30 มี.ค. 2022 เวลา 15:16 • หนังสือ
ประสบการณ์เที่ยว "ปาย" Ep.3 (ตอนจบ)
หมอกหนาที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ในเวลาเช้าที่แสงแดดนั้นยังไม่ส่องลงมาให้เห็น อากาศที่หนาวเย็นยะเยือกและน้ำค้างที่เปียกเต็มคันรถมอเตอร์ไซค์คันเก่ง ใช่แล้ว นี่คือเช้าตีสี่ของอีกวันที่เราจะไปเที่ยวกัน ตอนนี้ผมไม่กล้าแม้จะจับแฮนด์มอเตอร์ไซค์เลยด้วยซ้ำ เพราะความหนาวเย็นที่เข้าไปถึงกระดูก แต่คนจะเที่ยวต้องได้เที่ยว.
ที่เราต้องตื่นกันเช้าหน่อยเพราะวันนี้เราจะไปดูทะเลหมอกกันที่นั่นคือ"ทะเลหมอกหยุนไหล" ระยะทางที่ไปไม่ใกล้อย่างที่คิด และหมอกที่หนาทำให้ผมต้องขับรถช้ากว่าปกติเพื่อความปลอดภัย และเช่นเดิมพี่เขียวไม่เคยทำให้ผิดหวัง ดับใส่กันแต่เช้า รอบนี้ดีหน่อยที่อยู่ในทางพื้นเรียบเราเลยจอดรถและสตาร์ทใหม่อีกครั้ง ก็ไปได้ต่อ ก่อนถึงทะเลหมอกหยุนไหล เราเจอที่เที่ยวอีกที่คือ"หมู่บ้านสันติชล" ไว้ขากลับเราจะแวะกัน ไม่นานนักเราก็ขึ้นมาถึงจุดที่จะดูทะเลหมอก
ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่างและอากาศหนาวมากและก็หิวกันด้วย ข้างบนนั้นมีร้านค้าที่ขาย น้ำชา หมั่นโถวด้วย เราก็เลยจัดชุดใหญ่ให้ท้องตึงพอเป็นพิธี แน่นอนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากที่กินเสร็จไม่นาน แสงแรกของวันก็ค่อยๆเผยความลับของธรรมชาติที่งดงามให้เราเห็น ทะเลหมอกหยุนไหล viewpoint in pai สวยงามอย่างบอกไม่ถูกและคุ้มค่ากับการเดินทางมาดู แต่พอตะวันโผล่พ้นขอบฟ้ามาเราก็ต้องลงไปกันต่อที่"หมู่บ้านสันติชล" ที่นี่เป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมของชาวจีนยูนนาน มีร้านขายชาและร้านที่ให้เช่าชุดจีนถ่ายรูปเยอะ ผมก็เกือบจะได้เช่าถ่ายแล้ว แต่เสียดายไม่มีชุดเปาปุ้นจิ้นเลยอดถ่าย เราเดินถ่ายรูปเล่นกันสักพักก็ไปถึงเหมือนเป็นท้ายหมู่บ้านประมาณนั้น มีทางเชื่อมเป็นสะพานไม้ไผ่เล็กๆ เราเลยเดินข้ามไปดู มันคือสวนกุหลาบและสวนดอกเก๊กฮวย เป็นภาพที่ประทับใจจริงๆ ได้อยู่ในสวนดอกไม้ที่มีหมอกบางๆและอากาศเย็นเบาๆ ฟินสุดๆ
หลังจากที่อะไรๆก็ดีไปหมดเราก็เลยโดนตก ป้าเจ้าของสวนชวนซื้อชาของแก โดนมา3ห่อ อย่างหอม
เอาหละไปต่อกันเถอะ ที่ต่อไปเราจะไปที่"romance another story in pai"
