หมดไฟ ทำอย่างไรให้ไฟกลับมา
ในการทำงานนั้น ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานเล็กหรือชิ้นงานใหญ่ ล้วนแต่มีการก่อให้เกิดการหมดกำลังใจหรือแรงที่จะทำงานต่อได้นั้น แต่อะไรเป็นสาเหตุของการขาดความกระตือรือร้น? สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าการสูญเสียความสนใจไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับภาวะทางจิตใจหรือกายภาพ เพราะนอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสิ่งต่างๆ เช่น การทำงานหนักเกินไป ปัญหาความสัมพันธ์ กิจกรรมที่น่าเบื่อ หรือเพียงแค่ความรู้สึกธรรมดาที่ติดอยู่กับสิ่งซ้ำเดิม สิ่งนี้สามารถสร้างวงจรที่ยากต่อการหลุดพ้น
จะทำอย่างไรเมื่อรู้สึกหมดความสนใจ บทความต่อไปนี้จะยกตัวอย่างของ ขั้นตอนที่จะทำให้คุณสามารถทำได้เพื่อให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อคุณสูญเสียความสนใจกับงาน ต่อไปนี้คือบางสิ่งที่อาจช่วยเพื่อนๆที่กำลังหมดไฟได้
มุ่งเน้นไปที่การ Stay active
การสูญเสียความสนใจอาจทำให้การออกกำลังกายเป็นประจำทำได้ยาก แต่ให้เน้นที่การออกกำลังกายในแต่ละวัน การออกกำลังกายมีผลดีหลายประการต่อสุขภาพจิต รวมทั้งทำให้อารมณ์ดีขึ้นและลดอาการซึมเศร้าได้ แม้แต่การเดินเร็วในแต่ละวันก็ช่วยได้
พักผ่อนให้เพียงพอ
การอดนอนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคุณ ตัวอย่างเช่น งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการนอนไม่หลับทำให้ความเสี่ยงในการเกิดภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นสองเท่า ดังนั้น หากคุณกำลังดิ้นรนกับการสูญเสียความสนใจ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังฝึกนิสัยการนอนหลับที่ดีและให้ตัวเองมากมาย ในแต่ละคืนเพื่อพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ
ก้าวเล็กๆ
ถึงแม้จะไม่ต้องตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ การเริ่มจากก้าวเล็กๆก็สามารถช่วยทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันได้ หากมีงานอดิเรกที่ปกติแล้วชอบแต่หมดความสนใจไปแล้ว ให้ท้าทายตัวเองให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับงานอดิเรกนั้น หรือแบ่งโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ และจัดสรรเวลาเล็กน้อยในแต่ละวันเพื่อจัดการกับสิ่งนั้นๆ
การวางแผน
การวางแผนช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายของเราและช่วยให้เราสามารถใช้เวลาและทรัพยากรอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังหมายถึงการวิเคราะห์และวิจัยวัตถุประสงค์และวิธีที่เราบรรลุเป้าหมายของเรา นี่คือวิธีการดําเนินการเพื่อตัดสินใจว่าเราจะทําอะไรและทําไม สําหรับสิ่งนั้นเราต้องสร้างแผน
คุยกับคนรอบข้าง
บางครั้งการอยู่กับคนอื่นทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ความกระตือรือร้นของผู้อื่นยังแพร่กระจายดังนั้นคุณอาจพบว่าความกระตือรือร้นของพวกเขาสำหรับกิจกรรมที่แตกต่างกันเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อคุณ อย่าลังเลที่จะถามเพื่อนและครอบครัวเพื่อสนับสนุน ให้พวกเขารู้ว่าคุณกำลังต่อสู้กับการขาดความสนใจกับสิ่งที่ทำ
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ควรทำและสำคัญที่สุดคือการมองไปข้างหน้าและคิดบวก สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเห็นคุณค่าของงานหรือสิ่งที่รับผิดชอบอยู่
ความคิดเชิงบวกไม่ได้หมายความว่าคุณเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่ไม่น่าพอใจในชีวิต การคิดเชิงบวกหมายความว่าคุณเข้าใกล้ความไม่พอใจในทางบวกและประสิทธิผลมากขึ้น คุณคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด
ความคิดเชิงบวกมักเริ่มต้นด้วยการพูดกับตัวเอง การพูดกับตัวเองเป็นกระแสความคิดที่ไม่ได้พูดออกมาไม่รู้จบที่วนเวียนอยู่ในหัวของคุณ ความคิดอัตโนมัติเหล่านี้อาจเป็นบวกหรือลบ การพูดกับตัวเองบางส่วนมาจากเหตุผลและเหตุผล การพูดกับตัวเองอื่นๆ อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดที่คุณสร้างขึ้นเนื่องจากขาดข้อมูลหรือความคาดหวังอันเนื่องมาจากความคิดอุปาทานว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวของคุณส่วนใหญ่เป็นแง่ลบ ทัศนคติต่อชีวิตของคุณก็มีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้น หากความคิดของคุณส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก แสดงว่าคุณมีแนวโน้มว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดี นั่นคือคนที่คิดบวก
Jent P. an intern from sunmi th content writing team | นักศึกษาฝึกงานปี 3 ที่สนใจในเรื่องของการค้นหาคอนเท้น ข่าวสารใหม่ๆ หรือ ข้อมูลข่าวสารการกินต่างๆ ที่น่าสนใจ และ นำมาเขียนเล่าเรื่องราว food lover | explorer
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
