28 มี.ค. 2022 เวลา 12:28 • ท่องเที่ยว
รู้จัก “Awakening Bangkok” งานแสงไฟย่านเมืองเก่า ที่ทำให้หลายฝ่าย Win-Win
ใครที่เป็นสายเสพงานศิลป์ ชอบดูนิทรรศการ หนึ่งในงานที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ งาน Awakening Bangkok ที่มีการจัดแสดงไฟตลอดทางเดินในย่านถนนเจริญกรุง-ตลาดน้อย-ซอยนานา (เยาวราช) โดยงานนี้จะจัดเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ 4 แล้ว
และในปีนี้งาน Awakening Bangkok ก็มีการจัดแสดงกว่า 36 โลเคชัน รวมประมาณ 50 ชิ้นงาน จากหลากหลายศิลปินที่มากฝีมือ
ภายใต้คอนเซปต์ “RE : VIVE ฟื้นคืนความสดใสของชีวิตด้วยสีสันและแสงไฟ”
ทำให้มีบางคนตั้งคำถามว่า ทั้ง ๆ ที่งานนี้ส่วนใหญ่ ก็เปิดให้เข้าชมฟรี ๆ แล้วงานนี้เอางบประมาณจากไหนมาจ้างศิลปิน ?
ใครเป็นผู้จัด และใครได้ประโยชน์จากงานนี้บ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
งาน Awakening Bangkok มีเจ้าภาพหลักก็คือ Time Out Bangkok
โดย Time Out คือสื่อระดับโลกจากลอนดอน ที่จะคอยรีวิว อัปเดตงานอิเวนต์ต่าง ๆ
และเมื่อได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทาง Time Out ก็ได้ขยายพื้นที่สื่อไปทั่วโลกกว่า 109 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
สำหรับ Time Out Bangkok ก็ขึ้นชื่อเรื่องการจัดอิเวนต์ปาร์ตีต่าง ๆ อยู่แล้ว จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานระดับประเทศ ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
และยังมีพาร์ตเนอร์เอกชน เช่น GrabFood, บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันสรรค์สร้างงานอิเวนต์ Awakening Bangkok ขึ้นมา
สรุปง่าย ๆ ก็คือ งานนี้มีภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมสนับสนุนงบประมาณ และจัดพื้นที่ให้ศิลปินมาแสดงงานศิลปะนั่นเอง
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ภาคเอกชนและภาครัฐ ต้องร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นมาที่เมืองเก่า ?
ก่อนหน้านี้พื้นที่ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อยเป็นย่านที่ไม่ค่อยคึกคัก ทั้งที่เป็นย่านชุมชน มีการค้าขาย อีกทั้งมีกลิ่นอายความเป็นไทย-จีนที่ให้ความเก๋าอยู่ หากจะปล่อยให้เมืองเก่าทรุดโทรมลงไปก็น่าเสียดาย
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้เมืองนี้มีชีวิตขึ้นมาได้ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชุมชนกลับมาคึกคักก็คือ การจัดงานนิทรรศการขึ้นมา
เพราะเมื่อคนเดินทางเข้ามาที่ชุมชนก็จะต้องหาซื้อของกิน แวะร้านต่าง ๆ ในบริเวณนั้น พ่อค้าแม่ค้าในชุมชนก็จะมีรายได้จากตรงนี้
อีกทั้งการที่คนรุ่นใหม่ ๆ ได้เข้ามาสัมผัสและรู้จักย่านเมืองเก่ากันมากขึ้น ก็จะทำให้หลายคนอยากที่จะรักษาและพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ด้วย
ดังนั้นในระยะหลัง ๆ มานี้ เราจึงเห็นนิทรรศการหลาย ๆ งาน เลือกใช้บริเวณนี้เป็นจุดแสดงผลงาน เช่น Bangkok Design Week 2022 หรืองาน Awakening Bangkok ในปีที่ผ่าน ๆ มา
โดยสำหรับ Awakening Bangkok ในปี 2022 นี้ ก็ได้ปรับให้งานมีความจริงจังและน่าสนใจมากขึ้น เพื่อให้พร้อมรองรับผู้คนที่เข้ามาร่วมงานนี้ และผู้ที่ชมงานก็จะได้เจอกับร้านค้าที่น่าสนใจได้อย่างทั่วถึง
เช่น มีเว็บแอปพลิเคชัน Awakening Bangkok เพื่อบอกรายละเอียดงานในจุดต่าง ๆ พร้อมบอกข้อมูลร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง เพื่อสร้างความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการมาร่วมชมงาน
และยังมีอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แบรนด์ต่าง ๆ หันมาให้ความสนใจกับการเป็นสปอนเซอร์ในงานนิทรรศการมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้สร้าง Awareness หรือก็คือสร้างการรับรู้ให้กับผู้ชมในงานแบบออฟไลน์แล้ว
แบรนด์ที่เป็นสปอนเซอร์ยังได้พื้นที่ในโลกออนไลน์อีกต่อหนึ่ง จากการที่คนในงานมาถ่ายรูปแล้วไปลงโซเชียลด้วย
เช่น GrabFood ได้จัดงาน Immersive Digital Mapping Chef’s Table หรืองานดินเนอร์ ที่ใช้การแสดงแสงสีเสียงบนโต๊ะอาหาร เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่แปลกใหม่ ซึ่งจัดโดยศิลปินจากบริษัท Donboy
และยังมีแบรนด์ Johnnie Walker ที่เป็นอีกสปอนเซอร์ใหญ่ ในการจัดพ็อปอัปต่าง ๆ เช่น หน้าไปรษณีย์กลาง และจัดแสดงไฟในโกดัง Warehouse 30 ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ให้คนมาร่วมสนุก
ซึ่งแน่นอนว่าการที่แบรนด์ใหญ่ ๆ ออกมาจัดงานนิทรรศการก็จะได้ใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่สนับสนุนในงานศิลปะอีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็จะเห็นแล้วว่า งาน Awakening Bangkok เป็นพื้นที่ที่สร้างความ Win-Win ให้กับหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคนในชุมชนที่มีรายได้เพิ่มขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ ได้ไอเดียการตลาดใหม่ ๆ และศิลปินรุ่นใหม่ก็ได้มีพื้นที่ปล่อยของ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เข้ามาชมงาน
และการจัดงานศิลปะใหญ่ ๆ แบบนี้ ก็ทำให้หลายคนเริ่มมีความหวังว่า ประเทศไทยกำลังจะให้ความสำคัญกับงานศิลปะมากขึ้นเรื่อย ๆ..
สำหรับใครที่สนใจอยากร่วมชมงาน Awakening Bangkok สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ - 3 เมษายน 2565 โดยสามารถเริ่มต้นชมงานได้ที่ไปรษณีย์กลางบางรัก หรือโกดัง Warehouse 30
โฆษณา