2 เม.ย. 2022 เวลา 04:32 • หนังสือ
เพรงพรรณ 05: ราคา ไม่เท่ากับ มูลค่า
“มีอะไรในโลกนี้ที่เงินไม่สามารถซื้อได้บ้าง”
ที่เริ่มต้นด้วยคำถามเช่นนี้ไม่ใช่อะไรนะคะ เพราะว่าวันนี้เพรงพรรณอยากจะขอแนะนำนวนิยายสายอบอุ่นละมุนหัวใจ กับเรื่อง “ราคา ไม่เท่ากับ มูลค่า” ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายค่ะ
ที่มา: naiin.com
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่า “เอเชีย” ซึ่งเป็นลูกคนรวยแต่เติบโตมาพร้อมกับความโดดเดี่ยว ที่บ้านของเอเชียไม่ได้มีความอบอุ่นเท่าไรนักเพราะพ่อแม่ของเอเชียต้องทำงานตลอด ก็เลยไม่มีเวลามาสนใจลูก ได้แต่ใช้เงินในการหล่อเลี้ยงให้เอเชียเติบโตมา ในโอกาสพิเศษ ๆ อย่างเช่น วันเกิดของเอเชีย ของขวัญที่ได้รับแทนที่จะเป็นการได้อยู่ฉลองพร้อมหน้ากับพ่อแม่ ก็จะเป็นการโอนเงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีมาให้ และเป็นเช่นนี้ตลอดมาในช่วงชีวิตยี่สิบปีแรกของเขา ไม่มีอะไรที่เอเชียอยากได้แล้วไม่ได้ ยกเว้นเรื่องของความรักความเข้าใจ
ด้วยเหตุนี้ เอเชียจึงถูกหล่อหลอมมาให้มีความคิดว่า สำหรับเขาแล้วราคาคงไม่มีความหมาย ในเมื่อเงินมากมายของเขาซื้อได้ทุกสิ่ง แม้กระทั่งเพื่อนหรือคนควง แต่เอเชียก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังรู้สึกว่างเปล่ายิ่งกว่าใคร ๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง เอเชียได้บังเอิญพบกับปิญชาน์ เด็กหนุ่มที่เหมือนจะอยู่กันคนละโลกกับเขา ปิญชาน์เป็นเด็กมัธยมปลายที่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยเนื่องจากต้องฝ่าฟันขวนขวายไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะว่าครอบครัวของปิญชาน์นั้นพ่อแม่เสียไปตั้งแต่เด็ก ๆ มีเพียงพี่ชายเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียว และฐานะทางการเงินที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวย เพราะทุกวันนี้ปิญชาน์ยังต้องทำงานพิเศษเพื่อแลกกับเงินมาใช้เป็นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัวเพื่อแบ่งเบาภาระของพี่ชาย ไม่ได้มีพ่อแม่ประเคนเงินให้ในทุกครั้งที่ต้องการเหมือนใครคนอื่นเขา แต่ข้อจำกัดนี้ก็ไม่ได้ทำให้ปิญชาน์รู้สึกขาดแต่อย่างใด เพราะเขามีพี่ชายที่รักและเอาใจใส่และเข้าใจตนมาก ๆ
นับตั้งแต่เอเชียได้พบกับปิญชาน์ เอเชียก็รู้สึกว่าโลกของเขาเปลี่ยนแปลงไป สำหรับปิญชาน์แล้วช่างแตกต่างกับคนอื่น ๆ ที่เอเชียเคยรู้จัก เพราะปิญชาน์ไม่เคยต้องการอะไรจากเอเชียเลย เขาพยายามที่จะได้สิ่งที่ต้องการด้วยตนเองตลอด ยิ่งหากเอเชียซื้ออะไรมาให้เป็นของขวัญและยิ่งเป็นของราคาแพง ปิญชาน์ก็จะยิ่งโกรธมาก เพราะแม้ของจะราคาแพงเท่าไร แต่ในสายตาของปิญชาน์ สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นจะต้องซื้อและไม่ใช่สิ่งที่ปิญชาน์ต้องการในความสัมพันธ์ ซึ่งแตกต่างกับคนที่เอเชียเคยรู้จักมาก่อนโดยสิ้นเชิง
เอเชียได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากปิญชาน์ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทานข้าวในร้านอาหารตามสั่งหรือร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่แสนจะธรรมดา แต่เขากลับรู้สึกว่าทุกมื้ออาหารที่เขาได้ทานกับปิญชาน์นั้น มันอร่อยกว่ามื้ออาหารราคาแพงระยับทุกมื้อที่เขาเคยกินมาตลอดชีวิต เอเชียได้เรียนรู้ที่จะคบหากับปิญชาน์ที่เป็นการคบหาในฐานะคนสองคนที่มีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ทำให้เอเชียได้รู้หัวใจของตัวเองอย่างแน่ชัด วันเกิดของเขาเวียนมาบรรจบครบอีกหนึ่งรอบ ซึ่งก็เป็นวันเหมือนเดิม ๆ ที่เอเชียคิดว่า เขาไม่จำเป็นต้องบอกใครเพราะเขาไม่ได้สำคัญในสายตาใคร และเขาเจ็บปวดเกินกว่าที่จะบอกใครว่าวันสำคัญในวันนี้เขาต้องการมีใครสักคนเคียงข้าง แต่ด้วยความรู้สึกที่ต้องการใครสักคน เอเชียจึงชวนปิญชาน์ไปนั่งรถเป็นเพื่อน
