2 เม.ย. 2022 เวลา 14:31 • สุขภาพ
+++ คิดบวก แล้วมันดีอย่างไร???
คิดบวก แล้วมันดีอย่างไร
การคิดบวกหรือการมองโลกในแง่ดีเป็นพลังในรูปแบบหนึ่งที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อความคิด การมองโลกมองชีวิต การรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้เช่นกัน
คิดบวก
คิดบวก คือ อะไร ? แล้ว ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างไร ?
คิดบวก เป็นการคิด การรู้สึก หรือการมองอย่างมีความหวังว่าต้องมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในอนาคต ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งนับว่าเป็นพลังทางความคิดที่จะช่วยให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายไปได้ โดยการคิดบวกสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการคิดหรือพูดคุยกับตนเองก่อน
ประโยชน์ต่อสุขภาพจากการคิดบวก
การคิดบวกไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเป็นคนที่มีความสุขกับการมองโลกมองชีวิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการวิจัยหลายชิ้นได้ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์และผลลัพธ์จากการคิดบวกไว้ ดังนี้
คิดบวกช่วยให้รับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น พบว่าผู้ที่คิดบวกมีฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอล (Cortisol) อยู่ในระดับที่ค่อนข้างเสถียร และช่วยให้ตอบสนองต่อความเครียดได้ดีกว่าผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย เพราะหากผู้ที่มองโลกในแง่ร้ายเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดมักจะควบคุมระบบประสาทของตนเองได้ยาก และไม่สามารถคิดบวกได้เนื่องจากระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะสนับสนุนว่าผู้ที่คิดบวกจะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลต่ำและสามารถรับมือกับความเครียดได้ดีกว่า แต่ก็มีบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่คิดบวกที่ทำงานภายใต้ความกดดันหรือความเครียดสูงนั้น จะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากกว่าปกติหลังตื่นนอนตอนเช้า และค่อย ๆ ลดระดับลงในระหว่างวัน
คิดบวก ช่วยต้านเศร้า การคิดบวกด้วยคำถามที่เกี่ยวกับปัญหาทางอารมณ์ การใช้สารเสพติด และพฤติกรรมต่อต้านการเข้าสังคมของเด็กที่มีอายุระหว่าง 12-14 ปี หลังใช้เวลาศึกษากว่า 3 ปี พบว่าเด็กที่คิดบวกมีทักษะการแก้ปัญหาได้ดีกว่า อีกทั้งการคิดบวกยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต พฤติกรรม และยังมีประโยชน์ในการป้องกันภาวะซึมเศร้ามากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย
คิดบวก ช่วยให้ชีวิตยืนยาว มีงานค้นคว้าที่ให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในอนาคต จากคำตอบแบบต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจจะทำให้ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น ยังไม่แน่ใจว่าจะฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้มากน้อยเพียงใด
โรคหลอดเลือดหัวใจจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานเพียงเล็กน้อยหรือไม่ส่งผลใด ๆ ต่อการทำงาน หรือแม้จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจแต่ก็ยังสามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนได้ เป็นต้น พบว่าผู้ป่วยที่คิดบวกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้นหลังการรักษา 1 ปี และมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่รอดได้นานกว่า 15 ปี
นอกจากนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มองโลกในแง่ร้ายมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 19 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับอายุขัยที่คาดการณ์ไว้ และแม้จะยังไม่สามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการมองโลกในแง่ร้ายกับการเสียชีวิตได้ แต่ผู้ที่คิดบวกอาจเปิดใจยอมรับการรักษาพยาบาลได้มากกว่า
