4 เม.ย. 2022 เวลา 06:46 • สุขภาพ
โผล่มาไม่ทันไร ก็ต้องให้เห็นรูปเท้าแล้ว แต่ก็อย่างว่าเหลาะครับ งานนี้บอกว่า ตาปลา มันต้องไม่ขึ้นที่กกหูอย่างแน่นอน
เมื่อไม่นานมานี้ จริงก็สักพักใหญ่ๆที่ผมรู้สึกว่า ที่นิ้วโป้งเท้าซ้ายมันมีตาปลาขึ้นมาที่ใต้นิ้วโป้ง ตอนแรกก็ไม่เอะใจอะไร เพราะเดินบ่อย แทบทั้งวัน ตาปลามันอาจขึ้นมาได้ แถมรองเท้าก็หลวมหน่อยๆด้วย
ตอนแรกมันเรื่องเล็กมาก ลงน้ำหนักเท้าได้ แต่สักพักเริ่มรู้สึกว่าปวดบริเวณที่เป็นตาปลานี้ และมันเริ่มเป็นมากขึ้นเรื่อยๆจากนิ้วโป้ง มาจมูกเท้า โดยมันปูดโปนออกมาและเป็นไตแข็งๆขึ้น
วิธีการแก้ไขอันดับแรกของผมคือ เอากรรไกรตัดเล็บ ตัดเล็มเนื้อตายออก แต่มันก็เกิดขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ บางครั้งตัดไปแล้ว เลือดออก ก็เอาสำรีมาซับเลือด บางทีสะกิดเอาเนื้อตายออกนิดเดียว ก็เลือดออก เลยปล่อยเลยตามเลย ถ้าไม่เจ็บขึ้นมาก็ไม่ทำอะไร ถ้าเจ็บเวลาเดินก็เอากรรไกรตัดเล็บมาตัดทีนึง
จนกระทั่งลุกลาม เป็นเยอะขึ้น จนต้องไปปรึกษาหมอ กลัวหมอว่าเหมือนกันว่าเป็นตาปลาแค่นี้ ทำไมต้องมาหาหมอด้วย (ฮา)
พอเจอหมอมักเท่านั้นแหละ รู้เลย ไม่ธรรมดาแล้ว หมอบอกว่ามันคือ หูดฝ่าเท้า(planter warts) และมันไม่ได้เกิดจากการใส่รองเท้า (มิน่าล่ะ เปลี่ยนรองเท้าก็ไม่หาย)
มันเกิดจากเชื้อไวรัส ชนิดหนึ่ง ชื่อว่า HPV (human papilloma virus) มักพบอยู่ที่ผิวหนังชั้นนอกสุดของฝ่าเท้า มักเกิดบริเวณโคนหัวแม่เท้า จมูกเท้าหรือส้นเท้า (เหมือนแป๊ะ) มักทำให้เรามีอาการเจ็บขณะเดิน
แม้ว่ามันจะไม่ร้ายแรง แต่เชื้อหูดอาจจะกระจายไปบริเวณอื่นของร่างกายได้ หมอบอกว่า เป็นเชื้อเดียวกับที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่ไม่ต้องตกใจชนิดที่เกิดฝ่าเท้าไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง ! สบายใจได้ แต่หากมีเลือดออก หรือเจ็บปวดเมื่อเดิน ให้รีบมาพบแพทย์ (ก็นี้เหลาะที่มาหาหมอ)
เชื้อนี้เข้าสู้บาดแผลขนาดเล็กที่เท้า หรือจุดบอบบาง แต่ละคนจะมีอาการป่วยแตกต่างกัน คนที่เป็นเบาหวาน หรือ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มักเกิดได้ง่าย ให้ระวังการเดินเท้าเปล่า หมั่นดูแลความสะอาด เมื่อเป็นไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจแพร่เชื้อได้
หมอเห็นอาการผมแล้วบอกว่า ระดับนี้ใช้วิธีจี้ด้วยไฟฟ้า ดีกว่าไม่งั้นไม่หาย ไม่แนะนำให้ใช้ยา ผมเลยเช็คประกัน แล้วผ่าน เลยตอบตกลงหมอว่า เอาก็เอา ว่าแต่เจ็บไหมหมอ …
หมอบอกว่า เจ็บ! ถ้าไม่ฉีดยาชา ฉีดยาชานี้ก็เจ็บนะ หมอบอก ผมเลย คิดว่า แย่ละตู ไม่น่าเลย
หลังการรักษาด้วยการจี้ด้วยไฟฟ้า
พูดถึงเรื่องยา ถ้าจะใช้ทา หมอบอกว่ามันคือยาผลัดเซลล์ผิว (peeling medicine) ซึ่งเราสามารถหาซื้อเองได้ตามร้านขายยาทั่วไป มีทั้งแบบแปะและแบบทา (แนะนำว่าแบบทาดีกว่า) ก่อนใช้ยาควรล้างบริเวณที่เป็นหูดให้สะอาด แช่น้ำอุ่น แล้วค่อยลอกหูดชั้นแรกออกแล้วค่อยทายา ตัวนี้ใช้เวลาหลายเดือน
ยาทา
อีกวิธีคือบำบัดด้วยความเย็น โดยใช้ไนโตรเจนเหลวจี้ที่หูด ทำให้เกิดแผลพุพองนอบๆหูด แล้วหูดจะหลุดออกมา(เฮ้ยยยยยย!?!) ภายใน2-3สัปดาห์ ข้อดีคือกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
นอกจากนี้ยังมี การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด โดยฉีดแอนติเจนเข้าที่จุดที่หูดเกิด หรือให้ทานยา อันอื่นคือ มีจี้ด้วยไฟฟ้า (แบบที่ผมรักษา)และ ยิงเลเซอร์
การป้องกัน คือ รักษาเท้าให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ ไม่ใช้กรรไกรตัดเล็บหรือตะไบเล็บร่วมกับผู้อื่น และรับการฉีดวัคซีน HPV เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดหูด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา