2 เม.ย. 2022 เวลา 11:14 • กีฬา
ทำไมอิตาลี ทีมแชมป์โลก 4 สมัย และแชมป์ยูโรปีล่าสุด กลับตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกอย่างน่ามึนงง มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ เราจะไปดูปมปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยกัน
2
อิตาลี เป็นทีมที่คาดเดาได้ยากที่สุด ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเขาในแต่ละทัวร์นาเมนต์
ทีมชาติโดยทั่วๆไป เวลาคว้าแชมป์อะไรสักอย่าง รายการถัดไป ก็มักจะเล่นดีด้วย เพราะโครงสร้างของทีมยังดีอยู่ อย่างสเปน ได้แชมป์ยูโร 2008 ก็ตามด้วยแชมป์บอลโลก 2010 (และ ยูโร 2012)
หรือต่อให้ไม่ได้แชมป์ ก็มักจะเข้ารอบลึกๆ เช่น อังกฤษได้แชมป์โลก 1966 พอยูโร 1968 ก็เข้ารอบรอง เช่นเดียวกับเยอรมันได้แชมป์โลก 2014 ในยูโร 2016 ก็เข้ารอบรองเช่นกัน
1
แต่อิตาลีนั้น เป็นทีมที่ขึ้นๆ ลงๆ เดาไม่ถูกว่าจะมาไม้ไหน ปี 1982 พวกเขาได้แชมป์โลก แต่อีก 2 ปีต่อมา ตกรอบคัดเลือกยูโร 1984 เฉยเลย
หรือในปี 1990 ได้อันดับ 3 บอลโลก แต่มาตกรอบคัดเลือก ยูโร 1992 แล้วพอบอลโลก 1994 ก็เด้งมาได้อันดับ 2 อีกซะงั้น
หลังจากแพ้นอร์ธ มาซีโดเนีย ตกรอบเพลย์ออฟ แกรี่ ลินิเกอร์ ผู้บรรยายจากบีบีซี ใช้คำว่า Typical Italy หรือนี่แหละ อิตาลีของแท้ต้องเป็นอะไรที่เดาไม่ได้เลยว่าจะเป็นยังไงกันแน่
1
จากแชมป์ยูโรอันยิ่งใหญ่เมื่อ 6 เดือนก่อน ใครๆ ก็บอกว่า อิตาลีชุดนี้ ไม่ต้องมีสตาร์ ก็คว้าแชมป์ยุโรปได้ สุดท้ายกลับไม่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกแบบงงๆ ทั้งๆ ที่กรุ๊ปของพวกเขา ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น มีสวิตเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์เหนือ, บัลแกเรีย และ ลิธัวเนีย
สวิส อาจเป็นทีมที่แกร่งที่สุดใน 4 ทีมนี้ แต่ตอนยูโร 2020 อิตาลีกดสวิสมากระจุย 3-0 แบบบอลสู้กันไม่ได้มาแล้ว หลายคนก็เลยคิดว่า มันไม่น่าจะมีปัญหาที่จะย้ำแค้นอีก
เอาจริงๆ 4 ปีก่อน ตอนตกรอบคัดเลือกบอลโลก 2018 ตอนนั้นอิตาลี แพ้เพลย์ออฟสวีเดน ซึ่งแข็งกว่ามาซีโดเนียเสียอีก คือว่ากันตรงๆ คราวนี้อิตาลีไม่ควรพลาดเลย
เมื่อตกรอบแล้ว คำถามคือ "เอายังไงต่อ" ย้อนกลับไป 4 ปีที่แล้ว อิตาลีเด้งจานปิเอโร เวนตูร่า ออกจากตำแหน่งทันที แล้วคราวนี้โรแบร์โต้ มันชินี่ จะโดนไล่ออกเหมือนกันหรือเปล่า
แต่กระแสในอิตาลีกลับเป็นทิศทางเดียวกันคือ "อย่าปลด"
จูเซ็ปเป้ แบร์โกมี่ ตำนานทีมชาติอิตาลี ออกมาบอกว่า "ทุกคนอยากให้โรแบร์โต้อยู่ต่อ ทั้งสหพันธ์ฯ ทั้งนักเตะ เพราะมันชินี่เป็นโค้ชที่รู้ว่าควรจะทำอะไรยังไง และเขาจัดการทุกอย่างได้ดีมาก ทุกคนรู้ว่า เราจะเก็บเขาไว้แน่นอน ไม่มีคำถามในเรื่องนั้น เพียงแต่อยู่ที่ตัวเขาเอง ว่าอยากจะทำโปรเจ็กต์กับทีมชาติต่อไปหรือไม่"
1
"ถ้าหากเขาอยากทำต่อ คราวนี้เราจะให้เวลาเขารื้อระบบใหม่ตั้งแต่แรก และเขาจะสามารถพาอิตาลีของเรา ไปอยู่จุดสูงสุดของโลกได้อีกครั้ง"
ริคคาร์โด้ เฟอร์รี่ นักเตะทีมชาติอิตาลีอีกหนึ่งคน กล่าวว่า "ตั้งแต่มันชินี่เข้ามาที่โคแวร์ชาโน่ เขาทำงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ อยางไรก็ตาม ช่วงยูโร ทุกอย่างคือโปรโมชั่น แต่ความจริงทั้งหมดก็เปิดเผยออกมาแล้ว ว่าทีมของเรายังไม่ดีพอจริงๆ"
เช่นเดียวกับกลุ่มนักเตะปัจจุบัน นำโดยลีโอนาร์โด โบนุชชี่ ที่อยากให้มันชินี่อยู่ต่อ อย่าเพิ่งทิ้งเรือไว้กลางทาง เพราะเขาเป็นคนสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นในแคมป์จริงๆ
จะสังเกตได้ว่า ไม่มีใครโทษมันชินี่ เขาเป็นคนเปลี่ยนอิตาลีจากฟุตบอลที่เล่นชัวร์ กลายเป็นทีมที่บุกอย่างสนุกสนาน ก่อนจะคว้าแชมป์ยูโร 2020 ชนิดที่ได้คำชมล้นหลาม ถ้าหากมันชินี่ ไม่มีฝีมือจริงๆ เขาไม่มีวันได้แชมป์ยูโรอยู่แล้ว
เอาล่ะ ถ้าปัญหาไม่ได้อยู่ที่มันชินี่ แล้วปัญหาของอิตาลีอยู่ตรงไหนกันแน่ ทำไมแค่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายยังทำไม่ได้ สื่อดังๆ อย่างกัซเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต และ คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต มีมุมมองที่น่าสนใจหลายเรื่องทีเดียว
---------------------
[ ปัญหา 1- ความผิดพลาดของนักเตะเอง ]
กัซเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต วิจารณ์อย่างแรงว่า อิตาลี มีโอกาสมากมายที่จะคว้าแชมป์กลุ่ม แต่พวกเขาพลาดไปเอง โดย 4 เกมที่อิตาลีไม่ชนะคู่แข่งได้แก่
อิตาลี 1-1 บัลแกเรีย
สวิตเซอร์แลนด์ 0-0 อิตาลี
3
อิตาลี 1-1 สวิตเซอร์แลนด์
ไอร์แลนด์เหนือ 0-0 อิตาลี
ขอแค่ชนะ 1 เกมในนี้ พวกเขาก็ควรจะเข้ารอบได้อย่างสบายๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ โดยไฮไลท์ที่หลายคนจดจำได้ดี คือการพลาดจุดโทษ 2 ครั้ง ของจอร์จินโญ่ กองกลางคีย์แมนของทีมในเกมเจอสวิตเซอร์แลนด์ ถ้าเขายิงเข้าสักครั้ง อิตาลีก็จะชนะแล้วเข้ารอบ แต่พอจอร์จินโญ่ยิงไม่ได้ เลยกลายเป็นปลุกผีสวิสขึ้นมา ก่อนจะแซงเข้ารอบไปได้ในที่สุด
หรืออย่างในนัดเจอมาซีโดเนีย ในเกมเพลย์ออฟ อิตาลีได้โอกาสยิงถึง 32 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือการยิงหน้าโกล์โล่งๆ คือเบราร์ดี้ แบบเบาหวิว จนผู้รักษาประตูวิ่งมารับทันเฉยเลย ส่วนคู่แข่งได้ยิงทั้งเกมแค่ 4 ครั้ง แต่สุดท้ายอิตาลีแพ้ 1-0 ถามว่า มันชินี่วางแท็กติกอย่างดีที่สุดแล้ว มีโอกาสที่ทีมจะชนะแล้ว แต่เมื่อนักเตะทำไม่ได้เอง แล้วจะให้เขาทำยังไง
---------------------
[ 2- ไฟมอดหลังจากได้แชมป์ยูโร ]
ข้อสังเกตที่น่าสนใจมาก ของคอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต คือพออิตาลีได้แชมป์ยูโรปั๊บ อีก 6 เกมต่อมา พวกเขา ชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 1 โดยเกมเดียวที่ชนะคือบ๊วยของกลุ่มในบอลโลก อย่างลิธัวเนีย
โอเค อาจจะพออ้างได้ว่า ลีโอนาร์โด สปินัซโซล่า คีย์แมนริมเส้นของอิตาลีบาดเจ็บ ทำให้เกมรุกแผ่วไป แต่คำถามคือ นักเตะแค่คนเดียว จะทำให้ทีมดร็อปขนาดนั้นเลยงั้นหรือ คนอื่นไม่สามารถแทนที่ได้เลยหรือไง
สื่อตั้งข้อสังเกตว่า Passion ที่อยากจะพิสูจน์ตัวเอง เหมือนตอนเริ่มยูโรใหม่ๆ มันหายไป นักเตะบางคนไม่มีความกระหายที่จะไปได้ไกลกว่านั้น ซึ่งมันแสดงออกให้เห็นในสนาม
บางคนได้รับโอกาสแล้วโอกาสเล่าจากโค้ช แต่ก็ไม่เคยทำให้เห็นเสียทีว่าคู่ควร สื่ออิตาลีใช้คำว่า บางทีมันชินี่ ก็ Too Loyal หรือเชื่อใจนักเตะบางคนเกินไป ทั้งๆที่ควรเปลี่ยนแปลง หรือโละทิ้งไปตั้งนานแล้ว
2
---------------------
[ 3- อิตาลีมีดาวรุ่งน้อยมากกว่าชาติอื่น ]
หัวใจสำคัญที่ทำให้วงการฟุตบอลแต่ละชาติรุ่งเรืองได้ คือการปั้นเยาวชนที่มีความสามารถขึ้นมาประดับวงการ นักเตะที่อายุเยอะๆ วันหนึ่งก็ต้องปลดระวางไป แล้วส่งไม้ต่อให้เด็กรุ่นใหม่รับช่วงแทน
เว็บไซต์ Goal จัดอันดับสุดยอด 50 นักเตะอายุต่ำกว่า 20 ปี ปรากฏว่าทั้ง 50 คน ไม่มีผู้เล่นชาวอิตาเลียนแม้แต่คนเดียว มันแสดงให้เห็นว่า อิตาลีไม่สามารถปั้นเยาวชนขึ้นมาสานต่อยุคสมัยของรุ่นพี่ได้เลย
ในขณะที่สเปน หรืออังกฤษ จะผ่านเข้ารอบลึกๆ ในศึกยูโร U-19 อยู่บ่อยๆ แต่อิตาลีนั้นนานๆ ทีจะผ่านรอบคัดเลือกที เหมือนทีมเยาวชนไม่ค่อยได้รับความสำคัญมากนัก
เช่นเดียวกับรุ่น U-21 ที่อิตาลีได้แชมป์ยุโรปครั้งสุดท้ายคือปี 2004 ยุคของดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันเดรีย บาซาญี่, คริสเตียน ซัคคาร์โด้และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ หลายคนก็ก้าวไปช่วยอิตาลีคว้าแชมป์โลกในปี 2006 ด้วย
แต่อิตาลียุคนี้ไม่เป็นแบบนั้น ถ้าเราคิดถึงนักเตะเยาวชนพรสวรรค์ของอังกฤษ เราจะคิดถึงจู๊ด เบลลิงแฮม ถ้าเป็นสเปนก็กาบี ถ้าเยอรมันก็จามาล มูเซียล่า
นักเตะเหล่านี้ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้ทีมชาติของตัวเองเลยด้วยซ้ำ แต่ของอิตาลี อย่าว่าแต่ตัวจริงเลย ใน Squad หานักเตะอายุต่ำกว่า 20 ไม่เจอเลยด้วยซ้ำ
1
แกนหลักของทีม ยังเป็นคิเอลลินี่ (37 ปี) และ โบนุชชี่ (34 ปี) รวมถึงอินซินเญ่ กับ อิมโมบิเล่ ที่อายุเกิน 30 ทั้งคู่แล้ว
ถามว่ามันมีผลที่ทำให้อิตาลีไม่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกหรือไม่ ก็มีความเกี่ยวข้องทางอ้อมเหมือนกัน เพราะมันทำให้ทีมขาดพลัง กว่ามันชินี่ จะเอาพวกโตนาลี่ (21 ปี) และ ราสปาโดรี่ (22 ปี) ลงเป็นตัวจริง ก็เมื่อทีมตกรอบบอลโลกไปแล้ว
---------------------
[ ข้อ 4 ทีมในเซเรียอา ก็ไม่ค่อยใช้นักเตะอิตาลีเหมือนกัน ]
1
ในขณะที่นักเตะเยอรมันได้ลงวีกแล้ววีกเล่า กับทีมหัวแถวในบุนเดสลีกา แต่น่าสนใจคือ ใน 8 ทีมหัวบนของตารางเซเรียอา มีนักเตะอิตาเลียนแค่ 18 คนเท่านั้นที่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
มิลาน - โรมันโยลี่, โตนาลี่
อินเตอร์ - บาสโตนี่, บาเรลล่า
ยูเวนตุส - โบนุชชี่, คิเอลลินี่, โลคาเตลลี่
โรม่า - มันชินี่, คริสต็องเต้
อตาลันต้า - โตลอย
ลาซิโอ - อแชร์บี้, ซัคคานี่, อิมโมบิเล่
ฟิออเรนติน่า - โบนาเวนตูร่า, บิรากี้
1
นาโปลี - ดิ ลอเรนโซ่, โปลิตาโน่, อินซินเญ่
1
นี่คือ 18 คนที่ได้เล่นสม่ำเสมอในเซเรีย อา และถ้าเจาะลึกลงไปกว่านี้ 7 จาก 18 คนนี้ อายุเกิน 30 แล้วอีกต่างหาก
คำถามคือ แล้วนักเตะอิตาลีคนอื่นๆ ไปไหน เคสน่าสนใจคือ ทำไมทีมใหญ่ๆ ในเซเรีย อา ถึงไม่กล้าใช้ กรณีศึกษาที่ดีคือ นิโคโล่ ฟาโจลี่ นักเตะอะคาเดมี่จากยูเว่ วัย 21 ปี ที่ติดทีมชาติชุด U-21 ถ้าหากเป็นประเทศอื่นคงส่งเป็นตัวจริง แต่ยูเว่ ปล่อยยืมให้เครโมเนเซ่ ในเซเรีย บี ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาโดนลดเลเวลแบบนั้น แล้วไปเลือกใช้กองหน้าต่างชาติแทน
ทุกๆ อย่างมันมีความเชื่อมโยงกัน จากลีกที่ไม่ค่อยมีนักเตะอิตาลี ไม่ค่อยให้โอกาสดาวรุ่ง นำมาสู่การขาดทรัพยากรที่ดีในทีมชาติ โค้ชเองก็มีอาวุธใช้งานจำกัด ถ้าหากวันไหนฟอร์มดี ก็อาจผ่านไปได้ แต่ถ้าฟอร์มแป้กขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ไม่มีอาวุธอะไรเอาไว้พลิกชนะคู่แข่งเลย
จริงๆ อิตาลีไม่ใช่ทีมที่แย่ขนาดนั้น แต่เพราะทุกๆ อย่างมันไม่มีอะไรเป็นใจเลยสักอย่าง มันเลยนำไปสู่การตกรอบ
สถานการณ์ตอนนี้ อิตาลี ต้องทนความเจ็บปวดต่อไปสักพัก คิเอลลินี่กล่าวว่า นี่คือช่วงที่เรียกว่า "Great Void" หรือช่องว่างอันยิ่งใหญ่ เพราะฟุตบอลโลกคร้ั้งสุดท้ายที่อิตาลีได้ไป คือปี 2014 กว่าจะได้ไปบอลโลกอีกครั้งก็ต้องปี 2026 หรือว่าง่ายๆ อิตาลีจะห่างหายจากฟุตบอลโลกไปถึง 12 ปี ซี่งเป็นช่วงเวลาที่มืดมิดจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องมันก็เกิดไปแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องเริ่มต้นใหม่ และอิตาลีก็ต้องหาวิธีที่จะพัฒนาเยาวชนขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม มาเป็นอาวุธใหม่ๆ ให้มันชินี่ใช้งานเต็มไม้เต็มมือหน่อย
ครั้งหนึ่งเยอรมันเคยโดนแซวว่าเป็นทีมผู้เฒ่าแห่งยุโรป พวกเขาร่วงตกรอบแรกในยูโร 2000 ด้วยการเป็นบ๊วยกลุ่ม จากนั้นมาเยอรมันก็ปฏิวัติครั้งใหญ่ จนกลายเป็นชาติที่มีดาวรุ่งมากมายในทุกเลเวล
มันชินี่ ที่ดูแนวโน้มแล้วจะขอสู้ต่อ เขาบอกว่า "ผมหวังว่าในเดือนมิถุนายนนี้ เราจะได้ใช้งานดาวรุ่งมากขึ้น แต่ก็หวังให้สโมสรช่วยด้วย ผมอยากให้ดาวรุ่งได้ประสบการณ์ในเกมสำคัญที่สโมสรด้วย"
เราไม่รู้ว่าอิตาลีจะทำอย่างไร จึงจะคัมแบ็กมาจากความผิดหวังครั้งนี้ได้ แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขากลับมาแน่
อย่างที่แกรี่ ลินิเกอร์บอกนั่นแหละ อิตาลีที่แท้จริง คือทีมฟุตบอลที่คุณคาดเดาไม่ได้เลยสักนิดว่าจะเป็นอย่างไร วันนี้ตกรอบคัดเลือกบอลโลก ทัวร์นาเมนต์หน้าอาจป้องกันแชมป์ยูโรได้เลยก็ได้ ใครจะไปรู้
#STARTTHENEW
โฆษณา