2 เม.ย. 2022 เวลา 02:42
กรณีศึกษาของ “เหริน เจิ้ง เฟย” ชายผู้มีชีวิตที่ยากลำบากเกินกว่าคำว่าขัดสน สู่มหาเศรษฐีเจ้าของหัวเว่ย
หัวเว่ย เป็นแบรนด์เทคโนโลยีที่มาจากเซิ่นเจิ้น ประเทศจีน เมื่อพูดถึงเซิ่นเจิ้น เราจะนึกถึงสินค้าลอกเลียนราคาถูกไร้คุณภาพ ที่ผู้ขายหวังขายเอากำไรไปเฉยๆ
รู้ไหมว่า ปัจจุบันเซิ้นเจิ้นไม่ได้เป็นเมืองแห่งการ Copy อีกต่อไป แต่มันคือเมืองอันเป็นที่ตั้งของ “หัวเว่ย” บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก
ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน ถ้าพูดถึงบริษัทระดับโลก เราจะนึกถึงแต่บริษัทพลังงานที่มาจากชาติตะวันตกและสหรัฐ แต่หัวเว่ยจากจีนที่เพิ่งผงาดจากมดมาสู่มังกรในช่วง 10 - 20 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่เป็นสัฐชาติจีนรายแรกเลยก็ว่าได้
ข้อมูลปี 2020 หัวเว่ยมีรายได้มากกว่า 891.37 พันล้านหยวน หรือมากกว่า 4.68 ล้านล้านบาท
แต่หัวเว่ยจะกลายเป็นบริษัทระดับโลกไม่ได้ถ้าไม่มี “เหริน เจิ้ง เฟย” แล้วเขาคนนี้เป็นใคร มีความน่าสนใจแค่ไหน เทคฮีไร่สรุปมาให้แล้ว..
เหริญเจิ้งเฟย เกิดในปี 1944 ที่อำเภอเจิ้นหนิง เขตอานซุ่น เมืองกุ้ยโจว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นเขตภูเขา เป็นที่พักอาศัยของชนกลุ่มน้อยฐานะยากจน
พ่อของเจิ้งเฟยชื่อว่าเหรินโมซุ่น เป็นคนเฉลียวฉลาด แต่มีอุดมการณ์รักชาติสูง อุทิศตัวเองให้กับการศึกษาจนได้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมตูเหวิน ส่วนภรรยาก็เป็นครูสอนคณิตศาสตร์เช่นกัน
เหริญเจิ้งเฟย มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ในช่วงวัยเด็ก ตรงกับช่วงเวลาที่จีนกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก เนื่องจากพิษสงครามกับญี่ปุ่นที่เพิ่งรามือกันไปหมาดๆ แม้ครอบครัวเหรินจะเป็นครูระดับสูงในสายตาของชาวจีน แต่ในความเป็นจริง เงินเดือนอันน้อยนิดของพ่อกับแม่ไม่พอจะเลี้ยงยาไส้ทั้ง 9 ชีวิต
เจิ้งเฟยเป็นพี่ชายคนโต ทำให้เขาต้องรับผิดชอบหลายสิ่งหลายอย่างกับน้องๆ ครอบครัวเหรินจะกลุ้มใจอยู่เสมอ เมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายค่าเทอมให้ลูกๆ ทั้ง 7 คน ผู้เป็นแม่ไม่เพียงแค่นอนก่ายหน้าผาก แต่ต้องตระเวนยืมเพื่อบ้านคนละหยวนสองหยวนเพื่อการศึกษาของลูก
ชีวิตของครอบครัวเหรินลำบากมาก ผ้าห่ม 1 ผืน จำเป็นต้องใช้กับลูก 3 คน ซึ่งมันไม่เพียงพอจะสร้างไออุ่น ใต้ผ้าปูเก่าๆ จึงต้องยัดฟางข้าวเข้าไปเพื่อสร้างความอบอุ่น
1
ความยากจนทำให้เหรินเจิ้งเฟยไม่เคยสวมใส่ชุดนักเรียน แม้เพื่อนจะล้อให้เขาไปขอตังค์แม่มาซื้อใหม่ แต่มันก็ไม่สามารถทำได้ เพราะจะไม่มีเงินซื้ออาหารให้น้องอีกหลายคน
ช่วงใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัย เจิ้งเฟยอ่านหนังสือ และประทังความหิวโหยโดยการเอารำข้าวมาคลุกกับผักแล้วย่างกิน
1
หลังเข้ามหาวิทยาลัย แม่ให้เสื้อเชิ้ตสองตัวกับเจิ้งเฟย มันคือสิ่งที่ไปกระตุกต่อมน้ำตาของเขามาก เพราะเขารู้ดีว่าน้องๆ อาจต้องอดอาหารไปอีกหลายมื้อ
1
ความขัดสน ทำให้เหรินเจิ้งเฟยได้ลิ้มรสความทุกข์ยากของโลก ได้เรียนรู้ความหมายของการมีชีวิตต่อไป สิ่งที่เขาได้จากความยากจนคือการรู้จักประหยัดมัธยัสถ์ แต่ไม่เห็นแก่ตัว
3
ข้ามมายังยุคหัวเว่ยถือกำเนิดในปี 1994 เจิ้งเฟยสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นในห้องทำงานเล็กๆ ด้วยเงินทุนไม่กี่หยวนและคนเพียงแค่ 6 คน แต่แค่ 3 ปีก็ก้าวขึ้นมาสู่บริษัทเทคแนวหน้าของจีน
ในปี 1997 เจิ้งเฟยจำเป็นต้อง ร่วมทุนทำธุรกิจเพื่อขยายตลาดแถบลาตินอเมริกา หลังจากลงนามสัญญาที่บราซิล หุ้นส่วนจัดแจงให้เขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ติดตามมา ไปท่องเที่ยวในป่าเขตร้อนแอมะซอน
2
ก่อนออกเดินทาง บรรดาเจ้าหน้าที่เหล่านั้นพากันเลือกร้องเท้าแบรน์เนมดีๆ เพื่อหวังลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในป่าให้น้อยที่สุด แต่เจิ้งเฟยเลือกรองเท้ายางราคาถูกๆ พอออกจากป่า ทุกคนทิ้งรองเท้าแบรนด์เนมที่เปื้อนโคลนลงถังขยะ แต่เหรินเจิ้งเฟยกลับขัดล้างรองเท้ายางราคาถูกคู่นั้นจนสะอาด ก่อนจะผึ่งให้แห้งแล้วแพ็คกลับประเทศจีน
2
หลังจากนั้นมา ในทุกครั้งเวลาที่บริษัทหัวเว่ยไปดูงานหรือพาลูกค้าไปเที่ยว บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงรอบตัวเจิ้งเฟย ไม่มีใครกล้าซื้อของแพงอีกเลย ทุกคนจะเลือกแต่ของจำเป็น ราคาถูกแต่มีคุณภาพ
6
นอกจากความมัธยัสถ์ เอกลักษณ์ของเหรินเจิ้งเฟยอีกอย่างคือเขาไม่ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินและความร่ำรวย เขาเลือกที่จะถือหุ้นหัวเว่ยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงรอบตัว ถือรวมกัน 3 เปอร์เซ็นต์
2
สิ่งที่น่ากลัวคือพนักงงานในบริษัทสามารถรวมหัวไล่เหรินออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เจิ้งเฟยกลับเคยพูดว่า “ถ้าพวกเขารวมหัวกันไล่ผมออก ผมว่าน่าจะดี เพราะนี่แสดงว่าบริษัทของเรามีวุฒิภาวะ”
1
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผู้คนวิสัยทัศน์ดีนับพันนับหมื่นที่เข้ามาทำงานให้กับหัวเหว่ย ต่างให้การเคารพนับถือเหรินเจิ้งเฟยในนามผู้ก่อตั้ง ที่หวังเพียงแต่ให้ ไม่ใช่กอบโกย
2
และความไม่เห็นแก่ตัวของเหรินเจิ้งเฟยก็ได้มาจากพ่อแม่ที่เป็นครูผู้มีแต่ให้ ซึ่งเจิ้งเฟยเคยกล่าวไว้เองเลยว่า “ความไม่เห็นแก่ตัวของผมได้มาจากพ่อแม่ สาเหตุที่หัวเว่ยประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความไม่เห็นแก่ตัวของผม..”
2
Source
-Huawei จากมดสู่มังกร โดย หยางเช่าหลง
โฆษณา