้าจะเอาหินก้อนเล็กๆน้อยๆมาเทใส่ไว้ เพื่อไม่อยากให้เวลาลงเล่นน้ำแล้วน้ำมันขุ่น แต่มันก็ยังให้ความร้อนเหมือนเดิมนะครับ แล้วก็มีกิจกรรมวางหินต่อยอดให้ได้ใช้สมาธิเพิ่มขึ้นมาด้วย แต่ก่อนมันไม่มีไงเลยไม่ได้เล่น ฮ่าๆ หลังจากที่แช่กันจนตัวเปื่อยแล้วเราก็พากันกลับ
เส้นทางเป็นถนนที่อยู่บนเขามันต้องมีทางขึ้นชันๆทางลงยาวๆอยู่ แล้วตอนขึ้นเขานั่นเองที่พี่เขียวของเราก็แสดงฤทธิ์ ดับเครื่องใส่กันเฉย โอ้โห นี่มันนาทีชีวิตเลยคุณเอ๊ย แต่ด้วยความสมองโตของผมจึงตั้งสติแล้วสตาร์ทใหม่อีกที เห้ออออ รอด
ไปกันต่อเลย กลับลงมาถึงปายก็เย็นพอดีครับเลยมีที่เที่ยวที่กินกันต่อ
walking street pai ถนนคนเดินปาย แต่น่าเสียดายครับที่ยุคนี้เราเดินกินไม่ได้ เพราะเราต้องใส่แมสก์กันตลอด ถึงไม่ได้กลัวโควิดแต่ก็ยังรับผิดชอบสังคมอยู่นะ ที่ปายปีนี้เงียบเหงากว่าหลายปีก่อน อาจเพราะโควิด-19 ร้านค้าร้านอาหารต่างๆจึงต้องปิดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และคนเที่ยวก็น้อยลง แต่ก็เป็นข้อดีครับ เวลาเที่ยวไม่แย่งกันเที่ยว เดินเที่ยวเล่นกันถึง2ทุ่มกว่าๆอากาศเริ่มเย็นลง ประมาณสัก18องศาเห็นจะได้ เราเลยพากันกลับที่พักไปเก็บแรงไว้เที่ยวต่อใน
ประสบการณ์เที่ยว "ปาย" Ep.3 จ้า
โฆษณา