Ripple เเละ XRP คืออะไร? เเตกต่างกันไหม เเละ ทำงานอย่างไร?
Ripple ถือว่าเป็นโปรเจคที่มีอยู่มาเเล้วนานมากๆ เเต่หลายๆคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจใน Ripple กับ XRP นั้นเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร.
เอาจริงๆเเล้วไอเดียหรือแนวคิดของ Ripple เกิดขึ้นมาก่อน BTC หรือบิตคอยน์ เสียอีก.
โดยจุดเริ่มต้นของ Ripple นั้นต้องย้อนกลับไปในปี 2004 ที่ผู้ก่อตั้งชาวเเคนาดาอย่าง Ryan Fugger ได้พัฒนา RipplePay ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำให้ผู้คนโอนเงินอย่างปลอดภัยสู่เมมเบอร์ของออนไลน์คอมมูนิตี้ผ่านเครือข่ายทั่วโลก.
เเต่ก็ต้องใช้เวลาอีกตั้งหกปีกว่าระบบเพย์เม้นท์บนบล็อกเชนอย่าง XRP เเละบริษัท fintech อย่าง Ripple จะถือกำเนิด.
XRP เป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่ วิ่งอยู่บน XRP ledger ซึ่งเป็นโอเพ่นซอร์ส, บล็อกเชนที่ถูกพัฒนาโดยนักโปรแกรมเมอร์สามคนนาม Arthur Britto, Jed McCaleb เเละ David Schwartz โดยเป้าหมายของบล็อกเชน XRP อันนี้ถูกตั้งไว้ให้เพื่อเเก้ความไร้ประสิทธิภาพของการโอนเงินข้ามพรมเเดนเเละปัญหาในระบบเเบงค์กิ้งทั่วไป.
Ripple กับ XRP ถือว่ามีความสอดคล้องกัน เเต่ทั้งสองก็ยังถือว่าเป็นหน่วยงานที่เเตกต่างกัน. Ripple เป็นบริษัทฟินเทค (fintech)ที่สร้างผลิตภัณฑ์การชำระเงินทั่วโลกเเละเป็นคนพัฒนาระบบการธุรกรรมของ XRP ที่ถือว่า decentralized หรือเป็นระบบที่ไร้ศูนย์กลาง. พูดง่ายๆ Ripple เป็นบริษัทที่ยัง centralized เเต่เขาเป็นคนสร้างระบบขับเคลื่อนให้กับการธุรกรรมของ XRP ที่ decentalized.
อย่างไรก็ตามทั้ง Ripple เเละ XRP จำเป็นต้องใช้บล็อกเชนสาธารณะเพื่อที่จะขับเคลื่อนตัวของมัน.
เเต่คำถามคือที่นี้ Ripple กับ XRP มันทำงานกันอย่างไร?
ก่อนอื่นเลย Ripple จะมีสองส่วนประกอบที่สำคัญซึ่งก็คือ Ripple เเละ RippleNet
ซึ่งสององค์ประกอบนี้จะมีน่าที่ให้ระบบการชำระเงินรวมตามเวลาจริงเเละช่วยในการสื่อสารและช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถส่งและรับการชำระเงินได้อย่างราบรื่นผ่านแพลตฟอร์มแบบกระจายของ Ripple.
Ripple เป็น ระบบการชำระเงิน เเละ เครือข่ายเเลกเงินตราที่สามารถโพรเซสธุรกรรมได้ทั้วโลกโดยเป้าหมายหรือจุดมุ่งมั่นของ Ripple ก็คือการที่เขาเป็นตัวกลางที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ทำธุรกรรมทั้งสองฝ่าย.
ในทางกลับกัน XRP เป็นคริปโตเคอร์เรนซี เเละมันถูกใช้ในการสนับสนุนการธุรกรรมบน เครือข่ายของ Ripple.
XRP บล็อกเชนนั้นถือว่าทำงานเเตกต่างจากของคริปโตอื่นอยู่บ้างเพราะคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆนั้นจะมีการทำธุรกรรมบน ledger เปิดเเละ การยืนยันธุรกรรมจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนมาแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ก่อน เเต่สำหรับ XRP ทุกคนสามารถ
ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ตรวจสอบความถูกต้องได้ เเละในนั้นจะมีโหนดที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกยืนยันธุรกรรมเองได้โดยจะดูจากการวิเคราะห์ว่าใครมีโอกาสจะโกงน้อยที่สุด.
โดยในรายการเริ่มต้นจะมีผู้ตรวจสอบความถูกต้อง 35 คนในระบบซึ่งทาง Ripple จะเป็นคนอนุมัติว่าผู้ตรวจสอบคนไหนจะได้ตรวจสอบธุรกรรมซึ่งประกอบด้วยโหนดตรวจสอบความถูกต้องร่วมหกโหนด. เเต่เอาจริงๆเเล้วผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะออกจะ default list หรือรายการเริ่มต้นได้ เเละเขายังสามารถสร้างรายชื่อหรือ list ของผู้ตรวจสอบเองที่น่าเชื่อถือเองได้ นี่หมายความว่าเครือจ่ายจะยังสามารถอนุมัติธุรกรรมได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งบริษัท Ripple.
ถ้ามีธุรกรรมใหม่เกิดขึ้น ผู้ตรวจสอบหรือ validator จะต้องอัปเดต ledger ทุกๆ 3-5 วินาทีเเละต้องทำให้ ledger นั้นๆเหมือนหรือตรงกับ ledger อื่นๆด้วย เพราะถ้ามันไม่ตรงกัน ทุกอย่างก็จะหยุดเพื่อที่จะตรวจสอบว่าอะไรผิดพลาดไป วิธีนี้จะทำให้ Ripple สามาารถเพิ่มความปลอดภัยเเละทำให้การตรวจสอบธุรกรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
XRP ถือว่าเป็นเหรียญที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเร็ว เเละมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำเมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ. เเต่ข้อเสียหลักของ XRP น่าจะมีเรื่องของความที่มันยังไม่ได้ decentralized เท่าเหรียญอื่นๆ หรือพูดได้เลยว่าจริงๆ เเล้ว XRP นั้นยังถือว่าถูก centralized เพราะว่าต้องพึ่งผู้ตรวจสอบธุรกรรม เเถมในปี 2020, ทาง SEC ก็ได้ยื่นฟ้องทาง Ripple โดยกล่าวว่า Ripple สามารถเลือกที่จะปล่อยเหรียญ XRP ออกมาได้เมื่อไรก็ได้เพราะฉะนั้นทางบริษัทน่าจะลงทะเบียนมันในนาม security.
คริปโตเคอร์เรนซีมีเสน่ห์เพราะว่ามันเป็นระบบไร้ศูนย์กลาง เเต่ XRP นั้นอาจจะเเตกต่างจากคริปโตอันอื่นๆ จึงเเนะนำให้ใครที่อยากลงทุนในเหรียญนี้ลองศึกษามันให้ดีๆก่อน.
*การลงทุนมีความเสี่ยงนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ
เขียนโดย: Thursday16.
อ้างอิง:
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
