31 มี.ค. 2022 เวลา 08:27 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⭐ Oppday AU Q4/2021 ⭐ : รายได้ Q4 188 ลบ. ลดลง 9% และทำกำไรได้ 13 ลบ. ลดลงถึง 24% YoY โดยปี 2022 มีแผนเน้นขยายเฟรนไชนส์ Mikka และขยายตลาดต่างประเทศ
Published: 29 Mar 2022
สวัสดีครับ แอดหายไปนานเลยเนื่องจากติดธุระนิดหน่อยครับ และวันนี้พบกับ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือใช้ตัวย่อในตลาดว่า AU ซึ่งประกอบธุรกิจหลักร้านขายขนมหวานภายใต้แบรนด์ “After You” โดยผลการดำเนินงานในปี 2021 สามารถสร้างรายได้ 629 ลบ. ลดลง 19% และทำกำไรได้ 4 ลบ. ลดลง 92%
รูปจาก FB: After You
🚩1. ลักษณะธุรกิจ
✔ ประกอบธุรกิจร้านขายขนมหวานภายใต้แบรนด์ “After You” เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟภายใต้แบรนด์ “Mikka” โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ
1. ร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม: รายได้จากขนมหวาน เครื่องดื่ม และสินค้าที่ขายในร้าน After you และ Mikka เฉพาะสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเท่านั้น
2. การขายสินค้าและวัตถุดิบ: รายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และขายผ่านสำนักงานใหญ่โดยตรง นอกจากนี้ยังรวมสินค้าที่รับจ้างผลิตโดยมีลูกค้าหลักๆเป็น เฟรนไชนส์ Mikka, Startbuck และ Air Aisa
3. การขายและการจัดงานนอกสถานที่: รายได้จากงานจัดเลี้ยง การออกบูธ Pop-up Store
ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์: รายได้จากค่าแรกเข้าและค่าธรรมเนียมของ After You และ Mikka
✔ รายได้หลักมาจากมาจากธุรกิจร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม กว่า 82% ซึ่งมาจาก After You 42 สาขา และ Mikka 12 สาขา
▪ ร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม: 82%
▪ ขายสินค้าและวัตถุดิบ: 7%
▪ งานนอกสถานที่: 9%
▪ แฟรนไชส์: 2%
◼️วัตถุดิบหลัก◼️
▪ แป้ง นํ้ำตาล ไข่ไก่ ช็อกโกแลต เนย นม และผลไม้
🚩2. ภาพรวมและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
◼️ภาพรวมปี 2021◼️
✔ รายได้จาการขาย 620 ลบ. ลดลง 19% โดยได้รับผลกระทบจากเดือน 5/2021 ในการจำกัดพื้นที่การนั่งภายในร้านเหลือ 25% และเดือน 7/2021, 8/2021 ยังโดนมาตรการปิดเมือง แก้เกมโดย Cloud Kitchen 21 สาขา นอกจากนี้สาขากลับมาเปิดเดือน 10/2021 แต่ Traffic ยังไม่กลับมา ส่วน Caterting Pop-Up Margin สูง เนื่องจาก Fixed Cost น้อย
▪ ร้านขนมหวานและเครื่องดื่ม: 514 ลบ., -14% Year-On-Year (YoY) ได้รับผลกระทบจาการปิดสาขาชั่วคราวจาดมาตรการรัฐใน Q2/2021, Q3/2021
▪ ขายสินค้าและวัตถุดิบ: 43 ลบ., +22% YoY จากการขายวัตถุดิบให้เฟรนไชส์ Mikka
▪ งานนอกสถานที่: 53 ลบ., +20% YoY จากการออกบูธใน Q2/2021, Q3/2021 แทนสาขาที่โดนปิดไป
▪ แฟรนไชส์: 10 ลบ., +233% YoY มาจากค่าธรรมเนียมและค่าแรกเข้าของเฟรนไชส์ Mikka
✔ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) 57% ลดลง 4ppt (Percentage Point) จากยอดขายที่ลดลงจากการปิดสาขาชั่วคราว และยอดขายแบบ Delivery สูงขึ้นซึ่งจะมี Margin ลดลงจากค่า Packaging และการขายวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์ Miika เพิ่มขึ้นซึ่งมี Margin ลดลงเช่นกัน
✔ ค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้ (SG to Sale) เพิ่มขึ้น 1ppt เป็น 34% หลักๆมาจากรายได้ที่ลดลงมากกว่าค่ายใช้จ่ายที่ลดได้ โดยบริษัทลด SG ลดลง 15% จากค่าเช่าที่ลดลงตามสาขาที่ปิดชั่วคราวและจำนวนพนักงานประจำที่ร้านลดลง ✔ ค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้ (A to Sale) เพิ่มขึ้น 2.5ppt เป็น 21.5% จากค่าบริหารที่ลดน้อยกว่ารายได้ โดยค่าบริหารลดลง 9% จากค่าใช่จ่ายพนักงานและภาษีโรงเรือน
✔ กำไรสุทธิลดลงเหลือ 4 ลบ. ลดลง 93% คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ที่ 0.6% ลดลง 6.5ppt
◼️ภาพรวมปี Q4/2021◼️
✔ รายได้จาการขาย 188 ลบ. ลดลง 9% จากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง การระบาดของโควิดโอมิครอน และจำนวนร้านสาขาขนมหวานที่ลดลง
✔ GPM 60% ลดลง 1ppt (Percentage Point) และแม้ว่าจะลดจำนวนพนักงานหน้าร้านลดลงและค่าเช่าลดลงจากโอมิครอน แต่ SG to Sale ก็ยังลดลง 2ppt เหลือ 30% ส่วน A to sale เพิ่มขึ้น 3ppt เป็น 21% จากค่าใช้จ่ายในการปิดสาขาระหว่างปีและสำรองด้อยค่าสินทรัพย์สาวรสำหรับสาขาที่คาดว่าจะปิดในต้นปี 2022 อีก 3 ลบ. ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 24% YoY เหลือ 13 ลบ. และ NPM ลดลง 1ppt เหลือ 7%
🚩3. แผนงานในอนาคตและการเติบโต
◼️กลยุทธ์ 2022◼️
✔ ออกสินค้าและขนมใหม่สำหรับ Takeaway และ Dine-in
✔ เน้นการเปิดสาขาไปต่างประเทศ (ตลาดจีน)
✔ แปลงพื้นที่การขายบางส่วนเป็น Marketplace และทำ Market Shop โดยลดขนาดร้านให้เล็กลงเหลือ 2-4 โต๊ะ ซึ่งจะเน้นใน Residential Area โดยการลงทุนต่อสาขาจะเหลือ ¼ - ⅕ ของหน้าร้านปกติ ซึ่งสาขาแรกเปิดไปแล้วที่ประดิพัทธ์ และตอนนี้กำลังวางแผนเปิดเพิ่มในปั้ม PTT นอกจากนี้ยังเน้นทำ Pop-up Store มากขึ้น
✔ เน้นแฟรนไชนส์ Mikka ซึ่งตอนนี้เปิดแล้ว 97 สาขา และอยู่ใน Pipeline อีก 67 สาขาและตั้งเป้าเพิ่มอีก 200 สาขา โดยจะรุกเข้าไปสาขาต่างจังหวัดมากขึ้น
◼️อื่นๆ◼️
✔ มะยงชิดขายดีมากจนผลไม้ไม่พอ, เน้น Frozen Dessert, ออก marketing สำหรับหน้าร้อนเป็น After You on the beach
✔ ฮ่องกงได้รับผมกระทบกับโอมิครอนรุนแรงมาก โดยนั่งได้โต๊ละ 2 คนและร้านต้องปิด 6 โมงเย็น โดยยอดขายได้รับผลกระทบ และเน้น Delivery มากขึ้นแทน
🚩4. ข้อมูลอื่นๆ จาก Section Q&A
◼️การเติบโต◼️
✔ Same-Store Sale Growth (SSSG) 3 เดือกของปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 8%
✔ คาดว่าจะใช้เวลาหลักปีที่ยอดขายจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2019 ซึ่งอยู่กับหลายตัวแปร เช่น เศรษฐกิจ โควิด การท่องเที่ยว เป็นต้น
✔ SSSG ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 15%
◼️อื่นๆ◼️
✔ ได้รับผลกระทบที่ต้นทุนอาหารสูงขึ้นแต่ไม่เยอะมาก
✔ สัดส่วน Dine in ขึ้นมาเป็น 55%
✔ กำลังศึกษาการเปิด Pop-Up Store ตามมหาวิทยาลัย
✔ After you กำลังจะออกแบรนด์ใหม่ โดยเป็นร้านที่เกี่ยวกับผลไม้
✔ สินค้าใน marketplace เป็นสินค้าฝากขาย
✔ Mikka เริ่มกำไรแล้ว โดยจะเริ่มเห็นผลชัดที่สาขา 200
✔ แต่ Mikka ยอดขายไม่ตามเป้า เช่น จากร้านที่อยู่ใกล้ Office ขายไม่ดีจาก WFH
✔ ไม่มีนโยบายการปรับราคาขายสินค้าเดิมลง โดยจะเลือกทำสินค้าใหม่ให้มีราคาขายที่ลดลง
💡 Key Takeaways & Ideas
▪ แอดชอบ MD&A ของ AU มากนะครับ เนื่องจากบอกรายละเอียดของค่าใช้จ่ายซึ่งจะทำให้เห็นภาพมากขึ้น โดยแต่ละบริษัทจะไม่เหมือนกันนะครับขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและการตีความในการลงบัญชี
- ต้นทุนขาย: ต้นทุนขายหลัก คือ วัตถุดิบ ส่วนที่เหลือจะมี บรรจุภัณฑ์ สินค้าสำเร็จรูป วัสดุและอุปกรณ์ เงินเดือนและค่าแรงพนักงานฝ่ายผลิต ค่าเสื่อมโรงงาน อุปกรณ์เครื่องครัวเครื่องใช้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับฝ่ายผลิต
- ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย: พนักหน้าร้าน ค่าเช่าร้าน ค่าเช่าอุปรกรณ์ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการตลาด และค่าเสื่อมของอุปกรณ์ในสาขา
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: เงินเดือนพนักงานสำนักงานใหญ่ ค่าซ่อมแซม ค่าที่ปรึกษา ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย การขาดทุนจากการยกเลิกสัญญาเช่า ค่าเช่าสำนักงาน โรงงานและคลังเก็บสินค้า ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภาษีอากร
▪ อันดับแรกต้องรอดูว่ารายได้จะกลับมาได้เท่ากับก่อนโควิดได้เมื่อไหร่ ซึ่งสิ่งที่ต่างกับโควิดแบบเห็นได้ชัด คือ เรื่องของเฟรนไชนส์ที่บริษัทเน้นมากขึ้น ส่วนการมองรายได้ของ AU แอดให้ข้อสังเกตุว่าสินค้าค่อนข้างมีราคาสูง โดยส่วนตัวแอดลองสังเกตุตัวเองว่าแอดกินน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ยอมรับเลยว่าเรื่องราคา ซึ่งแอดเจอร้านอื่นที่กินทดแทนให้หายอยากได้แต่แทนเป๊ะๆหรือดีกว่ายังไม่เจอครับ อีกสินค้า AU นอกจากราคาสูงแล้วและถ้ากินคนเดียวค่อนข้างยากถ้าไม่ได้ไปกินกับคนในครอบครัวหรือสนิทๆจริงๆ แอดยังกลัวเรื่องโอมิครอนอยู่ (คำถาม คือ อ่านแล้วเป็นเหมือนแอดรึเปล่าครับ แอดอาจจะเป็นคนส่วนน้อยก็ได้)
▪ GPM จากรายได้เฟรนไชส์และการขายที่เป็น Non-Dine-in จะมี Margin จะต่ำลง ซึ่งถ้าจะให้ GPM ไปยืนอยู่ระดับก่อนโควิดที่ 65% เป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายมาก แต่ยอดขายจาก Pop-Up Store จะมี Margin ที่สูงกว่า ซึ่งถ้า Pop-Up Store ขายดีก็น่าจะดึงๆ Margin พอได้อยู่
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบ Content ของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
Reference:
▪ MD&A บริษัท FY/2021
▪ รูปภาพจาก FB: After You
สามารถฟัง Oppday ตัวเต็มได้ที่ ▶️
#ลงทุนลงดอย #OpportunityDay #OppdayQ42021 #หุ้นร้านขนมหวาน #AU
โฆษณา