ที่นี่เป็นทั้งฟาร์มและเบเกอรี่ คนที่ชื่นชอบสัตว์อย่างเราจะพลาดได้ไง มีสัตว์หลายอย่างให้ไปเล่นด้วยหรือให้อาหาร เช่น แกะ วัว ไก่ ม้า ก็เล่นกันจนได้เหงื่ออยู่พักใหญ่ เลยกลับไปหาอะไรเย็นๆคลายร้อนที่เบเกอรี่ในฟาร์ม ส่วนผสมที่เป็นนมของทางร้านเค้าใช้น้ำนมจากน้องวัวในฟาร์มทั้งหมดเลยนะ สดจริงๆ กาแฟอร่อยและห้องน้ำสะอาด เราอยู่ที่นี่กันจนเย็นอากาศก็เริ่มไม่ร้อนแล้ว เราเลยกลับไปเดินเล่นต่อที่ถนนคนเดินปายกันอีกครั้ง กะว่าจะหาสเต็กร้านที่ดูรีวิวกิน แต่ดันปิดซะนี่ เลยต้องหาร้านอื่นกิน กินเสร็จเดินย่อยอยู่ในถนนคนเดินไปเรื่อย ก็ไปเจอร้านนึงที่ขายเครื่องประดับทะเล พี่เจ้าของร้านทักทายเรา"hello" เราตอบหวัดดีครับ พี่แกก็หัวเราะ"อ้าวนึกว่าชาวต่างชาติ"
"สนใจชิ้นไหนสอบถามได้เลยนะครับ"คำพูดของพ่อค้าที่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลาและสายตาอันหวานฉ่ำ ผมคิดว่าพี่เค้าเติมมาแน่เลย ดูไปสักพักพี่เจ้าของร้านแผงลอยเล็กๆในถนนคนเดินนี้ก็บอกเราว่ามีให้เลือกด้านในอีกนะครับลองเข้าไปดูได้ ทางเข้าเป็นตรอกเล็กๆตามทางเดินมีสีสะท้อนแสงเหมือนเดินเข้างานฟูลมูนปาร์ตี้ พอทะลุไปด้านในไม่ใช่แค่ร้านขายเครื่องประดับครับมันคือ "บาร์ลับ" ที่นี่ช่วงหัวค่ำชิวและสงบเพราะยังไม่มีใครเขามากัน ร้านเล็กดูอบอุ่นเพราะมีกองฟางสุมไฟอยู่กลางร้าน และข้างๆมีน้ำสมุนไพร2อย่างที่อยู่ในหม้อต้ม มีน้ำขิงและน้ำตะไคร้ สมุนไพรเพียวๆไม่ใส่น้ำตาล ลองแล้วครับกินไปทีเหมือนอยู่ในไร่ขิงไม่มีผิด เดินชมเครื่องประดับไปจิบน้ำขิงแก้หนาวไป จู่ๆก็มีนักดนตรีเดินเข้ามา ใช่แล้วดนตรีสดช่วงหัวค่ำ ไพรเวทอีกแล้ว ทั้งร้านมีแค่ผมกับหวานใจ เหมือนจ้างมาร้องเพลงให้ฟัง
แต่ก็ไม่นานมีคนค่อยๆทยอยเข้ามาทั้งหลงมาดูเครื่องประดับอย่างเราบ้าง ทั้งตั้งใจมาที่นี่บ้าง ปะปนกันไป แต่ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ และเค้าไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่มาทำความรู้จักกันที่นี่ ดนตรีก็บรรเลงไป บรรยากาศก็กำลังดี มีกองไฟที่มีเจ้าเหมียวจองที่แล้วหนึ่ง ส่วนพี่เจ้าของร้านก็เดินจอยกับลูกค้าอย่างเป็นมิตร
จนประมาณสี่ทุ่มดนตรีสดลง เราก็พากันกลับไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นกันแต่เช้า ไม่ได้ไปเที่ยวต่อหรอกครับ แต่เราจะกลับกันแล้ว
รุ่งเช้าของวันกลับก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการตื่นเช้ามาหามื้อเช้ากิน หากาแฟร้อนๆสักแก้ว เอาพี่เขียวไปส่งคืนให้กับร้านเช่ารถ รอรถตู้กลับเชียงใหม่ และเราก็ต้องกลับรถไฟกันเหมือนเดิม เพราะจองตั๋วเครื่องบินไม่ได้
จบแล้วครับกับประสบการณ์เที่ยวครั้งนี้ สถานที่เที่ยวเหล่านี้มีอยู่จริง ถ้าใครอยากลองไปสัมผัสบ้างก็เตรียมเก็บกระเป๋าและเอาเรื่องราวดีๆมาฝากกันบ้างนะครับ บาย.
ขอขอบคุณที่ติดตามผลงานกันด้วยนะครับ สำหรับใครที่จู่ๆก็มาโผล่Ep.นี้เลย แนะนำให้ไปอ่านEp.1 Ep.2 ด้วยก็จะน่ารักที่สุดเลยจ้า
ไปจริงแล้ว บาย.
โฆษณา