4. ข้อมุ่งประเด็นมายังประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีประชากรอยู่ราวๆ 37.8 ล้านคน และมียอดผู้อพยพเข้าประเทศ ณ ปัจจุบัน (สถิติ 4 เม.ย.65) คิดเป็น 6.5% ของประชากรชาวโปแลนด์ ย่อมเกิดปัญหานานับประการ แม้การสนับสนุนข้อ 2. จะส่งมาช่วยมากเพียงใด
เปรียบได้กับการที่มหาอำนาจพญาอินทรีย์ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนนำไปใช้ต่อต้านรัสเซีย คือ ยิ่งนานวัน ผู้อพยพยิ่งมากขึ้น โปแลนด์จะยิ่ง “สูญเสียความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ” ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเวลาที่ค่าพลังงาน ค่าอาหารคน-อาหารพืช-อาหารสัตว์กำลังขึ้นราคา
5. การระบาดของสถานการณ์ COVID ยังคงมีอยู่ แต่ในสภาวะสงครามเช่นนี้ การสวมใส่หน้ากากอนามัย และระวังป้องกัน COVID มิใช่ประเด็นหลักที่พึงใส่ใจ (เพียงลี้ภัยออกมาให้ปลอดภัยได้ ก็ดีมากแล้ว) จึงอาจทำให้ค่ายผู้อพยพที่มีความแออัด กลายเป็น Cluster การแพร่ระบาด
หรือมีการพัฒนาของสายพันธุ์ COVID ต่างๆ ต่อไป