สำหรับทีมฟุตบอลชุดใหญ่ของโปรตุเกสเคยเคยได้รองแชมป์ฟุตบอลยูโร 2004 ในดินแดนตัวเอง ตอนนั้นเป็นยุคที่ทีมชาติโปรตุเกสอยู่ในยุคที่ดีที่สุดหรือที่รู้จักกันว่าชุด Golden Generation ประกอบไปด้วย Luis Figo เจ้าของบัลลงดอร์ 2001, Rui Costa , Deco เจ้าของ UEFA Player Of The Year 2004 , Pedro Pauleta , Ricardo Carvalho รวมถึง Cristiano Ronaldo ที่กำลังเป็นดาวรุ่งในขณะนั้น กลับต้องมาแพ้ให้กับชาติม้ามืดไฟแรงอย่างกรีซในนัดชิงชนะเลิศ 0-1 หลังจากเคยแพ้กรีซในรอบแบ่งกลุ่มมา 1-2
อีก 1 คนที่สามารถแจ้งเกิดจากทัวร์นาเม้นท์นี้ของทัพฝอยทอง คือ Renato Sanches โดยเขาทำ 1 ประตูในรอบก่อนรองชนะเลิศไล่ตีเสมอโปแลนด์ ทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในรอบน็อคเอาท์รายการนี้ รวมถึงได้ Man Of The Match ในนัดเจอโปแลนด์และโครเอเชีย
นักเตะที่เป็นตัวหลักของทีมคือชายที่มีนามว่า Ricardinho ถ้าวงการฟุตบอลโปรตุเกสมี Cristiano Ronaldo เป็นสตาร์หมายเลข 1 วงการฟุตซอลโปรตุเกสก็มี Ricardinho เป็นสตาร์หมายเลข 1 เหมือนกันในทัวร์นาเม้นท์นี้ Ricardinho ทำไปทั้งหมด 7 ประตู ทำประตูได้ 4 จาก 5 นัดที่ทีมฟุตซอลทัพฝอยทองลงเล่นคว้าทั้งรางวัลรองเท้าทองคำ และ Player Of Tournament รวมถึงทำให้เจ้าตัวได้รางวัล Futsal Awards Best Player In The World ในปี 2018
ในวงการฟุตบอลจะมีรางวัลบัลลงดอร์จาก France Football ซึ่งเป็นรางวัลส่วนตัวสำหรับนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกในปีนั้นๆ แฟนบอลน่าจะรู้จักรางวัลนี้กันเป็นอย่างดี ซึ่งทีมฟุตบอลโปรตุเกสมี Cristiano Ronaldo ที่เคยคว้ารางวัลบัลลงดอร์ ได้ 5 สมัย ในปี 2008 2013 2014 2016 2017 เป็นรองเพียงแค่ Lionel Messi ที่คว้ารางวัลนี้ไปทั้งหมด 7 สมัย
ซึ่งสำหรับวงการฟุตซอลจะมีรางวัล UMBRO Futsal Awards Best Player In The World โดย Futsal Planet สำหรับนักฟุตซอลยอดเยี่ยมของโลกในปีนั้นๆ แฟนฟุตซอลจะรู้ว่ารางวัลนี้มีศักดิ์ศรีเปรียบเสมือนบัลลงดอร์ของวงการฟุตซอล
ซึ่งหลังจากที่ Falcao เทพเจ้าวงการฟุตซอลจากบราซิลแขวนสตั๊ดไปในปี 2014 Ricardinho ก็แทบจะไร้คู่แข่งในการชิงรางวัลนี้ เจ้าตัวสามารถคว้ารางวัลนี้มาครองได้ถึง 6 สมัย ในปี 2010 2014 2015 2016 2017 2018 เป็นนักฟุตซอลที่ได้รางวัล Best Player In The World มากที่สุดในโลก