31 มี.ค. 2022 เวลา 02:17 • การตลาด
#BenNote
Your brand is a Show.
Concept and Spokesperson
are Key Success of Your Show.
ดร.คิม โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร
รองกรรมการผู้จัดการ Tero Entertainment
Co-Founder น้าเน็ค 555 (อย่าหาว่าน้าสอน)
#DNA6SPU #DNA4bySPU
วันนี้เบ็นได้พบกับคนที่อยู่เบื้องหลัง show ค่ะ 😊 สำหรับสาย event อย่างเบ็น Tero คือ 1 ใน Idol เลย มีงาน show สนุก ๆ มากมายที่อยากไปแจมด้วย ทั้งคอนเสิร์ตต่างประเทศและ show ระดับโลกอย่าง Disney On Ice อยากไปเป็นไปเห็นเบื้องหลังการทำงาน มันต้องคุลมากแน่ ๆ (ที่จริงคืออยากใกล้ชิดซุปตาร์ 555 ไม่ใช่ละ)
ที่เจ๋งมากคือคนเบื้องหลังการทำงานสื่อสารการตลาดของ show เหล่านั้นเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังรายการเด็ด ๆ มากมาย ทั้งในช่องทาง old media: TV อย่าง “ถกไม่เถียง” และช่องทาง online (FB Live / YouTube) อย่าง ‘อย่าหาว่าน้าสอน’ (ที่จริงคือทั้งสายตระกูลรายการของน้าเน็กนั่นเอง) และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนั้นคุณคิมยังทำ e-commerce ด้วยค่ะ วันนี้เราจึงได้เรียนรู้จากประสบการณ์แน่น ๆ ของ … Evo-Man เนอะ คิดว่าน่าจะเรียกวิทยากรคลาสนี้ว่านัก Evolve ได้ เพราะว่าคุณคิมพาองค์กรจับคลื่นอนาคต ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างน่าทึ่งมากค่ะ จาก on-ground และ TV ... สู่ online ... ขยายไป E-Commerce น่าสนใจมาก ๆ ว่า level ต่อไปจะ evo ไปเป็นอะไรอีก
และนี่เป็นบทเรียนที่เบ็นเก็บมาได้จากคุณคิม version วันนี้ค่ะ 😊
#แบรนด์คือโชว์
#สำคัญที่การสื่อสาร
#หัวใจคือคอนเซ็ปต์และคนนำเสนอ
#ลมหายใจคือการบริหารสื่อ
#สุขภาพคือวิทยาศาสตร์แห่งข้อมูล
Key Success of a Show
1.
#Concept สำคัญที่สุด เปรียบเทียบกับ brand มันคือ brand message เราอยากพูดว่าอะไร เราเป็นตัวแทนของอะไร เราเป็น “เจ้าของเรื่องอะไร” เช่น รายการ “ถกแต่ไม่เถียง” จะพูดว่าทุกเรื่องคุยกันได้ ถกกันได้ด้วยข้อมูลไม่ใช้อารมณ์ เมื่อภาพชัดรายการก็จะเป็นพื้นที่ของการแก้ปัญหาสังคมที่ขัดแย้ง รวมไปถึงสามารถมาร้องทุกข์เพื่อให้เกิดการ “ถก” เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ และหาวิธีแก้ไปด้วยกันได้
ในฐานะ brand เราต้องคิดค่ะว่าเราจะ “โชว์” อะไร 😊ลองคิดดูนะคะว่าถ้าเราเป็นรายการเราจะเป็นรายการอะไร ทำยังงัยให้คนรู้จักเราให้แบบที่เราอยากเป็น บางทีก็ไม่ต้องคิดซับซ้อนนะคะ เราอาจจะอยากเป็นแค่รายการ Gorge กับ Sara ก็ได้ ถ้ามันใช่เรา … โอ้ว มันใช่มากเลยค่ะจอร์จ นั่นสิซาร่ามันเป็นตัวตนของเรามาก ๆ เลย (กรุณาให้เสียงแบบใน home shopping เพื่ออรรถรสค่ะ 555)
#เราเป็นเจ้าของเรื่องอะไรคะ
2.
