Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แชร์
•
ติดตาม
6 เม.ย. 2022 เวลา 00:00 • หนังสือ
อ่านยังไงให้เข้าใจเนื้อหา และจำได้ไม่ลืม
ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay
เชื่อว่าหลายคนเวลาที่อ่านหนังสือ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็มักจะลืมในสิ่งที่อ่านไป ซึ่งความจริงแล้วหากคุณเข้าใจ “วิธีอ่าน” และ “วิธีเพิ่มความจำ” อย่างมีประสิทธิภาพได้ ไม่ว่าจะอ่านกี่เล่มคุณก็ยังคงจดจำเนื้อหาได้แน่นอน
.
ก่อนอื่นต้องรู้สาเหตุว่า ทำไมเมื่ออ่านไปสักระยะเราถึงลืมเนื้อหาส่วนที่อ่านไป นั่นก็เพราะว่า…
.
เราไม่ได้นำมันออกมาใช้ การใช้ที่ว่านี้ในหนังสือ The Power of Output พูดถึงการนำสิ่งที่เรียนรู้ออกมาใช้ ผ่านเล่าให้คนอื่นฟัง เขียนสรุปไว้ เอาไปสอน หรือ เอาสิ่งที่ในหนังสือบอกไปลงมือทำจริงๆ
.
นอกจากนั้น อีกสาเหตุที่ทำให้หลายคนลืมเนื้อหาที่อ่านไป ก็เพราะว่า เราไม่ได้ตั้ง “เป้าหมาย” ว่าอยากจะรู้อะไรจากเล่มที่อ่านตั้งแต่ตอนแรก ทำให้เวลาอ่าน ก็มักจะอ่านไปแบบผ่านๆเสียมากกว่า
.
1
แล้วจะทำยังไง ให้อ่านแล้ว “เข้าใจ” เนื้อหาได้ดีเยี่ยม และ “ไม่ลืม” สิ่งที่อ่านไป
.
อย่างแรก ต้องรู้ ‘จุดประสงค์’ ของตัวเองก่อน ว่า “อ่านเล่มนี้ไปเพื่ออะไร ?”
.
แน่นอนว่าแต่ละคนก็มีจุดประสงค์ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว เวลาอ่านเราจะมีจุดประสงค์อยู่หลักๆ 5 อย่าง ลองดูนะครับว่า จุดประสงค์ของคุณเหมือนหรือต่างจาก 5 อย่างนี้ไหม
.
1. อ่านเพราะ อยากเข้าใจแนวคิดหลัก หรือ ประเด็นสำคัญของเล่มนั้น
.
2. อ่านเพราะ ต้องการข้อมูลบางอย่าง หมายถึง คุณต้องการหาคำตอบอะไรบางอย่างจากเล่มที่คุณสนใจ
.
3. อ่านเพราะ อยากอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ บางเล่มที่เราเห็นว่าเป็นความรู้ใหม่ เราก็อยากจะรู้ว่ามีอะไรบ้างที่ต่างไปจากเดิม
.
4. อ่านเพราะ อยากได้ข้อมูลที่เกิดจากการวิเคราะห์ของผู้เขียน และ หลักฐานต่างๆที่ผู้เขียนอธิบาย ส่วนใหญ่มักจะเป็นหนังสือแนวธุรกิจ
.
5. อ่านเพราะ อยากพัฒนาทักษะในงานที่กำลังทำอยู่ อย่างเช่น หนังสือเกี่ยวกับการขาย เป็นต้น
.
.
เมื่อคุณรู้ตัวเองแล้วว่า เล่มที่เลือกอ่านนั้นเราอ่านเพราะ “จุดประสงค์” ไหน หลังจากนั้นก็ถึงขั้นต่อไป คือ “วิธีการอ่าน” แล้วละครับ โดยหลักๆ ผมจะขออธิบายวิธีการอ่าน 3 วิธี ที่ช่วยให้คุณเจอ ‘คำตอบ’ ที่คุณต้องการครับ
.
1. อ่านแบบ ‘ดูภาพรวม’
.
เป็นการอ่านเพื่อให้รู้ภาพรวมของเล่ม ทำความใจในสิ่งที่ผู้เขียนจะเล่า โดยอาจจะอ่านที่สารบัญ เพื่อดูว่าแต่ละหัวข้อเชื่อมโยงกันยังไง
.
สำหรับใครที่อ่านเพราะ ต้องการรู้ข้อมูลบางอย่าง สามารถใช้วิธีนี้ในการหาเนื้อหาที่คุณอยากได้คำตอบ เพื่อลดเวลาในการอ่านจากหน้าแรกไปจนจบ
.
2. อ่าน ‘บทนำ’ และ ‘บทสรุป’
.
การอ่านบทนำ และ บทสรุปก่อน ช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่า หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนจะพูดถึงเรื่องอะไรเป็นหลัก ใครที่มองหาแนวคิด หรือ อยากอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ ในเล่ม ก็จะเข้าใจได้เร็วว่าหนังสือเล่มนี้จะพูดถึงอะไร
.
3. อ่านแบบ ‘กวาดสายตา’
.
วิธีนี้จะช่วยให้คุณค้นหาคำตอบที่ต้องการได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะ อะไรที่ไม่ใช่คำตอบของคุณ คุณก็จะไม่สนใจ และ ไปโฟกัสกับเนื้อหาตรงนั้น ซึ่งวิธีนี้ก็ได้รับการแนะนำว่าเป็นวิธีอ่านที่ดีวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการอ่าน และ ได้คำตอบที่ต้องการเร็วขึ้น
.
.
สุดท้าย เมื่อคุณได้ ‘คำตอบ’ ของจุดประสงค์ตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมนำคำตอบนั้น ไปลงมือทำ , เขียนสรุป หรือ สอนผู้อื่น เพื่อให้สมอง ‘จดจำ’ ได้ และ ‘ไม่ลืม’ ดูนะครับ และใครที่มีเทคนิคการอ่านแบบไหน ก็สามารถแชร์กันมาได้เลยนะครับ :)
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดยเพจ “แชร์”
.
ติดตามเนื้อหา ความรู้ ที่ผมจะนำมาให้คุณทุกเช้า อย่าลืมกด “ติดตาม” กันไว้ทุกช่องทางนะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
.
Facebook >>
https://bit.ly/3lwhfc6
Instragram >>
https://bit.ly/3AlRf9r
Blockdit >>
https://bit.ly/3hDUB04
.
Source: หนังสือ ExtremeProductivity ‘ทำน้อยลง แต่ได้งานมากขึ้น ด้วยเคล็ดลับจากซีอีโอนักบริหารเวลา’
.
#shareแชร์
#ExtremeProductivity
#ทำน้อยลงแต่ได้งานมากขึ้นด้วยเคล็ดลับจากซีอีโอนักบริหารเวลา
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย