✅Morning Update 31.03.2022
🇺🇸🇪🇺ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยมีแรงกดดันมาจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลให้ Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงสูงสุดท่ามกลาง 3 ดัชนีหลัก
- เยอรมันประกาศใช้แผนรับมือการลดการนำเข้าก๊าซธรรมจากรัสเซีย
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
- ไชน่า อิสเทิรน์ สั่งเครื่องบินจากโบอิ้งเพิ่มกว่า 100 ลำ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันพุธที่ 30.03.2022 ดัชนี Dow Jones -65.38 จุด -0.19% S&P 500 -29.15 จุด -0.63% และ Nasdaq 100 -167.77 จุด -1.10% โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านเยอรมันได้ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่เป็นภาพสะท้อนของเงินเฟ้อหรือ CPI (Consumer Price Index) ประจำเดือนมีนาคม ขยายตัวสูงที่ 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน (MoM) และขยายตัวสูงที่ 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 6.8% (YoY)
ตัวเลข CPI ที่สูงขึ้นชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งขึ้นจากความกังวลของสงครามรัสเซีย-ยูเครนช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคล้ายคลึงกับเหตุการณ์สงครามอ่าว ช่วงปี 1981 ที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงผิดปกติและส่งผลเชิงลบอย่างรุนแรงต่อเงินเฟ้อในเยอรมันนีและยุโรป
2. สืบเนื่องจากรัสเซียเตรียมให้มีการซื้อ-ขาย ก๊าซธรรมชาติด้วยเงินรูเบิลสำหรับประเทศที่สนับสนุนฝั่งตรงข้ามรัสเซียในสงครามยูเครน
ด้านเยอรมันเตรียมแผนรับมือการตัดลดอุปทานก๊าซพลังงานธรรมชาติจากรัสเซีย โดยชิงเปิดใช้งานแผนฉุกเฉินแห่งชาติในระยะแรกคือการประกาศเตือน (“Alert”)
ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้ภาคเอกชนและรัฐบาลร่วมกันลดการใช้พลังงานอย่างประหยัด โดยระยะถัดไปจะเป็น “Alarm and Emergency” ซึ่งรัฐบาลจะสามารถเข้าไปแทรกแซงการใช้พลังงานได้ในระดับหนึ่ง
ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงและผันผวนรุนแรงช่วงเช้า โดย Stoxx 600 ปิดบวกที่ 460.19 จุด (-0.41%)
3. ด้านสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ 2 ตัว
(i) ตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ฉบับปรับปรุง (ครั้งที่ 3) ขยายตัวที่ 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากรายงาน GDP ไตรมาส 4 ครั้งก่อน (ครั้งที่ 2) ที่ 7.0% และต่ำกว่าคาดที่ 7.1%
(ii) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่สำรวจโดย ADP Nonfarm Employment Change ประจำเดือนมีนาคมขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ +455,000 ตำแหน่ง จากที่คาดว่าจะขยายตัวที่ +450,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขการจ้างงานรอบนี้ขยายตัวได้ดีในทุกขนาดกลุ่มบริษัท โดยบริษัทขนาดเล็กมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นที่ +90,000 ตำแหน่ง ขนาดกลางเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ +188,000 ตำแหน่ง และขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นที่ +177,000 ตำแหน่ง
แบ่งเป็นประมาณการจ้างงานในภาคการผลิตที่ขยายตัว +79,000 ตำแหน่ง และภาคบริการขยายตัว +377,000 ตำแหน่ง
ภาคการผลิต:
- อุตสาหกรรมโรงงาน +54,000 อัตรา
- งานก่อสร้าง +15,000 อัตรา
- งานขุดเจาะและสำรวจทรัพยากร +9,000 อัตรา
ภาคบริการ (4 อันดับอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญสูงสุด):
- งานบริการ/ท่องเที่ยว +161,000 อัตรา
- การศึกษา/สาธารณสุข +72,000 อัตรา
- ผู้เชี่ยวชาญ / วิชาชีพ และธุรกิจ +61,000 อัตรา
- การขนส่งและโลจิสติกส์ +49,000 อัตรา
4. แม้ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีรายงานถึงอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์