#Spokesperson
spokesperson ก็คือดารานำของ show เรานั่นเองค่ะ เราต้องมี spokesperson ที่ match กับ brand ทั้ง character และ caliber เช่นคุณทิน โชคกมลกิจที่เป็นพิธีกรรายการ “ถกแต่ไม่เถียง” คุณทินมีความรู้ความสามารถรอบด้าน พูดได้ 3 ภาษา นอกจากจะทำให้รายการดู smart ขึ้นแล้ว รายการก็ยังจับประเด็นมาถกได้กว้างออกไปอีก (อันนี้เบ็นตีความเอานะคะ คุณคิมไม่ได้พูดตรง ๆ แบบนี้ค่ะ 😊)
ในฐานะเจ้าของกิจการ คุณต้องเป็น spokesperson ของ brand ตัวเองให้ดีที่สุด เพราะอะไร? เพราะเราน่าจะอินสุดเนอะและมันก็ถูกที่สุดด้วย 555 ...ไม่ใช่ละคุณคิมบอกว่ามันจะเป็นการทำงาน layer เดียวค่ะ เร็วสุด ง่ายสุด ... ไม่ต้องถ่ายทอดความเป็นคุณยายวรนาท ไม่ต้องไปคายตะขาบให้ใคร (คนจะยังเข้าใจมุกนี้ไหมนะ ... ไม่เข้าใจไปเปิด YouTube เนาะ :P อ่ะล้อเล่นนนน แต่ไปเปิด YouTube ดูก็จะได้อารมณ์กว่านะคะ คุณยายวรนาทเป็นละครดังในอดีตค่ะ (ทำไมรู้สึกแก่ 555) นางมีชีวิตเป็นอมตะ ถ่ายทอดความอมตะให้ทายาทด้วยการคายตะขาบให้ ... กึ๋ยย์ ๆ หน่อยแต่มันเป็นละครผีอ่ะเนาะ)
อ่ะนอกเรื่องไปไกลหลายปีแสง กลับมาเข้าเรื่องค่ะ สรุปว่าการที่เจ้าของ Brand ทำเองมันจะทำให้การสื่อสารชัดเจน รวดเร็ว ฉับไวไม่ต้องถ่ายทอดกันหลายชั้นหลายขั้นตอนนั่นเองค่ะ และการถ่ายทอดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะคะ กว่าคุณปัญญาจะมีคุณกันต์มารับไม้ต่อได้ก็นานมาก และในที่สุดคุณกันต์ก็มีแนวทางที่ชัดเจนของตัวเอง คุณสรยุทธ์ก็ไม่มีใครแทนที่ได้ น้าเน็กก็เช่นกัน
สำหรับคุณสรยุทธ์และน้าเน็กเรียกได้ว่ารายการสร้างขึ้นตาม character ของ spokesperson เลยด้วยซ้ำนะคะ ... concept เลยชัด message แข็งแรงมากจนเติบโตออกลูกออกหลานเป็นรายการอื่น ๆ ได้อีกมากมายภายใต้ร่มเงาของรายการเดิมหรือ spokesperson คนเดิมค่ะ
ที่นี้ถ้าเราไม่’ดวกที่จะออกหน้าเอง เราก็ต้องเลือก spokesperson ให้ดีงามพระรามเก้านะคะ เพราะดารานำคือหัวใจที่จะชี้เป็นชี้ตายให้ความสำเร็จได้เลยค่ะ เรียกว่าคนพูดดีมีชัยไปกว่าครึ่ง อย่างคาราบาวแดง คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ก็บอกว่า Key Success คือพี่แอ็ด คาราบาวนะคะ เพราะพี่แอ๊ด touch ถึงหัวใจกลุ่มเป้าหมาย และในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพี่แอ๊ดสามารถพูดสามารถบิวท์ขายของในคอนเสิร์ตตั่งต่างของพี่เค้าได้แบบเนียนสนิทเลยด้วย ใคร ๆ ก็อยากหนับหนุนอะไร ๆ ที่คนที่เรารักทำเนาะ ... สุดยอด spokesperson อ่ะค่ะ
#ดารานำของเราเป็นใครคะ
3.
