ทำไม Kerry Express ถึงเป็นผู้ให้บริการขนส่งพัสดุเอกชน ที่สามารถยืนหนึ่งได้ ในสมรภูมิสงครามราคา
รู้ไหมว่า ปี 2564 ที่ผ่านมา
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX
มีจำนวนยอดการขนส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้นถึง 30%
แม้จะอยู่ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด
ทั้งผู้เล่นรายเก่า รายใหม่ในตลาด ที่ทำสงครามราคาอย่างหนัก
และพฤติกรรมผู้บริโภค ที่บางส่วนเริ่มกลับไปช็อปปิงในร้านค้าและห้างร้านต่าง ๆ แทนการช็อปออนไลน์
แล้ว Kerry Express ยืนหยัดและปรับตัวอย่างไร ในช่วงที่ผ่านมา ?
ต้องบอกว่า แม้ในปัจจุบัน จะมีผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุมากมายในท้องตลาด
แต่หากนึกถึงผู้เล่นหลักที่มีการบริการที่น่าเชื่อถือในราคาที่เหมาะสม
Kerry Express ก็น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ในใจของใครหลายคน
Kerry Express เป็นบริษัทจัดส่งพัสดุด่วน “เจ้าแรก”
ที่นำเทคโนโลยีการเก็บเงินปลายทาง และการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน มานำเสนอเพื่อให้บริการคนไทยทั่วประเทศ
รวมถึงบริการ “Kerry Sameday” เพื่อจัดส่งพัสดุภายในวันเดียวกัน
ซึ่งมีอัตราการจัดส่งสำเร็จภายในวันเดียวสูงถึง 99.99%
และยังมีบริการ “EasyShip” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างข้อมูลพัสดุ ติดตามสถานะพัสดุ รายงานการจัดส่ง และรายงานการเก็บเงินปลายทาง
เมื่อไม่นานมานี้ Kerry Express ก็เปิดตัวบริการใหม่
จัดส่งด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ หรือ “KERRY COOL”
โดยร่วมทุนกับกลุ่มเบทาโกร ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารคุณภาพชั้นนำของประเทศไทย
โดย KERRY COOL คือแพลตฟอร์มจัดส่งพัสดุด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ
สินค้าสำหรับการจัดส่ง เช่น อาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง อุปกรณ์เวชภัณฑ์ยา หรือเครื่องสำอาง
และเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 ที่ผ่านมา
Kerry Express ก็เพิ่งจับมือกับ CRC ผู้นำธุรกิจค้าปลีกของไทย
สร้างแพลตฟอร์มจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่ หรือ “KERRY XL”
โดย KERRY XL คือแพลตฟอร์มการจัดส่งด่วนสินค้าขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
เช่น ต้นไม้ขนาดใหญ่ อุปกรณ์ออกกำลังกาย เฟอร์นิเชอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง
นอกจากนั้น Kerry Express ยังมี “KERRY WALLET”
กระเป๋าเงินที่รวบรวมช่องทางการชำระเงินออนไลน์ของทั้ง KEX และพันธมิตร
พร้อมด้วยการบริการทางการเงิน ที่เชื่อมโยงการบริการของบริษัทกับผู้ใช้บริการ
ที่น่าสนใจก็คือ มูลค่าธุรกรรมในระบบการจ่ายเงินออนไลน์ของ Kerry Express เติบโตเกือบ 70% จากปีก่อนหน้า ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
เพราะ Kerry Express ยังขยายจุดให้บริการอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับความต้องการ ครอบคลุมไปจนถึงระดับชุมชนและหมู่บ้านทั่วไทย ทั้งร้านบริการรับส่งพัสดุของตัวเอง และผ่านตัวแทนไปรษณีย์เอกชน ที่เรียกว่า 4PL (Fourth-party logistics)
โดย ณ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565
Kerry Express มีจุดให้บริการรวมกันกว่า 30,000 จุด ทั่วประเทศไทย
สำหรับเรื่องคุณภาพในการบริการ
Kerry Express ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากหน่วยงานภายนอกมากมาย
เช่น Marketeer No.1 Brand Thailand 4 ปีซ้อน
รวมถึงรางวัล Thailand’s Most Admired Brand 2021
ด้วยอัตราการส่งตรงเวลาที่สูงกว่า 97%
และการตีกลับของพัสดุที่ต่ำกว่า 1.2%
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ สะท้อนคุณภาพด้านการบริการ และความสามารถในการแข่งขันที่สูงของบริษัท
ปัจจุบัน Kerry Express มีค่าจัดส่งพัสดุ เริ่มต้นเพียงแค่ 19 บาท
และปรับลดอัตราค่าบริการเก็บเงินปลายทาง จากเดิม 3% เหลือ 2.4%
ซึ่งพอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้มีลูกค้าสนใจ เริ่มหันมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
และมีมูลค่าธุรกรรมการเก็บเงินปลายทาง แตะ “หนึ่งหมื่นล้านบาท” ในเดือนธันวาคม ปี 2564
โตขึ้น 55% จากปีก่อนหน้า
โดยในช่วงที่ผ่านมา Kerry Express ได้นำเทคโนโลยีและการบริการที่หลากหลายนำเสนอแก่ลูกค้า
สวนทางกับค่าบริการที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการบริหารต้นทุน
ให้เครือข่ายการจัดส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสู่ลูกค้าได้ตรงเวลา
สรุปภาพรวมคือ Kerry Express
เน้นการบริการที่มีคุณภาพเหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยราคาที่ไม่แตกต่าง
และมุ่งขยายบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยการมีเครือข่ายพันธมิตรที่ดีและครอบคลุม
ซึ่งนั่นก็คือการสร้างความแตกต่าง
ให้ลูกค้าต้องนึกถึงชื่อ “Kerry Express” ไม่ว่าเวลาจะส่งของอะไรก็ตาม..
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