ล่าสุดด้านโบอิ้งรายงานว่ามีคำสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มเติมจากสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ทั้งหมด 103 ลำ ภายใน 2024 โดยจะเป็นการส่งมอบก่อน 39 ลำภายในสิ้นปีนี้
ส่งผลให้หุ้นโบอิ้งดีดตัวกลับขึ้นไปใกล้ 200 ดอลลาร์ต่อหุ้นในระหว่างวันก่อน กลับมาปิดบวกเล็กน้อยที่ 194.91 (+0.59%)
5. หุ้นกลุ่มที่ Outperform ตลาดสูงสุด 3 อันดับได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน +1.17% และหุ้นเชิงรับอย่างกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณูปโภค +0.84% และกลุ่มเฮลท์แคร์ +0.22%
Exxon Mobil +1.71% Chevron +0.71% Conoco Phillips +0.71% Occidental +1.22%
Johnson & Johnson +1.04% Pfizer -0.57% Moderna -3.17%
United Health +1.98% Abbot Labs +0.16% AbbVie +0.97% Thermo Fisher +0.38%
6. หุ้นที่ underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุดได้แก่ หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -1.51% กลุ่มเทคโนโลยี -1.36% และกลุ่มสถาบันการเงิน -0.71%
PVH -6.54% Tapestry -2.48% Ralph Lauren -2.33%
Starbucks -0.22% Nike -0.43% Lowe’s -4.59% McDonald +0.35% Home Depot -2.91% Target -0.44% TJX -3.59%
Bank of America -1.01% Well Fargo -2.89% Citi Group -2.66% Signature Bank -3.04 % SVB -4.31%
Berkshire Hathaway +0.83% JP Morgan -0.45% Morgan Stanley -1.71% Goldman Sachs -1.20% Black Rock +0.53% Charles Schwab -2.70%
7. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์
Apple -0.67% Alphabet -0.40% Microsoft -0.49% Amazon -1.78% Meta -0.87% Netflix -2.64% Adobe -1.34% Salesforce -2.87% Visa -1.83% Mastercard -1.44%
หุ้น Innovation ปรับตัวลดลง
Tesla -0.51% Lucid Group -3.14% Roku -5.53% Teladoc Health -4.07% Block (Square) -4.59% Zoom -3.07% Spotify -0.73% Twilio -3.35% Coinbase -3.83% Robinhood -8.49% Affirm Holdings -2.91% Unity Software -2.61% Shopify -5.16%
หุ้น Semiconductor ปรับตัวลดลง เนื่องจากหุ้นกลุ่ม Semiconductor ได้ถูกปรับลดประมาณการรายได้ในไตรมาส 3 จากสภาพเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
Nvidia -3.37% AMD -3.25% Intel -1.57% Micron -3.52% Qualcomm -5.18% Broadcom -1.62%
8. ETF ด้าน Technology & Innovation ปรับตัวลดลง
ARK Innovation (ARKK) -3.80% ARK Fintech (ARKF) -3.83% PowerShares WilderHill Clean Energy (PBW) -1.81% iShares PHLX Semiconductor (SOXX) -3.20% SPDR S&P Kensho Smart Mobility (HAIL) -1.56% VanEck Vectors Video Gaming and eSports (ESPO) -1.86% Global X Cybersecurity (BUG) -0.88% และ KraneShares CSI China Internet (KWEB) -2.81%
9. หุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
Alibaba -0.11% Baidu -2.61% Coupang -1.42% Didi Global -3.92% iQIYI +0.40% JD -1.98% Luckin Coffee -0.25% NetEase -2.02% Pinduoduo -1.22% SEA -3.08% TAL Education -3.92% TSMC -2.31% Nio +1.33% Xpeng +0.85%
10. S&P500 VIX Index ผันผวนอยู่ในกรอบ 18.50-20.50 จุด และยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 20 จุดได้ โดยปิดที่ 19.33 จุด (+2.28%)
ด้าน Nasdaq 100 VIX ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยปิดที่ 26.40 จุด (+2.05%)
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าแรงต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 97.84 จุด (-0.57%)
ราคาทองฟื้นตัวได้ดีหลังผันผวนรุนแรงและหลุดระดับราคา 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันก่อนหน้า โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,933 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 33.32 บาทต่อดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI วิ่งอยู่ในกรอบแคบระดับ 104-108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 107 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