Marketing Channel Management
#แบรนด์ทุกแบรนด์ต้องมีสื่อของตนเอง
ในการทำ brand ... awareness ชุดแรกสำคัญมาก ทำ brand ดี สวย content โดน spokesperson แจ่ม ไม่ได้แปลว่าจะรอด
Eyeball หรือ Awareness = Conversion
จะเอายอดขายแต่ไม่อยากทำ Awareness ก็เหมือนเราจะกินข้าวแต่ไม่หุงข้าว จะเอาที่ไหนมาได้กิ๊นนนน ก็อดกินไปแล้วหนึ่ง
แล้วเราจะหุงข้าวอะไร ยังงัย ที่ไหนดี? … สำหรับ Media และ Content เราต้องรู้จัก…
• Media Landscape มันมีอะไรอยู่ในโลกนี้มั่ง ช่องทางไหนมันเหมาะกับใคร ช่องทางไหนใช้ content ยังงัย
• Target ของเราเอง “ข้าว” ที่เราอยากกินคือใคร สายพันธ์ไหน Gen X, Y หรือ Z เค้าเป็นใคร คุยเรื่องอะไรกันอยู่ เมื่อรู้ “WHO” แล้วก็จะได้รู้ว่าจะเข้าถึง “ข้าว” ของเราด้วยช่องทางไหน จะ Seed เค้ายังงัย จะ Grow ด้วยวิธีการไหน
• Objectives มีหลายช่องทาง หลายสื่อได้แต่ต้องรู้ว่าแต่ละช่องทางมีไว้ทำอะไร จะได้ทำ strategy ตั้ง KPI วัดผลกันได้ถูก >> จำไว้ว่านอกจากขายของแล้ว เราต้องทำ content ให้คนอยากดูด้วยนะ ถ่เค้าอยากดูเค้าจะอยากกลับมาให้เราหลอกหลอนด้วยสินค้าของเราเองด้วยความสมัครใจ 😊
• Frequency ความสม่ำเสมอที่ถูกแนวทางชนะทุกสิ่ง จีบสาวต้องเช้าถึงเย็นถึงน้า สำหรับ Brand การทำ content ให้ดีมีคุณภาพและสื่อสารอย่างสม่ำเสมอทำยากที่สุด แต่ทำเถอะ เพราะมันจะชนะทุกสิ่ง #ความสม่ำเสมอชนะทุกสิ่ง
• Result แบรนด์ก็เหมือนคนเรานะคะ มีชีวิต มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย จะรักษาแชมป์ จะทำให้สุขภาพดีอยู่ได้ยาว ๆ ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์แห่งข้อมูลค่ะ จงดูรายงานบ่อย ๆ จะ Facebook creator studio, Google analytics, YouTube Studio, TikTok for creator อะไรใด ๆ ก็ได้ที่เรามีน่ะค่ะ เอามาวิเคราะห์และปรับปรุงอยู่เสมอ ถ้าเราฟังและพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ต้องการอยู่เสมอเราก็จะเป็นที่ต้องการอยู่เสมอค่ะ
Media และ Content เป็นเรื่องที่ไม่มีจุดสิ้นสุดนะคะ ไม่มีชัยชนะตลอดไป และไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวด้วยค่ะ เราทำได้แค่ลองทำไปเรื่อย ๆ เรียนรู้และพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนพบ wining point ในแต่ละปัจจุบันขณะค่ะ ซึ่งอิ winning spot นี่มันก็จะไหลเลื่อนไปเรื่อย ๆ แตกต่างกันตลอดเวลาทุกปัจจุบันขณะเลย ... แม๊
คุณคิมยกตัวอย่างสื่อที่แต่ละช่องทางก็มีข้อดีข้อด้อยของตัวเองนะคะ เราต้องเลือกใช้ให้เป็นและให้เหมาะกับ Brand ของเราเองค่ะ
#Television
