การคิดว่าตัวเอง “ไม่เก่ง” ไม่ใช่เรื่องไม่ดีเสมอไป
ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash
แน่นอนว่าเราต้องมีเรื่องบางเรื่องที่เราคิดว่า เก่ง ในเรื่องนั้น ตรงกันข้ามกันเราก็ยังมีเรื่องบางเรื่องที่เรารู้สึกว่า เราไม่เก่ง ไม่มั่นใจในเรื่องนี้
.
ส่วนมากแล้วเรื่องที่เราเก่ง จะทำให้เรามีความมั่นใจที่มากเกินไป จนกระทั่งมันกลับกลายเป็นจุดบอดของเราไปโดยไม่ตั้งใจ
.
อย่างเช่น การสอบเราจะเคยเห็นคนที่มั่นใจมากๆ ทำข้อสอบเสร็จ แล้วส่งทันทีโดยไม่มีการคิดทบทวนคำตอบอีกครั้งก่อนส่ง ส่วนคนที่ไม่ค่อยมั่นใจเมื่อทำข้อสอบเสร็จ ก็กลับไปทบทวนคำตอบของตัวเองอีกครั้ง
.
เมื่อผลสอบออกมา มันกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ คนที่มั่นใจมากและคิดว่าตัวเองเก่ง มีคะแนนสอบน้อยกว่า คนที่มั่นใจระดับหนึ่งแต่ไม่คิดว่าตัวเองเก่ง
.
นั่นเพราะว่า การที่เรามั่นใจมากจนเกินไป จนทำให้เราคิดว่าเราเก่งแล้ว จะคอยขัดขวางไม่ให้เราได้มีโอกาส ‘คิดทบทวน’ สิ่งที่เราคิดว่าเรารู้
.
แต่การที่เราคิดว่าตัวเองไม่ค่อยเก่ง หรือ ไม่เก่ง จะเปิดโอกาสให้เราได้ทดลอง เรียนรู้ ในสิ่งที่เราไม่รู้ เพื่อให้ได้รู้มากขึ้น
.
อดัม แกรน นักจิตวิทยาชื่อดัง ผู้เขียน Think Again (แปลไทย: คิดแล้ว, คิดอีก) เล่าไว้ว่า ในชั้นเรียนเขาได้มีโอกาสพูดคุยกับนักศึกษาที่เป็นเซียนหมากรุกตั้งแต่ยังเด็ก โดยเขาพบว่า
.
แม้นักศึกษาคนนี้จะมีความสามารถที่สูง แต่ลึกๆแล้วพวกเขาก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจในความสามารถตัวเองอยู่ตลอดเวลา (คิดว่าตัวเองไม่ได้เก่ง) ซึ่งแท้จริงแล้วการคิดแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ
.
การคิดว่าตัวเองไม่เก่งไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่มันแสดงถึง ความถ่อมตัวที่ดี ที่ช่วยให้เราได้เรียนรู้มากขึ้น ได้พัฒนาความสามารถตัวเองให้มากขึ้น
.
แล้วประโยชน์ของการคิดว่าตัวเองไม่ค่อยเก่ง หรือ ไม่เก่ง คืออะไรกันละ ?
.
ข้อแรก ‘จูงใจให้เราทำงานหนักขึ้น’
.
แรงจูงใจนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นตัดสินใจลงมือเรียนรู้อะไรบางอย่าง แต่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณลงมือทำไปแล้วระยะหนึ่ง มันจะทำให้เราเดินหน้าไปจนสุดทาง
.
ความมั่นใจที่มากเกินไป จะทำให้เรานิ่งนอนใจ เพราะ เราจะไม่นึกถึงว่าจะทำให้ใครผิดหวังบ้างหรือเปล่า แต่เมื่อเรารู้สึกว่าเราไม่เก่ง
.
เราย่อมคิดว่ามีบางอย่างที่เราต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เพื่อที่จะทำให้ใครบางคนรู้สึกภูมิใจในตัวของเรา
.
.
ข้อสอง ‘จูงใจให้ทำงานฉลาดขึ้น’
.
คนที่เป็นมือใหม่จะมีทัศนคติอย่างหนึ่ง ซึ่งต่างจากคนที่เชี่ยวชาญในเรื่องเดียว เขาจะคิดทดลองทำสิ่งต่างๆ ตั้งคำถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยมากมาย
.
ด้วยความที่ไม่กลัวผิดพลาด จะส่งผลให้เรากล้าตัดสินใจทดลองมากมาย ตั้งคำถามในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม จึงมีโอกาสที่จะได้พบคำตอบที่ดีขึ้น
.
ซึ่งหากเราเชี่ยวชาญมาแล้วระดับหนึ่ง เรามักจะตกหลุมของการยึดติดในประสบการณ์เดิมมากกว่า นั่งจึงเป็นกับดักที่ทำให้เราไม่ได้มีโอกาสคิดทบทวนสิ่งที่ตัวเองรู้จริงๆ
.
.
ข้อสาม ‘เราจะเป็นนักเรียนรู้ที่ดีขึ้น’
.
เมื่อเราไม่มั่นใจในความสามารถ ความรู้ของเรา จะทำให้เราไม่หลงละเลิง ส่งผลให้เราพยายามแสวงหาความเข้าใจอย่างแท้จริงจากคนอื่นมากขึ้น
.
เพราะ เราจะเรียนรู้ได้ดีขึ้น เมื่อเราคิดกับตัวเองอยู่เสมอว่า เรายังไม่เก่ง และเรายังมีเรื่องอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ จะทำให้คณเป็นนักเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
.
เขียนและเรียบเรียงโดยเพจ #shareแชร์
“เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นในทุกวัน แล้วเรามาลุยไปด้วยกัน”
.
อย่าลืมเข้าไปกด “ติดตาม” กันไว้ทุกช่องเลยนะครับ
.
Facebook >> https://cutt.ly/LOujyoz
Instragram >> https://cutt.ly/5OujanT
Blockdit >> https://cutt.ly/GOujjZ1
.
ขอบคุณเนื้อหาจาก หนังสือ Think Again ‘คิดแล้วคิดอีก’
.
#ThinkAgain
#คิดแล้วคิดอีก
#หนังสือ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
