30 มี.ค. 2022 เวลา 08:13 • ประวัติศาสตร์
แอบรักแต่บอกเมียไม่ได้
ในปี ค.ศ.1540 เมื่อพระนางมิฮ์ริมาฮ์ ธิดาของสุลต่านสุไลมานมีอายุได้17ปี พระองค์มีคำสั่งให้ก่อสร้างมัสยิดให้แก่ธิดาของตน โดยสถาปนิกผู้รับผิดชอบคือ ซินานอีกตามเคย โดยทำเลในการก่อสร้างคือเขต อุสกุดาร์(Üsküdar) สุลต่านสุไลมานเห็นว่าเป็นเวลาอันเหมาะที่จะให้ธิดาแต่งงาน โดยมีผู้เข้าแข่งขันสองคน คนแรกคือขุนนางผู้ปกครองเมือง ดิยาบาคึร(Diyabakır) นามว่า รุสเต็ม และคนที่สองคือซินาน ในเวลานั้น ซินานได้แต่งงานและมีอายุ50ปี สุลต่านจึงยกลูกสาวให้กับขุนนางรุสเต็ม ท้ายที่สุดแล้วพระนางก็ได้แต่งงานกับรุสเต็ม
พระนางมิฮ์ริมาฮ์
ซินานตกหลุมรักพระนางเข้าอย่างจังถึงแม้จะได้เห็นพระนางมิฮ์ริมาฮ์เพียงแค่ครั้งเดียว โดยเมื่อซินานได้สร้างมัสยิดเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1548 เขารอเวลาถึง14ปีเพื่อที่จะสร้างมัสยิดที่แสดงความรักของเขาต่อพระนางมิฮ์ริมาฮ์โดยการก่อสร้างครั้งนี้ไม่ได้แจ้งให้ทางสุลต่านสุไลมานทราบแต่อย่างได ซินานได้เลือกทำเลในการก่อสร้างในเขต เอดิรเนคาปึ(Edirnekapı) และเริ่มก็สร้างในปี ค.ศ.1562 เสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1566 โดยตัวมัสยิดมีความสูงถึง 37เมตร และประดับด้วยโดมขนาดมหึมาเส้นผ่านศูนย์กลาง20เมตร และภายนอกมัสยิดประดับด้วยกระจกนับร้อยบาน ซึ่งส่องแสงสว่างเข้าไปยังภายในมัสยิด ทำให้ภายในมัสยิดมีความสว่างมาก เป็นการบอกเป็นนัยถึงความงดงามของพระนางมิฮ์ริมาฮ์
มัสยิด Mirihmah Sultan Camii(Üsküdar)
ความพิเศษคือ เมื่อถึงวันที่21มีนาคมซึ่งเป็นวันเกิดของพระนางมิฮ์ริมาฮ์ พระอาทิตย์จะตกจากทางฝั่งมัสยิด เอดิรเนคาปึ และดวงจันทร์จะขึ้นทางมัสยิดฝั่ง อุสกุดาร์ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อของนาง ซึ่งมีความหมายว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์ในภาษาเปอร์เซีย
มัสยิด Mihrimah Sultan Camii (Erdinakapı)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา