30 มี.ค. 2022 เวลา 15:47 • ปรัชญา
คําถามนี้น่าสนใจดี ผมจะลองอธิบายจาก กฏปฏิจจสมุปบาท ซึ่งเป็นขบวนการทํางานของจิต ที่ปรุงแต่งรูปนามให้เกิดภพ ขึ้นมาจากอวิชชา แบบวิจิตรพิสดารซักหน่อย เราเข้าใจว่าปฏิจจสมุปบาททํางานอยู่แล้วในจิต แต่ปฏิจจสมุปบาทก็ได้เป็นตัวสร้างจิตขึ้นมา เมื่อตอนที่ยังไม่มีจิตด้วย
ปฏิจจสมุปบาทที่เราเข้าใจกันนั้น ขันธ์5 ได้กําเนิดขึ้นมาแล้วเป็นปฏิจจสมุปบาทแบบภายในตัวมนุษย์แบบที่เรายังมีชีวิตอยู่ เป็นการทํางานของจิตที่เกิดขึ้นแล้ว ในรูปแบบสร้างรูปนามหรือภพในความคิด และปฏิจจสมุปบาทมีลักษณะวนเป็นวงกลม แถมไม่ได้เกิดขึ้นในตัวมนุษย์ในภพเดิมเท่านั้นแต่ยังมีการข้ามภพได้ด้วย โดยมี อวิชาติดไปกับจิตทุกภพในแบบลักษณะสืบทอด เรามาลองจินตนาการดูว่าถ้าไม่มี มนุษย์เกิดขึ้นบนโลก คุณว่า ปฏิจจสมุปบาท เกิดขึ้นไหม? เกิดกับใคร?
ตัวอวิชชาเป็นต้นกําเนิดทุกสรรพสิ่ง ตัวนี้จึงเป็นตัวแรกเมื่อกล่าวถึง ปฏิจจสมุปบาท และเป็นตัวทําให้จิตถือกําเนิดขึ้นมา ตอนที่จักรวาลกําเนิดขึ้นมาใหม่ๆ ปฏิจจสมุปบาทได้เกิดขึ้นมาแล้วดังนี้
- อวิชชา ทําให้เกิดสังขาร นั่นคือเป็นลักษณะของความว่างที่สร้างความมีขึ้นมา เกิดเป็นอัตตาชนิดหนึ่งในรูปแบบละเอียด ( เรียกว่าเป็นสังขารหรือการปรุงแต่งรูปแบบหนึ่ง )
- สังขาร ทําให้เกิดวิญญาณ เมื่อเกิดความมีขึ้นมา ความมีหรืออัตตาตัวตนเริ่มปรากฏ เริ่มอยากรับรู้สิ่งต่างๆ วิญญาณจึงได้เกิดขึ้น ( ทําหน้าที่แค่รับรู้ อย่างเดียว )
- วิญญาณ ทําให้เกิด นาม- รูป หมายถึง การรับรู้ของอัตตาจะไม่มีความหมาย จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรถ้ามีแต่วิญญาณ เพื่อให้การรับรู้เป็นไปอย่างละเอียดยิ่งขึ้น วิญญาณจึงได้สร้างนามเพิ่มอีก 3
คือ สัญญา (ความจํา) , เวทนา ( ความรู้สึก), สังขาร( ปรุงแต่งความรู้สึกได้) รวมตัวมันเอง จึงมี 4 ขันธ์ประกอบ จะเห็นว่าในวงรอบปฏิจจสมุปบาทในช่วงกําเนิดจักรวาลใหม่ จะเป็นลักษณะของพวกพรหม ที่มี 4 ขันธ์และเสวยอารมณ์เป็นความว่าง เป็นลักษณะของนาม ล้วนๆ ตอนนี้จิตได้ถือกําเนิดขึ้นมาแล้ว
- นามรูป ทําให้เกิด ชาติ ชรา มรณะ หรือภพภูมิ ซึ่งเป็นลักษณะของมิติแบบ Hyperspace หรือ multi-universe ซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตแบบมนุษย์อาศัยอยู่ เพราะจักรวาลยังร้อนระอุ อนุภาค สสาร ยังไม่รวมคัวเป็นดวงดาว กาแล็คซี่ แต่ bigbang ทําให้เกิดภพภูมิ แบบ 11 มิติ ที่เป็นที่อาศัยของพวกพรหม ที่เป็น อรูปพรหม
เราจึงได้ยินตํานานเรื่องง้วนดิน ที่พวกพรหม ได้กลิ่นง้วนดินที่มีกลิ่นหอมหวล จึงลงมากินง้วนดิน จนกายของตัวเองหยาบ อันนี้มิใช่ตํานานหลอกเด็ก แต่เป็นเรื่องจริง ในรอบถัดไปของ ปฏิจจสมุปบาท พวกพรหมเหล่านี้น เริ่มมีอวิชชา เกิดสังขารเพิ่ม เกิดวิญญาณเพิ่ม รูปนามจึงเปลี่ยนจากละเอียดเป็นหยาบ คือเริ่มมี รูป ปรากฎขึ้น ก็จะลดภพภูมิของตัวเองลงมาในชั้นของเทวดา จาก อรูปพรหม เป็นรูปพรหม เป็นเทวดาในขั้นต่างๆ
ในรอบท้ายๆของการกําเนิดจักรวาล ดาวเคราะห์และกาแลกซี่ก่อกําเนิด เริ่มมีสิ่งมีชีวิตก่อกําเนิดขึ้น มนุษย์จึงได้ถือกําเนิดมา เพราะจิต ในวัฏสงสาร ตอนนี้มีเต็มไปหมด จากทั้งชั้นอรูปพรหม, พรหม, เทวดา และปฏิจจสมุปบาทก็วนกลับมา จนจิตเหล่านี้มีอวิชชาสะสมแก่กล้า จนสร้างนามรูปที่หยาบขึ้นมาในร่างของมนุษย์ และรูปนามในตัวมนุษย์ก็ทํางานตาม วงจรปฏิจจสมุปบาทไปจนวันตาย ภพภูมิแบบสมบูรณ์แบบได้ก่อเกิด ระบบกรรมและวิบากกรรมทํางานร่วมด้วย ทําให้จิตของมนุษย์ยึดเอาตัวตนหรือรูปนามของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น จนวนอยู่ในวัฏสงสาร มิอาจหลุดพ้นไปได้
โฆษณา