ปิญชาน์เห็นเอเชียดูเคร่งเครียดกว่าปกติก็เลยตอบรับ แต่แล้วปิญชาน์ซึ่งได้รู้เรื่องโดยบังเอิญระหว่างที่ไปนั่งรถกับเอเชียว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเอเชีย ก็ได้ทำให้เอเชียประทับใจ เพราะว่าปิญชาน์ได้เตรียมเค้กวันเกิดก้อนเล็ก ๆ พร้อมเทียนปัก ซึ่งซื้ออย่างกะทันหันจากร้านสะดวกซื้อ แม้เค้กก้อนนี้จะดูธรรมดาเทียบไม่ได้เลยกับของขวัญที่เขาเคยได้รับในอดีต และเอเชียเองก็ไม่ชอบกินเค้ก และเกลียดวันเกิดของตัวเองเป็นที่สุด แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาเล็ก ๆ ในสิ่งที่ปิญชาน์ทำให้
ด้วยเหตุนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าปิญชาน์ไม่ได้ต้องการอะไรจากเอเชียเลย แต่เอเชียกลับเริ่มต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเขาต้องการพื้นที่ในหัวใจของปิญชาน์ และเอเชียเพิ่งได้ตระหนักว่า พื้นที่ในหัวใจที่ว่านั้น อาจเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่เขาใช้เงินเท่าไรก็ซื้อไม่ได้เลย
ความประทับใจ
สิ่งที่เพรงพรรณประทับใจสำหรับนวนิยายเรื่องนี้ คือ การปูพื้นตัวละครที่มีความแตกต่างกันสุดขั้วแต่ระหว่างการดำเนินเรื่องจะได้เห็นพัฒนาการและการเติบโตทางด้านความคิดของแต่ละตัวละครที่เป็นรูปธรรมสัมผัสได้
อย่างเช่นเอเชีย ในชีวิตไม่เคยต้องใช้ความพยายามไขว่คว้าอะไร ไม่เคยคิดวางแผนชีวิตว่าชีวิตนี้อยากจะทำอะไร อยากจะเดินไปในเส้นทางไหน เพราะมีพ่อแม่คอยป้อนเงินให้ และชีวิตไม่เคยต้องพบกับความยากลำบากใด ๆ แต่เมื่อเขาได้พบกับปิญชาน์ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องเติบโตขึ้นเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ นั่นคือ การได้อยู่เคียงข้างปิญชาน์ในช่วงลมหายใจที่เหลือของชีวิต เช่นเดียวกันกับปิญชาน์ เพื่อให้สามารถที่อยู่เคียงข้างเอเชียได้อย่างไม่อายใคร ปิญชาน์ก็พยายามในแบบของตัวเองเช่นกัน แต่จะเป็นแบบไหนนั้น สามารถติดตามหาอ่านได้ในนิยายเลยค่ะ
เพรงพรรณต้องยอมรับว่า ตนเองยังไม่ค่อยรู้จักหรือเชี่ยวชาญในโลกของนวนิยายวายมากนัก แต่หากจะให้จัดอันดับนวนิยายในดวงใจที่เคยอ่านมาจนกระทั่งตอนนี้ เพรงพรรณก็คงให้นิยายเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจ ด้วยความละเมียดละไมในเนื้อหา และความรู้สึก ‘ต่าง’ ที่ได้รับเมื่อเทียบกับการอ่านนวนิยายวายเรื่องอื่น ๆ อีกทั้งชีวิตของเอเชียกับปิญชาน์เองนั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากชีวิตจริงของคนเดินดินเช่นพวกเรา จึงพอจะเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของตัวละครในเรื่องจนเกิดอารมณ์ร่วมหรืออินไปกับตัวละครเหล่านั้นได้ไม่ยาก
ต้องขอยอมรับว่า “ราคา ไม่เท่ากับ มูลค่า” เรื่องนี้ เป็นหนึ่งในนิยายวายไม่กี่เรื่องที่เพรงพรรณเลือกที่จะอ่านซ้ำ
หากใครยังไม่เคยพบนิยายที่ถูกจริตกับตนเอง ลองเปิดใจอ่านเรื่องนี้ดู นี่อาจจะเป็นหนึ่งในนิยายที่คุณโปรดปรานก็ได้ค่ะ
แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไป สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา