4 เม.ย. 2022 เวลา 06:32 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเล่าเยาว์วัย บทที่ 7 : เล่นยามว่าง
ตอนเป็นเด็กเราเคยเล่นอะไรกันมาบ้างนะ?
ทุ่งนาแถวบ้านปู่ย่าค่ะ วิวพระอาทิตย์ตกดิน
สมัยละอ่อนตอนประถม ความนิยมของเด็กวัยเมื่อ 20-30 ปีก่อนก็ไม่พ้น ปีนต้นไม้ เล่นซ่อนหา หมากเก็บ กระโดดเชือก(สมัยฉันเรียกกระโดดยาง) มอญซ่อนผ้า รีรีข้าวสาร งูกินหาง เดินกะลา กระต่ายขาเดียว ตี่จับ และอีกสารพัดจะเล่น ถ้ามีเพื่อนหลายคน ก็จะยิ่งเพิ่มความสนุก บ้านยายที่ฉันอาศัยอยู่ตอนเด็กนั้นมีพื้นที่กว้างทีเดียว พอให้เด็กวิ่งเล่นกันได้เพลินจนเหนื่อยหอบ วัยเด็กนั้นพลังเยอะกันเหลือล้นจริงๆ หลังเลิกเรียน หรือวันหยุดก็จะมารวมตัวเล่นกัน แล้วแต่ว่าอยากเล่นแบบเหนื่อยมากหรือเหนื่อยน้อย ช่วงอากาศร้อนๆ พวกผู้ใหญ่จะไม่ให้ตากแดดเดี๋ยวไม่สบาย ก็จะหลบใต้ต้นไม้ เล่นขุดดิน ขุดทรายเป็นหลุมเล็กๆ เป็นอุโมง มีคูน้ำ มีเมือง แล้วไปเอาน้ำมาเทใส่ให้เหมือนคลองเล็กๆ ก็สนุกไปอีกแบบ แต่เลอะเทอะกันไปเลยทีเดียว
ฉันมีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้เวลาเล่นก็จะมีกิจกรรมที่หลากหลาย พอพวกพี่โตๆ เขาเลยวัยจะเล่นแล้ว ก็มีพวกน้องๆ ผู้ชายมาเล่นด้วยอีก 3-4 คน สมัยนั้นผู้ใหญ่ไม่มีเวลามาเฝ้าดูเรา หรือให้เวลามาก เขาจะปล่อยให้เล่นกันไป แต่อยู่ในบ้าน ห้ามออกนอกรั้ว หรือถนนใหญ่โดยไม่ขออนุญาติก่อน
วันแดดแรงที่บ้านพ่อ
ช่วงวัยเด็กนั้นทั้งวันคิดแต่จะเล่นอะไรดี ฉันอยู่กับยายที่บ้าน เวลาที่พ่อกับแม่ไปทำงานที่ไร่นา กว่าจะกลับบางทีก็มืดค่ำไปแล้ว ช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมใหญ่ ยายจะคอยหาข้าวให้กิน พอบ่ายๆ แดดร้อนก็จะเรียกไปอาบน้ำให้ตัวเย็นๆ แล้วนอนกลางวัน ตื่นอีกทีก็บ่ายสามโมง แดดร่มถึงจะให้เล่นต่อไป ตอนเย็นก็อาบน้ำ มาช่วยเขาทำเตรียมสำหรับกินข้าวบ้าง ล้างชามบ้าง กวาดถูบ้านบ้าง พอตอนดึกก็นอนกันไป ฉันนอนกับยาย ก็มีหน้าที่ปูที่นอน กางมุ้ง ยายจะมาจัดแจงให้เรียบร้อยอีกที แล้วชวนสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ยายเป็นคนขยัน บางทีก็ชวนหลานๆ ไปกวาดใบไม้ เศษขยะตามรั้วรอบบ้านบ้าง ใต้ถุนบ้านบ้าง เด็กไม่รู้ประสาหรอกค่ะ ให้ทำอะไรที่ใช้แรงก็สนุกไปหมด หลายๆ คน แข่งกันยิ่งสนุก
พอโตขึ้นมาหน่อย ฉันได้ย้ายตามพ่อมาที่บ้านปู่ย่าซึ่งคนละตำบล บ้านมีพื้นที่กว้าง รอบ ๆเป็นทุ่งนา คลอง และคูน้ำ แค่ไม่มีรั้วบ้านเหมือนบ้านยาย ฉันไม่ค่อยได้เล่นน้ำคลองหรือคูน้ำ เพราะในบ้านยายนั้นไม่มี จึงว่ายน้ำไม่เป็นด้วย แต่ความเป็นเด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน แม้จะกลัวแต่ก็ชอบ คูคลองแถวนี้น้ำอุดมสมบูรณ์มาก เราขุดบ่อพักน้ำเข้ามาเก็บไว้ใช้ตลอดทั้งปี มีแค่บางปีที่แล้งมากเท่านั้นจะลำบากหน่อย ใช้ได้ทั้งอาบ ทั้งใช้ในครัวเรือน และรดน้ำต้นไม้รอบบ้านได้เหลือเฟือ ปลูกผักอะไรก็งอกงามดี ปู ปลา ในน้ำ ฉันก็ได้กินบ่อยมาก เพราะหาง่าย
ที่นี่ฉันไม่มีลูกพี่ลูกน้องที่ในวัยจะเล่นด้วยกัน มีแต่น้องชายสองคนที่วัยไล่เลี่ยกัน ซึ่งก็จะทะโมนจะตามประสาผู้ชาย ฉันซึ่งเริ่มเข้าช่วงมัธยมต้นแล้ว วันหยุดก็จะเล่นตกปลาบ้าง ไปกระโดดน้ำบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง วิ่งเล่น เตะบอลกันบ้าง แต่กิจกรรมส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปทางอ่านหนังสือการ์ตูน นิยาย หรือของเล่นพวกการ์ดเกม หุ่นยนต์ประกอบ หรือดูทีวีด้วยกัน เนื่องจากที่บ้านปู่ย่า เราได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่มากขึ้น พี่น้องอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า เพราะพ่อทำงานไม่ไกลจากบ้าน เราได้เจอกันเกือบจะทั้งวัน พ่อเริ่มเอาหมามาเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน พวกเราพี่น้องก็จะมาคอยเล่นกับลูกหมาเพลิดเพลินกันไป
แสงยามเย็นนี่สวยทีเดียว
พอเริ่มโตเป็นวัยรุ่น ต่างคนก็ต่างมีกิจกรรมของตัวเอง ส่วนฉันหลังจากช่วยงานบ้านอื่น ๆ เสร็จ ก็อ่านหนังสือพวกนิยายกับการ์ตูนซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าถามว่าช่วงชีวิตไหนสนุกกว่ากัน ฉันว่าก็สนุกคนละแบบตามช่วงเวลาของวัย เราไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเดินห้าง รู้จักของเล่นอื่นๆ แต่เราก็เล่นแบบเด็กลูกทุ่งบ้านนอกที่สนุกได้อีกแบบหนึ่ง มันก็เป็นความทรงจำที่ดีเหมือนกัน ถ้าเล่าให้เด็กๆรุ่นนี้ฟัง ก็คงอารมณ์เหมือนเราอ่านหนังสือ “เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก” นั่นเอง
วัยเด็กไม่ว่าเราจะมีความทรงจำแบบไหน เราก็มีความสุขกับช่วงเวลานั้นมาแล้ว เราไม่ย้อนวันวานเพื่อเอาไปเปรียบเทียบว่าใครดีกว่ากัน แต่เราจะแบ่งปันช่วงคืนวันที่เคยสุขมาเล่าสู่กันฟัง
>>>>>จบบทที่ 7 แล้วค่ะ
โฆษณา