2 เม.ย. 2022 เวลา 13:52 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ชวนดู ฉาก ชู 3 นิ้ว สุดระทึก ในตำนาน ในหนัง Inglourious Basterds ยำใหญ่สงครามสไตล์ แควนติน ทาแรนติโน่
• Inglourious Basterds ความแสบของแควนติน ทาแรนติโน่
ภาพยนตร์ Inglourious Basterds หรือในชื่อไทย คือ ยุทธการเดือดเชือดนาซี ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับแห่งยุค แควนติน ทาแรนติโน่ ซึ่งงานแต่ละงานมีสไตล์เฉพาะตัว ไอเดียแหลมคมเสมอ และมีความสดใหม่เสมอ แม้ภาพยนตร์จะเต็มไปด้วยความรุนแรง แต่นั่นก็คือสไตล์ หรือเป็นหนทางหนึ่งในการเล่าเรื่อง ให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของแควนติน ทาแรนติโน่
สำหรับ หนัง Inglourious Basterds ออกฉายเมื่อปี 2009 โดยเรื่องย่อ Inglourious Basterds คือ การเล่าถึงภารกิจการกวาดล้างพวกนาซีของแก๊งค์โคตรแสบ (The Basterds) ที่มีร้อยโทอัลโด เรน (แบรด พิตต์) เป็นผู้นำ , ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วย มหกรรมยำใหญ่ประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหนังถูกแบ่งออกเป็น 5 บทที่จบในตัวเอง แต่ไปเชื่อมโยงกันตอนท้ายของเรื่อง สอดประสานเป็นเรื่องเดียวกัน
แควนติน ทาแรนติโน่ นำประวัติศาสตร์ช่วงที่อ่อนไหวที่สุด มาตีความใหม่ และเล่าใหม่ ร้อยเรื่องใหม่ ทำได้อย่างถึงใจ ไม่กลัวว่าใครจะกล่าวหาว่าบิดเบือน เพราะในความเป็นจริงแล้ว หนังมันก็คือหนัง มันคือเรื่องเล่าเสียงเล่าของผู้กำกับ โดยในหลายๆฉาก อาทิ ฉากเผาโรงหนัง และสำหรับ ฉากในตำนานอีกฉากหนึ่งก็คือ "ฉาก ชู 3 นิ้ว" สั่งเหล้า ที่้แควนติน ทาแรนติโน่ ใส่ลายละเอียดไว้อย่างแยบคาย และบีบคั้นหัวใจผู้ชม และกลายเป็นอีกหนึ่งซีนสุดระทึกของโลกภาพยนตร์ และยังได้รับการกล่าวถึง แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแล้วก็ตาม
• เจาะรายละเอียด ฉาก ชู 3 นิ้ว สุดระทึก
ฉากชู 3 นิ้วสั่งเหล้า ในหนัง Inglourious Basterds นั้น เป็นส่วนหนึ่งของ ปฏิบัติงานวางแผน ฆ่าล้างนาซีในคืนวันเปิดตัวหนังสำคัญ(ในเรื่อง) ซึ่งทางฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างอังกฤษได้ส่งร้อยโทอาร์ชี่ ไฮค็อกซ์ (แสดงโดย ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์)ให้มาปฏิบัติงานฆ่าล้างนาซีร่วมกับแก๊งค์โคตรแสบโดยแฝงตัวเป็นสายลับ ปลอมตัวเป็นนายทหารเยอรมัน และนัดพบกับดาราสาวเยอรมันชื่อดังอย่าง บริดเจ็ต วอน แฮมเมอร์สมาร์ก ซึ่งเป็นสายลับอยู่ก่อนแล้ว (แสดงโดย ไดแอน ครูเกอร์) เพื่อขอความช่วยเหลือ เรื่องข้อมูลต่างๆ
สำหรับ ฉากนี้ เต็มไปด้วย บทสนทนาที่ค่อยๆเพิ่มบรรยากาศที่เริ่มจากการผ่อนคลาย จากการเล่นเกมทายคำใบ้กัน แต่ก็มีลับลมคมใน เพราะเป็นการนัดพบกันของสายลับ , อย่างไรก็ตาม ในบทสนทนาในวงเหล้าซีนนี้ เกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะมีนายทหารเยอรมันที่เป็นเยอรมันจริงๆ อยู่ในร้านเหล้านั้นด้วย และแอบฟังบทสนทนามานาน จนกระทั่งมาขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย
และนายทหารเยอรมันคนนั้น เริ่มจับพิรุธ จับความผิดสังเกตได้จากสำเนียงการพูดของ ร้อยโทอาร์ชี่ ไฮค็อกซ์ (แสดงโดย ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) ก่อน เพราะไม่มีคนเมืองไหนในเยอรมันที่พูดสำเนียงแบบนี้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับฟันธง ว่าเป็นเรื่องผิดปกติ...ปล่อยให้บทสนทนาไหลผ่านไป...
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ นายทหารเยอรมัน จับผิด จับพิรุธ ได้อย่าง 100 เปอร์เซนต์ และพบว่า ร้อยโทอาร์ชี่ ไฮค็อกซ์ (แสดงโดย ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) เป็นสายลับของฝั่งสัมพันธมิตรที่ปลอมตัวมาเป็นทหารเยอรมันนั่นเป็นเพราะตัวละครตัวนี้ "โป๊ะแตก" ชูสามนิ้วสั่งเหล้า เพราะ ร้อยโทอาร์ชี่ ไฮค็อกซ์ ชู 3 นิ้วด้วยการใช้ "นิ้วชี้-นิ้วกลาง-นิ้วนาง" ซึ่งผิดวิสัยของคนเยอรมัน ที่ปกติแล้ว ชู 3 นิ้ว หรือแสดงสัญลักษณ์ เลข 3 ด้วยการใช้ "นิ้วโป้ง-นิ้วชี้-นิ้้วกลาง"
และ หลังจากนั้นก็เกิดการ ภาวะตึงเครียดที่สุดของซีนนี้ ที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความ นิ่ง-เงียบ และได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจเต้น , ก่อนที่จะจบฉากนี้ด้วยการ สาดกระสุนใส่กันแบบเลือดเต็มจอในสไตล์ แควนติน ทาแรนติโน่
หลังจากนั้น แควนติน ทาแรนติโน่ ยัง "ขยี้" ในประเด็น ชู 3 นิ้ว ต่อไปอีก เพราะเหตุการณ์นี้ บริดเจ็ต วอน แฮมเมอร์สมาร์ก ดาราหนังเชื้อสายเยอรมันในเรื่อง (แสดงโดย ไดแอน ครูเกอร์) แต่ก็เป็นสายลับของฝั่งสัมพันธมิตร รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ และได้รับการช่วยเหลือจากทีม อัลโด เรน (แบรด พิตต์) ก็ยัง ชู 3 นิ้ว แต่เป็นการชู 3 นิ้วแบบเยอรมัน เพื่อยืนยันตัวตนของเธอ
• บทสรุปของความแสบซ่า เล่าหนังสงครามในแบบแควนติน ทาแรนติโน่
สำหรับภาพยนตร์ Inglourious Basterds หรือในชื่อไทย คือ ยุทธการเดือดเชือดนาซี โดยรวมแล้ว มันคือความตั้งใจ เล่าประวัติศาสตร์สงครามในรูปแบบของตัวเอง พร้อมทั้งยืนยันตัวตนว่า เขาเองจะเล่าเรื่องแบบนี้...ท่วงทำนองที่เลือดร้อน และมีความเฉือดเชือน และสุดยอดการแสดงของคริสตอฟ วอลท์ Christoph Waltz ในบทบาท นายพลเยอรมัน ฮานส์ ลันดา ทำให้เขาคว้าออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย , และ ภาพยนตร์ Inglourious Basterds ยังได้เข้าชิงออสการ์รวมแล้วถึง 8 รางวัล
...แควนติน ทาแรนติโน่ ทำหนังเรื่องนี้ เพื่อสดุดี เปิดหมวก ศาสตร์ภาพยนตร์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการใช้น้ำเสียง ความแสบ ซ่า ในสไตล์ของตัวเอง และ ฉาก ชู 3 นิ้วสั่งเหล้า ได้กลายเป็นอีกซีนที่ถูกกล่าวขานถึงจนทุกวันนี้
โฆษณา