TV ยังคงเป็น major eyeball อยู่ คือ mass สุด และตอนนี้เราต้องปรับ mindset ใหม่ TV ไม่ได้แพงที่สุดเสมอไปขึ้นอยู่กับเราเลือกใช้ (เบ็นว่ามันขึ้นอยู่กับ return ที่เราได้รับนะคะ เม็ดเงินสูงแต่ผลตอบแทนสูงเทียบเป็น % ROI แล้วอาจจะพบว่ามันต่ำกว่า Channel อื่นๆ ก็ได้ค่ะ)
และถ้าเราจะ scale ... TV ก็ยังคงเป็น 1 ในตัวเลือกที่ดีที่สุดอยู่ค่ะ ลองคิดถึง Amado นะคะถ้ายังขาย online อย่างเดียวยอดไม่มีทางเติบโตขนาดนี้ แต่เพราะ TV มัน mass และ TV = ความน่าเชื่อถือด้วย ยอดขาย Amado เมื่อขึ้นมาอยู่บน TV Home Shopping จึงเติบโตมากกว่าขาย online อย่างเดียวถึง 300-400% เลยทีเดียว (เพิ่งรู้เลยค่ะ คิดมาตลอดว่า online ทำให้ยอดขายเติบโต ทั้งนี้ทั้งนั้นเบ็นว่าคงเป็นแต่ละ product ไปนะคะ)
ทุกอย่างก็มีช่วง decline ของมัน >> กะทะ >> ถั่งเช่า >> Pro-Biotic ตัว platform TV เองก็คง decline ไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีการปรับ infrastructure ให้ตามโลก online ซึ่งระบุ Target / Location ได้ละเอียดมาก ๆ ... (เมืองนอกทำได้นะคะ เราสามารถเลือกยิงโฆษณาทีวีแต่ละเมืองไม่เหมือนกันได้ แต่ในไทยยังทำไม่ได้ค่ะ) เอาเป็นว่าเราก็จับกระแสกันให้ทันก็แล้วกันนะคะ ฟังเยอะ ๆ ดูเยอะ ๆ ศึกษาข้อมูลและ pivot ตัวเองตามน้ำไปค่ะ
#Radio
วิทยุ ... แต่ก่อนเป็น killer media เลยเน้อ วัยรุ่นเลิฟมาก ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้เด็กไม่ฟังแล้ว แต่ความเจ๋งที่ยังคงอยู่คือ Frequency และความจูงใจ คือการมีคนมาพูด – มาเล่า – มาชวนมันก็จะมีผลมากกว่ายิง spot เฉย ๆ อ่ะเนาะ นั่นก็กลับไปที่ spokesperson ของรายการนั้น ๆ นั่นเองค่ะ อันนี้ถ้าจะใช้ก็ต้องศึกษานะคะ มันก็ยังเหมาะกับบาง target อยู่นั่นแหละค่ะ
#Facebook
- ถ้าเป็น Brand คุณควรมีอย่างน้อย 10 เพจ เพื่อดึง eyeballs
- ควรมี Chatbot Commerce ด้วย
#TikTok
- ใน Indonesia เริ่มทำเป็น Social Commerce ตามจีนไปแล้ว
- TikTok จีน หรือโต่วอิน (douyin.com) ยอดขายถล่มทลายมาก
- ตอนนี้ TikTok ทำได้ 3-5 Min. แล้ว
- คนไทยเริ่มใช้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คนต่างจังหวัดชอบการ Live ใน TikTok มากๆ
#YouTube
ช่องน้าเน็กปังมากในหมู่วัยรุ่น เพราะ Concept ชัดว่าจะไม่ mass มี target segment ชัดเจนว่าจะคุยกับใคร ไม่ว่ารายการจะแตกติ่งก้านสาขาไปแค่ไหนก็จะมีแกนเป็นหัวใจเดียวกัน ตัว spokesperson ก็ยิ่งกว่าชัด ทุกรายการของช่องจึงส่งเสริมกันและทำให้ทั้งช่องและรายการมีผู้ติดตามมากมายและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น “อย่าหาว่าน้าสอน” “คุยให้เด็กมันฟัง #เน็กป๋องหอย” “หงี่-เหลา-เป่า-ติ้ว” และอื่น ๆ อีกมากมี