คิดบวกช่วยบรรเทาปวด จากการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี โดยใช้ความร้อนระหว่าง 46 48 และ 50 องศาเซลเซียส เพื่อทำให้เกิดอาการปวดเพียงเล็กน้อย ปานกลาง และปวดอย่างรุนแรงที่บริเวณขาเป็นเวลา 20 วินาที ร่วมกับการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อศึกษาการทำงานของสมอง
พบว่าผู้ที่รู้สึกปวดในระดับปานกลางแต่ได้รับความร้อนที่ 50 องศาเซลเซียสมีอัตราการปวดลดลง 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ที่รู้สึกปวดอย่างรุนแรงและได้รับความร้อนที่ 50 องศาเซลเซียส และอาสาสมัครทุกคนรู้สึกปวดน้อยลงเมื่อคิดว่าอาการปวดของตนเองลดลง
คิดบวก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ผู้ใหญ่วัยกลางคนที่คิดบวกเกี่ยวกับอนาคตของตนเองมากกว่ามีแนวโน้มที่จะมีความเข้มข้นของสารแคโรทีนอยด์ในร่างกายซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในระดับที่สูงกว่าประมาณ 3-13 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่วัยกลางคนที่คิดบวกน้อยกว่า และผู้ที่คิดบวกยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระแก่ร่างกายด้วยการรักษาสุขภาพ เช่น รับประทานผักและผลไม้ หรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ร่วมด้วย เป็นต้น
แม้จะยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าการคิดบวกส่งผลดีต่อสุขภาพได้อย่างไร แต่การคิดบวกจะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีขึ้น ซึ่งความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา อีกทั้งผู้ที่คิดบวกยังมีแนวโน้มที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนเป็นพฤติกรรมที่ส่งเสริมให้มีสุขภาพแข็งแรงได้
เคล็ดไม่ลับกับการเป็นคนคิดบวก
แม้จะไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพลังในการคิดบวก แต่ทุกคนสามารถฝึกฝนและเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนคิดบวกได้ด้วยการปฏิบัติตามแนวทาง ดังต่อไปนี้
สำรวจความคิดลบ ทบทวนแล้วจดลงกระดาษว่าแต่ละครั้งคิดลบในระดับรุนแรงมากน้อยแค่ไหน หาเหตุผลประกอบว่าทำไมต้องคิดลบ หาข้อโต้แย้งที่ไม่ควรคิดลบ และลองดูว่าจะคิดบวกได้อย่างไรในสถานการณ์นั้น ๆมองหาสิ่งดี ๆ เหรียญยังมีสองด้าน
ในสถานการณ์เลวร้ายก็ย่อมมีมุมดี ๆ เสมอ เช่น แม้จะเศร้าไปบ้างหลังตกงาน แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสให้ตัวเองได้พักผ่อน ได้ลองเปิดประสบการณ์ทำสิ่งใหม่หรือสิ่งที่ยังหาเวลาทำไม่ได้ เป็นต้น หรือลองคิดหาข้อเสนอแนะในแง่บวกแทนการตำหนิเรื่องต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงช่วยฝึกให้เป็นคนคิดบวกแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีกับคนรอบข้างได้เช่นกัน
ตามรอยบุคคลที่คิดบวกเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนทัศนคติของตนเอง แล้วลองเป็นคน ๆ นั้นดูสักช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าหากต้องเจอสถานการณ์แบบนี้เขาจะคิดอย่างไร แล้วลองคิดบวกแบบนั้นดูบ้างลองคิดบวกดูสักตั้ง อย่าลังเลที่จะคิดบวก แม้จะไม่คุ้นเคยในช่วงแรก แต่ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาและความพยายามจึงจะสำเร็จ ถ้าทำได้สักครั้งแล้วอาจเป็นกำลังใจดี ๆ ให้คิดบวกต่อไปได้
ฝึกคิดบวกให้ชำนาญ นอกจากจะส่งผลดีต่อความคิด อารมณ์ การมองโลก และการใช้ชีวิตแล้ว การคิดบวกอยู่เสมอยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้อีกด้วย
POBPAD
#สาระดีดี
📌 ติดตาม Blackmores Thailand ได้ที่นี่
☑สั่งซื้อ : https://bit.ly/3cDo48d
📍📍📍📍📍📍📍📍📍📍📍📍
ติดตามเรื่องราวสาระดีดีอีกได้ที่
เว็บไซต์ : http://saradede.net/
กดถูกใจ กดติตาม กดไลค์กดแชร์ หรือเมนท์ เป็นกำลังใจ
หากเนื้อหา บทความนี้ มีคุณค่าเป็นประโยชน์
ขอขอบพระคุณ ทุกๆๆท่านครับ
โฆษณา