ทำไมปัง? ไม่ใช่เพราะแค่ concept และ spokesperson เท่านั้นแต่ยังมีองค์ประกอบหลังบ้านที่ต้องดีด้วย
- การมี Content เยอะ (หลายรายการ) ต้องจัดการหลังบ้านให้ดี ต้องมี strategy ของแต่ละช่อง เหมือนเราต้องมี strategy ของแต่ละ brand นั่นเอง หรือแต่ละ brand ก็ต้องมี strategy ของแต่ละ product
- ทีม Production ต้องมีรสนิยมในการตัดต่อที่เหมาะกับ gerne ของเราเอง
- สำหรับงาน online ควรทำ shot ที่เป็น close-up เพื่อให้เห็น expression ชัด ๆ
- ทำการบ้านจาก stat หลังบ้าน analyse กันถี่ ๆ (อาจจะ day by day) ว่าต้องปรับอะไร และเพื่อเก็บข้อมูลไปขาย corporate (ผู้สนับสนุน)
How to Create Thumb-Stopper VDO Content
1. Create content & editing >> สำหรับ FB/TikTok 3 วินาทีแรก สำคัญที่สุด หัวคลิปต้องตกคนได้เลย ถ้าตกไม่ได้ 70% จะ Drop-off
2. Thumbnail ต้องดึงคน สร้างรูปปกและข้อความ (title, description, tag) ให้ดึงดูด
o #thumbnail >> สีสันของปกต้อง outstanding และใส่คำเด่น ๆ ลงไปเลย
o #hashtag ใน YouTube อย่าใส่ tag ที่ไม่มั่นใจว่าเรา own ลงไป เพราะถ้าเราไม่ own # นั้นเวลาคนดู search มันจะวิ่งไปหาเจ้าของ # เลย >> Facebook อาจจะไม่เก่งเรื่อง search แต่ YouTube กับ google เป็นเจ้าของเดียวกันจึงเก่งเรื่อง search มากๆๆๆๆๆๆ >> Tag ของ YouTube จึงสำคัญมาก >> Report หลังบ้านจะขึ้นมาให้เราเลยว่าใคร search หาอะไรมากสุดใน VDO ตัวนั้น ๆ
o #Description YouTube Recommended จะจับความ pop จาก “ตัวอักษร” (Description) ไม่ได้ Analyse จากตัว VDO (stat ของ VDO จะขึ้นเมื่อ VDO เริ่ม run ไปแล้ว) ดังนั้นให้ใส่ time stamp และ description เยอะๆๆๆๆ *SEO จะมา 😊 คน search ก็จะเจอเรา
How to get Google and YouTube search work?
2. ตั้ง title ที่มี Keywords เป็นคำใน trend
3. สำรวจคู่แข่งเค้าใช้อะไรกันทั้งใน title, description, tag
4. อย่าลืมตั้งชื่อ file VDO และรูป thumbnail ให้มี Keyword
5. Google และ YouTube หา Keyword ใน Title ไม่เกิน 50-70 ตัวอักษร #ยาวไปไม่เจอ
6. Google และ YouTube หา Keyword ใน tag ไม่เกิน 50 tag #เยอะไปไม่โดน tag แรกควรเป็น tag ที่เกี่ยวกับเนื้อหาโดยตรง
#Keywords เป็นเรื่องที่ต้องคิดเยอะ ๆ เป็นศิลปะ เป็น Trend ในการค้นหา บางทีคำผิดก็เป็นเทรนด์หรือเป็นคำที่ทำให้คนมาเจอเราได้ คิดให้นอกกรอบ 😊
Omni-Channel, we need to be
ทำแล้วไปให้สุด ออกให้ครบทุกช่องทาง (ที่เหมาะสมกับ Target เราน่ะนะคะ) เพราะเดี๋ยวนี้ content บาง channel ก็ทำได้ง่ายขึ้น เช่น TikTok หรือ post Facebook เด็ก ๆ ที่จบใหม่ก็ทำได้ (ทำได้ดีกว่าเราด้วย เพราะเค้าคือ gen ที่เกิดมาพร้อม channel นี้) มีเครื่องมือ online มากมายที่ช่วยให้เราทำ content ได้ง่ายขึ้น ex. CANVA
แต่เราต้องทำ KPI ของแต่ละช่องทางด้วยนะคะ ไม่งั้นทำไปก็เปล่าประโยชน์ เสียแรง เสียเวลา สักแต่ว่ามี ให้ตั้ง objectives ให้ชัดว่าช่องทางไหนจะทำเพื่ออะไร + มีตัวเลขที่วัดได้เช่น
- จะขึ้นอับดับ 1 บน YouTube Trend ของไทยให้ได้ถึง 4 contents
- จะเป็นสำนักข่าว TikTok ที่มีผู้ติดตาม 2 ล้านคน ได้ 750 ล้านวิว
อะไรก็ว่าไป แต่เอาให้มีเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง งานจะได้ออกมาดีเนาะ 😊
เหนือสิ่งอื่นใดเพิ่มช่องทาง = เพิ่มผู้ชม = การขยายกลุ่มเป้าหมายค่ะ
#ถอดรหัสความสำเร็จ
To success in digital marketing, you need to crack these:
1. เข้าใจ product / brand ให้ลึ้กกกกกกสุดใจ
2. หา target ให้เจอ
3. สร้าง / เลือก content ให้ “จึ้ง” ให้จิกลูกค้าให้เกิด conversion ให้ได้
4. Database เก็บข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อหา signal, trigger, timing ที่เราจะกลับไปคุยกับลูกค้า >> retain
#Ecommerce
นั่นเป็นเรื่องของการตลาด ก่อนจบคุณคิมแชร์กับพวกเราเรื่อง E-Commerce ซึ่งเป็น Landscape ใหม่ของการขายสินค้าในไทยที่เจ้าใหญ่ลงทุนมหาศาล ยอมติดลบเป็นหมื่น ๆ ล้านเพื่อเปลี่ยนให้เป็น Digital จนตอนนี้คนไทยซื้อของผ่าน e-commerce แล้ว 4% นั่นแปลว่ายังมี room ให้เติบโตได้อีกเยอะมากถึง 96% แน่ะ (สัดส่วนของจีนคือ E-commerce 55%)
จะเติบโตต้องทำอย่างไร?
ไม่ว่าการตลาดการขายสมัยไหน ๆ ก็เกาะทฤษฎีคล้าย ๆ กันนะคะ เรามีทฤษฎีไว้เป็น checklist ให้เรารู้ว่าเรามีครบมีดีพอที่จะลงตลาดหรือยัง
- SWOT
- AIDA (attention / interest / desire / action)
- 4P (product / price / place / promotion)
- 4C’s (consumer needs / cost satisfaction / convenience to buy / communication)
- 5A (aware / appeal / ask / act / advocate)
[advocate สำคัญนะคะ voice of consumer ที่บอกต่อเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในโลกเลยค่ะ
*เราสร้างและรักษา advocate ได้ง่าย ๆ ด้วยของแถมจากใจเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะ อย่าลืมหาของดีราคาเบา ๆ ไว้ส่งไปพร้อมสินค้าแทนคำขอบคุณบ้างนะคะ]
Thailand E-Commerce Landscape
- E-marketplace 47%
- Social Media (38%)
- E-brand (15%)
ถามว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ต้องวางที่ไหนบ้าง ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงบให้คิดแบบนี้ค่ะ เวลาเราจะวางสินค้าในห้างที่เป็น brick & mortar เรายังต้องวางหลาย ๆ ห้างเลยใช่ไหมคะ ฉันใดฉันนั้นวางบน digital ก็อยู่มันทุกห้างแหละ วางมากโอกาสที่คนจะเห็นก็ยิ่งมาก (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ดูกระเป๋าตังค์เราด้วยค่ะว่ามีพอสู้ค่า GP ไหม)
วันนี้ landscape เปลี่ยนปลาไม่ได้อยู่ที่เดิมถ้าเราไม่ตามปลาไปก็ต้องลงแรงหาปลาใหม่ในน่านน้ำเดิ่มอยู่ดี ซึ่งดูจะยากกว่าอีกนะคะ การย้ายขึ้น Digital จึงเท่ากับเป็นการ lift brand ให้ไปอยู่ใน Choice ของลูกค้า ... คนที่อยู่ใน choice เท่านั้นค่ะจึงจะได้รับการคัดเลือก ... so, Jump pal …
อ๊ะ ... หยุดก่อน ไม่ใช่ว่ามีใจก็ jump เลยเดี๋ยวโดพลาดตกมาจะเจ็บไม่ใช่น้อย
“A goal without a plan is just a dream” – Dave Ramsey
ทำ business plan ออกมาดูให้ดี ๆ ก่อนนะคะก่อนที่จะทำ Business ใหม่อะไรใด ๆ
และ Business Plan ก็ตั้งต้นด้วย 4 คำถามนี้ค่ะ
- เราเป็นเจ้าของเรื่องอะไร
- ดารานำของเราเป็นใคร
- คนดูที่ต้องการเราน่ะมีไหม
- คนดูคนนั้นจะยอมจ่ายเงินให้เราได้อย่างไร
ขอให้สนุกกับการตกปลาในน่านน้ำใหม่นะคะทุกคน 😊
Q&A
[คุณตือ ลำใย] มีความเห็นอย่างไรกับ Modern Trade
[Ans.] Limitation ของ modern trade ถ้าจะปรับมาเป็น e-commerce คือยังติดกับ structure มากอยู่ อาจจะต้องทำ BU ที่คล้าย ๆ Start-up ให้ผ่าเหล่าผ่ากอออกมาลุย สามารถจับ combination มาเล่นได้ทุก cat ในร้าน แบบนี้จะโตขึ้นได้เร็วและน่าสนใจกว่านี้
[คุณบอล สับประรด] build ทีมยังงัยดี มีเรื่อต้องทำมากมายก่อนตกรถ
[Ans.] ในแง่ของการทำ content รับเด็กจบใหม่ได้เลยเพราะ content รุ่นใหม่ก็ทางเด็ก ๆ อยู่แล้ว แต่ต้องรับเด็กบริหาร/นิเทศเพราะต้องมี sense ในการสร้าง content ที่สำคัญคือเราต้องหา “หัว” ให้เจอก่อน แล้วให้หัวเป็นคนรับทีมที่ fresh มาเริ่มและเรียนรู้ไปด้วยกัน
แบบนี้มีข้อดีเพราะ seed มาด้วยกัน implant DNA เป็นของเราได้เลย แต่เจ้าของต้องลงไปคลุกในช่วง 1-2 เดือนแรกนะ พอ seeding ได้แล้วก็ปล่อย คอยให้คำแนะนำก็พอ
อย่าลืมรับมาเยอะๆ นะ เอามาลองงานลอง culture 4 เดือนใครไม่ fit ก็จบแยกย้าย 😊
[คุณ 😊 กลุ่มกล้วย] สินค้า high-valued / brand name กฏเยอะจะ live ขายอย่างไร
[Ans.] ไม่ใช่ว่าของทุกอย่างจะเหมาะกับการ live แต่การทำ live หรือ VDO จะช่วยทำให้มี dynamic มากขึ้น ควรใช้เพิ่ม interpersonal เป็นหลัก เพื่อจะได้ไม่ต้องพูดซ้ำ ๆ และการมี interpersonal จะช่วยสร้างความเชื่อได้มากกว่าเป็นภาพเฉย ๆ
ความรู้แน่นมาก ขอบคุณคุณคิม แห่ง Tero Entertainment และ Director Icz แห่ง DNA ค่ะ
#benji_is_learning
#benji_is_drawing
#bp_ben
Cr.ภาพคุณคิม ดร.โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร จาก DNA6bySPU by #GolfSirapopPhoto
ขอบคุณค่ะ
โฆษณา